พบผลลัพธ์ทั้งหมด 224 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 867/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการแบ่งทรัพย์สินของเจ้าของร่วม แม้สถานะสมรสไม่ชัดเจน และขอบเขตการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ
เมื่อพิพากษาคดีครั้งแรก ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้พิพากษาใหม่ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์คณะเดิมย่อมทำคำพิพากษาใหม่ได้ ไม่มีกฎหมายบังคับให้เปลี่ยนผู้พิพากษา
ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยคดีเดียวกันนี้ไว้ครั้งหนึ่งว่า แม้โจทก์จำเลยจะมีฐานะเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม ทรัพย์ที่โจทก์จำเลยหาได้ร่วมกัน โจทก์มีสิทธิฟ้องขอแบ่งส่วนของโจทก์ได้ การที่ศาลจะวินิจฉัยให้โจทก์จำเลยแบ่งทรัพย์สินกันในฐานะเจ้าของร่วม หาเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นไม่ คำวินิจฉัยของศาลฎีกาในเรื่องนี้ย่อมเป็นอันยุติ และศาลฎีกาได้พิพากษาให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเรื่องทรัพย์ที่โจทก์ขอแบ่ง ซึ่งศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยไว้ แล้วให้พิพากษาใหม่ โจทก์จะฎีกาได้เฉพาะข้อที่ศาลฎีกาให้พิพากษาใหม่เท่านั้น จะรื้อฟื้นข้อที่ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้หรือข้ออื่นที่มิได้พิพากษาให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่อีกไม่ได้ เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ.
ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยคดีเดียวกันนี้ไว้ครั้งหนึ่งว่า แม้โจทก์จำเลยจะมีฐานะเป็นสามีภริยากันตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม ทรัพย์ที่โจทก์จำเลยหาได้ร่วมกัน โจทก์มีสิทธิฟ้องขอแบ่งส่วนของโจทก์ได้ การที่ศาลจะวินิจฉัยให้โจทก์จำเลยแบ่งทรัพย์สินกันในฐานะเจ้าของร่วม หาเป็นการนอกฟ้องนอกประเด็นไม่ คำวินิจฉัยของศาลฎีกาในเรื่องนี้ย่อมเป็นอันยุติ และศาลฎีกาได้พิพากษาให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเรื่องทรัพย์ที่โจทก์ขอแบ่ง ซึ่งศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยไว้ แล้วให้พิพากษาใหม่ โจทก์จะฎีกาได้เฉพาะข้อที่ศาลฎีกาให้พิพากษาใหม่เท่านั้น จะรื้อฟื้นข้อที่ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้หรือข้ออื่นที่มิได้พิพากษาให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่อีกไม่ได้ เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าสินไหมทดแทนกรณีละเมิดทางร่างกาย ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียโอกาสในการทำงาน และค่าเสียหายจากการออกจากงาน
ในกรณีทำให้เสียหายแก่ร่างกายนั้น ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งค่าเสียหายที่ต้องขาดประโยชน์ทำมาหาได้เพราะไม่สามารถประกอบการงาน และค่าเสียหายเพื่อการที่เสียความสามารถประกอบการงานสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วนทั้งในปัจจุบันและในเวลาอนาคตด้วย การที่โจทก์ต้องถูกออกจากราชการก่อนถึงกำหนดเกษียณอายุ เพราะเสียความสามารถประกอบการงาน ทำให้เสียอาชีพขาดประโยชน์ทำมาหาได้ตามปกติไป ต้องถือว่าเป็นค่าเสียหายตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ผู้ละเมิดจำต้องใช้ค่าเสียหายที่ขาดประโยชน์ทำมาหาได้นี้
