คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไฉน บุญยก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 713 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล การหักผลขาดทุนสะสมข้ามปีตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ณ เวลาคำนวณ
การคำนวณกำไรสุทธิสำหรับเก็บภาษีต้องบังคับตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาคำนวณนั้นแม้ว่าผลกำไรหรือขาดทุนจะเกิดขึ้นในระหว่างยังใช้กฎหมายเดิมที่ยกเลิกไปแล้วก็ตามไม่เป็นการใช้กฎหมายย้อนหลังเพราะเป็นการคำนวณตามวิธีการในกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะคำนวณกำไรเพื่อจะเก็บภาษีจะนำเอากฎหมายที่ยกเลิกไปมาใช้ในการคำนวณเพื่อเก็บภาษีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 47/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษี ต้องใช้กฎหมายที่บังคับใช้ในขณะคำนวณ แม้ผลกำไร/ขาดทุนจะเกิดขึ้นภายใต้กฎหมายเดิม
การคำนวณกำไรสุทธิสำหรับเก็บภาษีต้องบังคับตามกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาคำนวณนั้น แม้ว่าผลกำไรหรือขาดทุนจะเกิดขึ้นในระหว่างยังใช้กฎหมายเดิมที่ยกเลิกไปแล้วก็ตาม ไม่เป็นการใช้กฎหมายย้อนหลัง เพราะเป็นการคำนวณตามวิธีการในกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะคำนวณกำไรเพื่อจะเก็บภาษี จะนำเอากฎหมายที่ยกเลิกไปมาใช้ในการคำนวณเพื่อเก็บภาษีไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงต้องแสดงการหลอกลวงผู้เสียหายโดยตรง การหลอกลวงเจ้าหน้าที่ไม่ถือเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
ตามคำบรรยายฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยหลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งอย่างไรเพียงแต่บรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกันหลอกลวงพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าห้องเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 นั้นไม่แสดงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฉ้อโกงต้องมีการหลอกลวงผู้เสียหายโดยตรง การหลอกลวงเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียวไม่ถือเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
ตามคำบรรยายฟ้องไม่ปรากฏว่าจำเลยหลอกลวงโจทก์ด้วยการแสดงข้อความเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งอย่างไร เพียงแต่บรรยายฟ้องว่าจำเลยร่วมกันหลอกลวงพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าห้องเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 2 นั้น ไม่แสดงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1766/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พฤติการณ์ชักปืนเล็งยิง แม้มิได้ยิงสำเร็จ ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยชักปืนซึ่งมีกระสุนบรรจุอยู่ออกมาแล้วกระชากลูกเลื่อนขึ้นลำ จ้องเล็งไปยังผู้เสียหาย นิ้วมือแตะอยู่ที่ไกปืน พร้อมที่จะยิงโจทก์ร่วม จำเลยยังไม่ยิงทันทีเพราะเกรงกระสุนจะถูกมารดาโจทก์ร่วม ประกอบกับพวกของจำเลยเข้าแย่งปืนจากจำเลยไป จำเลยจึงยิงโจทก์ร่วมไม่สำเร็จ การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงเจตนาจะฆ่าโจทก์ร่วมโดยได้ลงมือกระทำความผิดนั้นแล้วแต่กระทำไปไม่ตลอด จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
(ตามนัยฎีกาที่ 147/2504 ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1766/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามฆ่า: การกระทำที่ลงมือแล้วแต่ไม่สำเร็จ
