พบผลลัพธ์ทั้งหมด 224 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1779-1780/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีทุเลาและการชำระหนี้จำนองหลังจำหน่ายคดีของผู้ค้ำประกัน
จำเลยเอาที่ดินมาวางเป็นหลักประกันทุเลาการบังคับคดีในระหว่างพิจารณาคดี จำเลยตายไปเกินกว่า 1 ปี ไม่มีผู้ใดขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดี คดีเฉพาะตัวจำเลยจึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งเช่นว่านั้นย่อมใช้บังคับแก่การประกันนั้นได้โดยไม่ต้องฟ้องผู้ค้ำประกันขึ้นใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 274 และอายุความเจ้าหนี้ของเจ้ามรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 จะนำมาใช้แก่กรณีนี้ไม่ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองให้อำนาจผู้รับจำนองที่จะยื่นคำร้องต่อศาลก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด แต่ถ้าไม่ยื่นภายในกำหนดดังกล่าวก็หาทำให้ผู้รับจำนองหมดสิทธิไปไม่ ดังนั้นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่กระทบถึงบุริมสิทธิของผู้รับจำนองซึ่งอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินที่จำนองได้ ดังประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสองให้อำนาจผู้รับจำนองที่จะยื่นคำร้องต่อศาลก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด แต่ถ้าไม่ยื่นภายในกำหนดดังกล่าวก็หาทำให้ผู้รับจำนองหมดสิทธิไปไม่ ดังนั้นการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจึงไม่กระทบถึงบุริมสิทธิของผู้รับจำนองซึ่งอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินที่จำนองได้ ดังประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การผู้ต้องหาและพยานผู้กระทำผิดใช้ประกอบคำเบิกความอื่นได้ แม้มีน้ำหนักน้อย
คำให้การของ ร.ชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า เมื่อไม่ได้ตัวร.มาเบิกความที่ศาล เพราะถูกคนร้ายลอบยิงตายเสียก่อน แม้จะมีน้ำหนักน้อย แต่ก็ใช้เป็นคำประกอบคำเบิกความของพยานอื่นได้(อ้างฎีกาที่ 692/2499)
เมื่อเจ้าพนักงานจับ ส.ได้ส.ให้การว่าจำเลยและส. ได้ไปทำการปล้นพนักงานสอบสวนกัน ส.ไว้เป็นพยาน ส.มาเบิกความยืนยันข้อความดังกล่าว คำของ ส. ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดและโจทก์กันไว้เป็นพยาน เป็นคำพยานที่รับฟังได้ (อ้างฎีกาที่ 200/2474) แต่มีน้ำหนักน้อย
เมื่อเจ้าพนักงานจับ ส.ได้ส.ให้การว่าจำเลยและส. ได้ไปทำการปล้นพนักงานสอบสวนกัน ส.ไว้เป็นพยาน ส.มาเบิกความยืนยันข้อความดังกล่าว คำของ ส. ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดและโจทก์กันไว้เป็นพยาน เป็นคำพยานที่รับฟังได้ (อ้างฎีกาที่ 200/2474) แต่มีน้ำหนักน้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การพยานผู้เสียหายและผู้กระทำผิดร่วม สามารถใช้ประกอบการพิจารณาได้ แม้มีน้ำหนักน้อย
คำให้การของ ร.ชั้นสอบสวนเป็นพยานบอกเล่า เมื่อไม่ได้ตัว ร.มาเบิกความที่ศาลเพราะถูกคนร้ายลอบยิงตายเสียก่อน แม้จะมีน้ำหนักน้อย แต่ก็ใช้เป็นคำประกอบคำเบิกความของพยานอื่นได้(อ้างฎีกาที่ 692/2499)
เมื่อเจ้าพนักงานจับ ส. ได้ ส. ให้การว่าจำเลยและ ส. ได้ไปทำการปล้น พนักงานสอบสวนกัน ส. ไว้เป็นพยาน ส.มาเบิกความยืนยันข้อความดังกล่าว คำของ ส. ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดและโจทก์กันไว้เป็นพยาน เป็นคำพยานที่รับฟังได้(อ้างฎีกาที่ 200/2474) แต่มีน้ำหนักน้อย