ค่าสินไหมทดแทนในกรณีละเมิดจะพึงให้ใช้เพียงใด ศาลวินิจฉัยได้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
ค่าสินไหมทดแทนในกรณีละเมิดจะพึงให้ใช้เพียงใด ศาลวินิจฉัยได้ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าทายสืบพยานจำกัดขอบเขต ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะจากพยานที่ตกลงกันไว้
คดีที่คู่ความตกลงท้ากันให้สืบพยาน 2 ปากถือเป็นข้อแพ้ชนะ โดยให้ศาลวินิจฉัยจากพยาน 2 ปากนี้ว่าเป็นจริงดังที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ ถ้าได้ความทางวินิจฉัยของศาลว่าจริง จำเลยยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ความดังกล่าว โจทก์ยอมแพ้ ดังนี้ เมื่อพยาน 2 ปากให้การสมฝ่ายโจทก์ จำเลยจะขอให้นำเอกสารอื่นมาวินิจฉัยหักล้างมิได้ เพราะเป็นพยานนอกเหนือจากที่ตกลงกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าทายพยาน: ศาลวินิจฉัยตามพยานที่ตกลงกัน ห้ามนำพยานนอกเหนือมาโต้แย้ง
คดีที่คู่ความตกลงท้ากันให้สืบพยาน 2 ปาก ถือเป็นข้อแพ้ชนะ โดยให้ศาลวินิจฉัยจากพยาน 2 ปากนี้ว่าเป็นจริงดังที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ถ้าได้ความทางวินิจฉัยของศาลว่าจริงจำเลยยอมแพ้ถ้าไม่ได้ความดังกล่าว โจทก์ยอมแพ้ ดังนี้ เมื่อพยาน 2 ปากให้การสมฝ่ายโจทก์ จำเลยจะขอให้นำเอกสารอื่นมาวินิจฉัยหักล้างมิได้ เพราะเป็นพยานนอกเหนือจากที่ตกลงกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้สมบูรณ์ แม้ไม้ถูกยึด เหตุวัตถุประสงค์ไม่ขัดกฎหมาย จำเลยต้องคืนเงินมัดจำ
จำเลยทำสัญญาจะขายไม้ให้แก่โจทก์แม้จะปรากฏว่าไม้ที่จำเลยทำสัญญาจะขายนั้นเป็นไม้ที่ถูกเจ้าพนักงานจับและยึดไว้เป็นของกลางเพราะใบอนุญาตขาดอายุ สัญญาจะซื้อขายไม้ดังกล่าวนั้นก็สมบูรณ์ไม่เป็นโมฆะเพราะวัตถุประสงค์ของสัญญานั้น คือการจะขายไม้ไม่ได้ถูกต้องห้ามโดยกฎหมายหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อขายอ้อยเพื่อทำน้ำตาล: พิจารณาจากการผลิตเพื่ออุตสาหกรรม
จำเลยซื้ออ้อยโจทก์มาทำเป็นน้ำตาลเสียก่อนแล้วจึงจำหน่ายเป็นสินค้าน้ำตาล ไม่ใช่สินค้าอ้อยอย่างนี้ถือได้ว่าเป็นการทำเพื่ออุตสาหกรรมของจำเลยแล้วเมื่อจำเลยไม่ชำระราคา สิทธิเรียกร้องย่อมมีกำหนดอายุความ5 ปี (อ้างฎีกาที่ 395/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อขายอ้อยเพื่อทำน้ำตาล: พิจารณาจากการผลิตเพื่ออุตสาหกรรม
จำเลยซื้ออ้อยโจทก์มาทำเป็นน้ำตาลเสียก่อนแล้วจึงจำหน่ายเป็นสินค้าน้ำตาล ไม่ใช่สินค้าอ้อย อย่างนี้ถือได้ว่าเป็นการทำเพื่ออุตสาหกรรมของจำเลยแล้ว เมื่อจำเลยไม่ชำระราคา สิทธิเรียกร้องย่อมมีกำหนดอายุความ 5 ปี. (อ้างฎีกาที่ 395/2502)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดจากการขับเรือประมาท ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียความสามารถในการทำงาน
จำเลยขับเรือยนต์โดยประมาทชนเรือที่โจทก์โดยสารมาล่มลง
โจทก์ถูกเรือจำเลยชนกระดูกซี่โครงซีกต้นหัก และกระดูกยังไม่งอกติดกันแขนซ้ายก็ยังยกสิ่งของและทำงานไม่ได้ตามปกติที่เคยทำเพราะเวลายกสิ่งของก็มีอาการเสียวและเจ็บปวดที่หน้าอกและทำงานหนักไม่ได้แพทย์ผู้รักษาว่าไม่แน่ว่าจะหาย ถือได้ว่าโจทก์เสียความสามารถประกอบการงานตามปกติไปโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา444 และ 446 ได้