จำเลยชักปืนซึ่งมีกระสุนบรรจุอยู่ออกมาแล้วกระชากลูกเลื่อนขึ้นลำจ้องเล็งไปยังผู้เสียหาย นิ้วมือแตะอยู่ที่ไกปืน พร้อมที่จะยิงโจทก์ร่วม จำเลยยังไม่ยิงทันทีเพราะเกรงกระสุนจะถูกมารดาโจทก์ร่วม ประกอบกับพวกของจำเลยเข้าแย่งปืนจากจำเลยไป จำเลยจึงยิงโจทก์ร่วมไม่สำเร็จ การกระทำของจำเลยเป็นการแสดงเจตนาจะฆ่าโจทก์ร่วม โดยได้ลงมือกระทำความผิดนั้นแล้วแต่กระทำไปไม่ตลอด จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น(ตามนัยฎีกาที่ 147/2504 ประชุมใหญ่)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ: ผู้ถูกทำร้ายมีอาวุธและแสดงเจตนาทำร้าย ผู้ถูกทำร้ายเข้าใกล้ ผู้ถูกทำร้ายมีลักษณะเหนือกว่า
ผู้ตายรูปร่างสูงและใหญ่กว่าจำเลย ผู้ตายต่อยเตะจำเลย จำเลยล้มลง พอจำเลยลุกขึ้น ผู้ตายใช้มือขวาจับด้ามมีดพกแต่ยังไม่ทันชักมีดออกจากฝัก กิริยาของผู้ตายที่ใช้มือขวาจับด้ามมีดพกในขณะที่การทำร้ายยังไม่ขาดตอนนั้น ย่อมชี้ให้เห็นว่าผู้ตายมีเจตนาที่จะแทงจำเลย
เมื่อพิจารณาถึงว่าขณะนั้นผู้ตายอยู่ห่างจำเลยประมาณ 1 วา ผู้ตายเดินเข้าไปหาจำเลย พร้อมกับดึงเอามีดพกซึ่งเหน็บอยู่ที่หน้าท้องออกมาถือไว้ เป็นมีดพกมีฝักอยู่เกือบศอก จำเลยยิงผู้ตาย 1 นัด ผู้ตายเดินเข้ามาหาจำเลย แสดงชัดว่าผู้ตายเจตนาแรงกล้าที่จะแทงจำเลย จึงได้ดึงมีดพกที่เหน็บอยู่ออกมาถือไว้และเดินเข้ามาหาจำเลย เมื่อจำเลยยิงไปแล้ว 1 นัด ผู้ตายยังเดินเข้ามาหาจำเลยอีก จำเลยจึงยิงไปอีก 1 นัด ผู้ตายล้มลงถึงแก่ความตาย เห็นได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตน: การกระทำของผู้ตายแสดงเจตนาทำร้าย จำเลยมีสิทธิป้องกันตนได้
ผู้ตายรูปร่างสูงและใหญ่กว่าจำเลย ผู้ตายต่อยเตะจำเลย จำเลยล้มลงพอจำเลยลุกขึ้น ผู้ตายใช้มือขวาจับด้ามมีดพกแต่ยังไม่ทันชักมีดออกจากฝัก กิริยาของผู้ตายที่ใช้มือขวาจับด้ามมีดพกในขณะที่การทำร้ายยังไม่ขาดตอนนั้น ย่อมชี้ให้เห็นว่าผู้ตายมีเจตนาที่จะแทงจำเลย
เมื่อพิจารณาถึงว่าขณะนั้นผู้ตายอยู่ห่างจำเลยประมาณ 1 วาผู้ตายเดินเข้าไปหาจำเลย พร้อมกับดึงเอามีดพกซึ่งเหน็บอยู่ที่หน้าท้องออกมาถือไว้ เป็นมีดพกมีฝักอยู่เกือบศอก จำเลยยิงผู้ตาย 1 นัด ผู้ตายเดินเข้ามาหาจำเลย แสดงชัดว่าผู้ตายเจตนาแรงกล้าที่จะแทงจำเลย จึงได้ดึงมีดพกที่เหน็บอยู่ออกมาถือไว้และเดินเข้ามาหาจำเลย เมื่อจำเลยยิงไปแล้ว 1 นัด ผู้ตายยังเดินเข้ามาหาจำเลยอีก จำเลยจึงยิงไปอีก 1 นัด ผู้ตายล้มลงถึงแก่ความตาย เห็นได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าทำศพต้องมีฐานะเป็นผู้จัดการศพหรือมีส่วนได้เสียโดยชอบด้วยกฎหมาย การพิพากษาเกินคำขอเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้อง
ฟ้องว่าเป็นภรรยาผู้ตาย ขอให้ผู้รับมรดกตามพินัยกรรมจ่ายค่าทำศพ โดยไม่ได้ขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกหรือผู้จัดการศพมาด้วย ศาลจะพิพากษาตั้งให้เป็นผู้จัดการศพไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ
เมื่อศาลยังไม่ได้พิพากษาตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการศพ โจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินค่าทำศพจากจำเลยผู้รับมรดก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1730/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าทำศพของผู้ไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดก: การฟ้องต้องขอตั้งเป็นผู้จัดการศพก่อน
ฟ้องว่าเป็นภรรยาผู้ตาย ขอให้ผู้รับมรดกตามพินัยกรรมจ่ายค่าทำศพโดยไม่ได้ขอให้ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดกหรือผู้จัดการศพมาด้วย ศาลจะพิพากษาตั้งให้เป็นผู้จัดการศพไม่ได้ เพราะเป็นการพิพากษาเกินคำขอ
เมื่อศาลยังไม่ได้พิพากษาตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการศพโจทก์ก็ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกเงินค่าทำศพจากจำเลยผู้รับมรดก
of 72