เมื่อเจ้าพนักงานจับ ส. ได้ ส. ให้การว่าจำเลยและ ส. ได้ไปทำการปล้น พนักงานสอบสวนกัน ส. ไว้เป็นพยาน ส.มาเบิกความยืนยันข้อความดังกล่าว คำของ ส. ซึ่งเป็นผู้กระทำผิดและโจทก์กันไว้เป็นพยาน เป็นคำพยานที่รับฟังได้(อ้างฎีกาที่ 200/2474) แต่มีน้ำหนักน้อย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืน: การพิจารณาโทษตามฟ้องที่ไม่ระบุการยิงปืนโดยตรง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกมีปืนเป็นอาวุธ ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยจำเลยกับพวกใช้ปืนขู่เข็ญไม่ให้พวกเจ้าทรัพย์ขัดขวาง มิฉะนั้นจะใช้ปืนยิงให้ตาย ดังนี้ แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า เมื่อเจ้าทรัพย์กับพวกตามจำเลยกับพวกไปทัน พวกจำเลยเอาปืนยิงเจ้าทรัพย์เจ้าทรัพย์ก็ยิงโต้ตอบกันหลายนัด ก็ดี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคสอง จะลงโทษจำคุกจำเลยได้ไม่เกิน 15 ปีเท่านั้น เพราะตามฟ้องไม่ได้บรรยายว่า จำเลยยิงปืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืนและการลดโทษจำคุกตามบทบัญญัติของกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกมีปืนเป็นอาวุธ ร่วมกับปล้นทรัพย์ โดยจำเลยกับพวกใช้ปืนขู่เข็ญไม่ให้พวกเจ้าทรัพย์ขัดขวาง มิฉะนั้นจะใช้ปืนยิงให้ตาย ดังนี้ แม้ทางพิจารณาจะได้ความว่า เมื่อเจ้าทรัพย์กับพวกตามจำเลยกับพวกไปทัน พวกจำเลยเอาปืนยิงเจ้าทรัพย์ เจ้าทรัพย์ก็ยิงโต้ตอบกันหลายนัด ก็ดี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 2 จะลงโทษจำคุกจำเลยได้ไม่เกิน 15 ปีเท่านั้น เพราะตามฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่า จำเลยยิงปืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คชำระหนี้เงินกู้ไม่สำเร็จ หนี้เงินกู้ยังไม่ระงับ ไม่ขาดอายุความ
การออกเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ เมื่อไม่มีการใช้เงินตามเช็ค หนี้เงินกู้ก็ยังไม่ระงับ มูลหนี้คงเป็นหนี้เงินกู้ตามเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่ขึ้นเงินไม่ถือเป็นการชำระหนี้ เงินกู้ยังไม่ระงับ ไม่ขาดอายุความ
การออกเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ เมื่อไม่มีการใช้เงินตามเช็ค หนี้เงินกู้ก็ยังไม่ระงับ มูลหนี้คงเป็นหนี้เงินกู้ตามเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหายกับฐานลักทรัพย์: ความแตกต่างขององค์ประกอบความผิดและผลทางกฎหมาย
เจ้าทรัพย์เอาเงินเหน็บไว้ชายผ้าแล้วเดินไปธุระ จำเลยเดินมาตามถนนพบธนบัตรตกอยู่ก็เก็บเอาเสีย เจ้าทรัพย์พอรู้สึกว่าเงินที่เหน็บไว้หายไป ก็รีบไปดูตามทางเพราะไม่รู้ว่าตกที่ไหน ไปสอบถามจำเลยว่าเห็นเงินตกตามทางบ้างไหม จำเลยปฏิเสธ ดังนี้ เห็นว่า ตอนจำเลยเก็บเงินไปนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นของใครและก็ไม่รู้ว่าเจ้าของกำลังติดตามอยู่ ฉะนั้น เมื่อจำเลยเก็บเงินตกกลางทางได้ และเอาเป็นประโยชน์ของตนเสียโดยเจตนาทุจริต เป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหายซึ่งจำเลยเก็บได้
ฟ้องว่าจำเลยลักเงิน ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเก็บเงินตกกลางทางได้ และเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัว โดยเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหายซึ่งจำเลยเก็บได้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงแตกต่างกับฟ้องอันเป็นสารสำคัญของคดีลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามฟ้องไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยลักเงิน ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเก็บเงินตกกลางทางได้ และเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัว โดยเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหายซึ่งจำเลยเก็บได้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงแตกต่างกับฟ้องอันเป็นสารสำคัญของคดีลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหาย เทียบกับความผิดฐานลักทรัพย์: สารสำคัญของฟ้องต้องสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้