การพิจารณาให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเท่าใด เพียงไร นั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้องจึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องย่อมเป็นการสมควร
โจทก์ถูกเรือจำเลยชนกระดูกซี่โครงซีกต้นหัก และกระดูกยังไม่งอกติดกันแขนซ้ายก็ยังยกสิ่งของและทำงานไม่ได้ตามปกติที่เคยทำเพราะเวลายกสิ่งของก็มีอาการเสียวและเจ็บปวดที่หน้าอกและทำงานหนักไม่ได้แพทย์ผู้รักษาว่าไม่แน่ว่าจะหาย ถือได้ว่าโจทก์เสียความสามารถประกอบการงานตามปกติไปโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา444 และ 446 ได้
การพิจารณาให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเท่าใด เพียงไร นั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้องจึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องย่อมเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากอุบัติเหตุทางน้ำ: การชดใช้ค่าเสียหายเมื่อเกิดการบาดเจ็บและการสูญเสียความสามารถในการทำงาน
จำเลยขับเรือยนต์โดยประมาทชนเรือที่โจทก์โดยสารมาล่มลง โจทก์ถูกเรือจำเลยชนกระดูกซี่โครงซี่ต้นหัก และกระดูกยังไม่งอกติดกัน แขนซ้ายก็ยังยกสิ่งของและทำงานไม่ได้ตามปกติที่เคยทำ เพราะเวลายกสิ่งของก็มีอาการเสียวและเจ็บปวดที่หน้าอกและทำงานหนักไม่ได้ แพทย์ผู้รักษาว่าไม่แน่ว่าจะหาย ถือได้ว่าโจทก์เสียความสามารถประกอบการงานตามปกติไป โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยผู้กระทำละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 444 และ 446 ได้
การพิจารณาให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเท่าใด เพียงไรนั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้ เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้อง จึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องย่อมเป็นการสมควร
การพิจารณาให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งเท่าใด เพียงไรนั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะกำหนดให้ เมื่อศาลเห็นว่าโจทก์ชนะคดีเกือบเต็มฟ้อง จึงพิจารณาให้จำเลยใช้ค่าขึ้นศาลแทนโจทก์เต็มตามฟ้องย่อมเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 772/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ครอบครองเช็คโดยชอบ ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดชอบ แม้ไม่ได้ระบุแหล่งที่มาของเช็ค
เช็คที่ออกให้แก่ผู้ถือนั้น ผู้ใดครอบครองเช็คนั้นเบื้องต้นก็ต้องถือว่าเป็นผู้ทรงเช็คนั้นโดยชอบ จึงไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้เช็คจากใคร ในฐานะอย่างไร เมื่อใด แต่อย่างไร และฟ้องไม่เคลือบคลุม
โจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็คพิพาทจึงถือว่าเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินยังธนาคารไม่ได้ จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่าย ก็ต้องมีหน้าที่รับผิดต่อโจทก์.
โจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็คพิพาทจึงถือว่าเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย เมื่อโจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินยังธนาคารไม่ได้ จำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่าย ก็ต้องมีหน้าที่รับผิดต่อโจทก์.