เจ้าทรัพย์เอาเงินเหน็บไว้ชายผ้าแล้วเดินไปธุระ จำเลยเดินมาตามถนนพบธนบัตรตกอยู่ก็เก็บเอาเสีย เจ้าทรัพย์พอรู้สึกว่าเงินที่เหน็บไว้หายไป ก็รีบไปดูตามทางเพราะไม่รู้ว่าตกที่ไหน ไปสอบถามจำเลยว่าเห็นเงินตกตามทางบ้างไหม จำเลยปฏิเสธ ดังนี้ เห็นว่า ตอนจำเลยเก็บเงินไปนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร และก็ไม่รู้ว่าเจ้าของกำลังติดตามอยู่ ฉะนั้น เมื่อจำเลยเก็บเงินตกกลางทางได้ และเอาเป็นประโยชน์ของตนเสียโดยเจตนาทุจริตเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหายซึ่งจำเลยเก็บได้
ฟ้องว่าจำเลยลักเงินทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเก็บเงินตกกลางทางได้และเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัว โดยเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหายซึ่งจำเลยเก็บได้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงแตกต่างกับฟ้องอันเป็นสารสำคัญของคดีลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามฟ้องไม่ได้
ฟ้องว่าจำเลยลักเงินทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเก็บเงินตกกลางทางได้และเอาเป็นประโยชน์ส่วนตัว โดยเจตนาทุจริตอันเป็นความผิดฐานยักยอกทรัพย์สินหายซึ่งจำเลยเก็บได้ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงแตกต่างกับฟ้องอันเป็นสารสำคัญของคดีลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามฟ้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้เยาว์และการแก้ไขความบกพร่องทางความสามารถเมื่อผู้แทนโดยชอบธรรมได้รับการแต่งตั้ง
เมื่อผู้เยาว์ถูกละเมิด ก็ย่อมมีอำนาจฟ้องผู้ละเมิดได้แต่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 กล่าวคือ ให้ผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้กระทำแทนหรือให้คำอนุญาตหรือให้ความยินยอม บิดาของผู้เยาว์ได้เสนอข้อหาต่อศาลแทนผู้เยาว์โดยยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เยาว์ จึงไม่เป็นบิดาของผู้เยาว์ตามกฎหมาย ไม่มีสิทธิกระทำแทนหรือให้ความยินยอมได้ ในกรณีเช่นนี้เท่ากับว่าผู้เยาว์เสนอข้อหาเอง เป็นการบกพร่องในเรื่องความสามารถเท่านั้น ไม่ใช่ไม่มีอำนาจฟ้อง เมื่อบิดาได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เยาว์แล้วก็เป็นบิดาตามกฎหมายมีอำนาจกระทำแทนหรือให้ความยินยอมในการเสนอข้อหาต่อศาลได้ การบกพร่องในเรื่องความสามารถนี้ แก้ไขให้บริบูรณ์ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 56 เมื่อจดทะเบียนสมรสแล้วก็เป็นผู้แทนโดยชอบธรรมเหตุบกพร่องในเรื่องความสามารถก็หมดไป ทำให้การฟ้องคดีแทนเด็กที่บกพร่องมาแต่ต้นเป็นอันบริบูรณ์
จำเลยฎีกาคัดค้านในเรื่องค่าสินไหมทดแทน โดยมิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงในฎีกาเพียงแต่ขอให้ถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมาเป็นข้อสนับสนุนคำฟ้องในชั้นฎีกาเท่านั้น จึงไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 เพราะมิได้กล่าวไว้ชัดแจ้งในฎีกา จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะตัดทอนจำนวนค่าเสียหายให้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2509)
จำเลยฎีกาคัดค้านในเรื่องค่าสินไหมทดแทน โดยมิได้ยกข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงในฎีกาเพียงแต่ขอให้ถือเอาคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยมาเป็นข้อสนับสนุนคำฟ้องในชั้นฎีกาเท่านั้น จึงไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 เพราะมิได้กล่าวไว้ชัดแจ้งในฎีกา จึงไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะตัดทอนจำนวนค่าเสียหายให้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2509)