คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อดุล รัตนปิณฑะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 333 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญากู้เงินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แม้มีข้อตกลงดอกเบี้ยเกินอัตราก็ไม่ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญากู้เงินตามสำเนาสัญญากู้ท้ายฟ้องจำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์จริง เป็นแต่ต่อสู้ว่าคู่สัญญาตกลงกันให้ชำระเป็นข้าวเปลือก ได้ความเช่นนี้คดีจึงฟังได้ว่าจำเลยกู้เงินโจทก์โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือจริงตามฟ้อง ไม่จำต้องอาศัยฟังเอกสาร
การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แม้จะเป็นโมฆะแต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเป็นส่วนที่แยกออกจากการที่จำเลยกู้เงินโจทก์ซึ่งเป็นส่วนที่สมบูรณ์แล้วนั้นได้ การกู้เงินหาตกเป็นโมฆะด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากความประมาทเลินเล่อ การเปิดน้ำท่วมห้องผู้อื่นทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ผู้เปิดน้ำต้องรับผิด
เปิดก๊อกน้ำในห้องตนแล้วลืมปิด เป็นเหตุให้น้ำท่วมพื้นห้องแล้วซึมไหลเข้าไปในห้องของบุคคลอื่นซึ่งติดต่อกันและใช้ผนังห้องร่วมกันทำให้ข้าวของของเขาและผนังห้องเสียหาย ถือว่าเป็นผลเกิดจากความประมาท จึงเป็นการละเมิดที่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากความประมาทเลินเล่อ: การเปิดน้ำทิ้งไว้ทำให้น้ำท่วมและเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่น
เปิดก๊อกน้ำในห้องของตนแล้วลืมปิด เป็นเหตุให้น้ำท่วมพื้นห้องแล้วซึมไหลเข้าไปในห้องของบุคคลอื่นซึ่งติดต่อกันและใช้ผนังห้องร่วมกันทำให้ข้าวของของเขาและผนังห้องเสียหาย ถือว่าเป็นผลเกิดจากความประมาทจึงเป็นการละเมิดที่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1167/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือแจ้งข้อเท็จจริงของเจ้าพนักงาน ไม่ใช่การข่มขู่หรือละเมิดสิทธิ แม้จะส่งผลให้ใบอนุญาตสิ้นสุด
ฟ้องว่าเจ้าพนักงานการพิมพ์มีหนังสือถึงโจทก์ใจความว่า หนังสือพิมพ์ของโจทก์ไม่ได้พิมพ์ออกโฆษณาและจำหน่ายติดต่อกันเป็นระยะเวลา 30 วัน ใบอนุญาตของโจทก์สิ้นสุดลงตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 จึงเรียนมาเพื่อทราบ เป็นการข่มขู่โจทก์มิให้พิมพ์โฆษณาหนังสือพิมพ์ของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนหนังสือดังกล่าวของโจทก์ดังนี้ หนังสือที่จำเลยมีถึงโจทก์เพียงแต่แจ้งข้อเท็จจริงตามความเข้าใจของจำเลยให้โจทก์ทราบ เพื่อจะได้ไม่ปฏิบัติผิดกฎหมายขึ้น ไม่เป็นการข่มขู่หรือกระทบกระเทือนสิทธิของโจทก์ศาลย่อมไม่รับฟัองของโจทก์ไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1167/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือแจ้งข้อเท็จจริงจากเจ้าพนักงานการพิมพ์ ไม่ถือเป็นการข่มขู่หรือละเมิดสิทธิ โจทก์ยังสามารถใช้สิทธิได้
ฟ้องว่าเจ้าพนักงานการพิมพ์มีหนังสือถึงโจทก์ใจความว่าหนังสือพิมพ์ของโจทก์ไม่ได้พิมพ์ออกโฆษณาและจำหน่ายติดต่อกัน เป็นระยะเวลา 30 วันใบอนุญาตของโจทก์สิ้นสุดลงตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 จึงเรียนมาเพื่อทราบเป็นการข่มขู่โจทก์มิให้พิมพ์โฆษณาหนังสือพิมพ์ของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนหนังสือดังกล่าวของโจทก์ ดังนี้หนังสือที่จำเลยมีถึงโจทก์ เพียงแต่แจ้งข้อเท็จจริงตามความเข้าใจของจำเลยให้โจทก์ทราบ เพื่อจะได้ไม่ปฏิบัติผิดกฎหมายขึ้น ไม่เป็นการข่มขู่หรือกระทบกระเทือนสิทธิของโจทก์ ศาลย่อมไม่รับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเอาที่ดินใช้หนี้ขัดต่อกฎหมายจำนอง โจทก์บังคับโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้
หนังสือสัญญามีข้อความกล่าวเท้าถึงการจำนองที่โจทก์จำเลยทำกันไว้แต่เดิมจึงเห็นได้ว่า คู่กรณียังรับรองสัญญาจำนองที่ทำไว้เดิม แม้สัญญาจำนองจะมีกำหนดไถ่ถอนคืนกันภายใน 3 ปี เมื่อครบกำหนดโจทก์ยังมิได้ใช้สิทธิบังคับจำนอง ข้อความตา สัญญาฉบับหลังมีความว่า ข้าพเจ้านายเวส ขอทำสัญญารับเงินเพิ่มให้นายชาวซึ่งเป็นผู้รับจำนองที่ดินนาและสวนไว้ และมีข้อความยืนยันเพิ่มต่อไปในข้อ 1 แห่งสัญญาว่า "ขอรับเงินเพิ่มอีก 3,768 บาท" และยังมีข้อสัญญาต่อไปอีกว่า ยอมให้จำเลยนำเงินที่จำนองเดิมกับเงินที่รับเพิ่มไปใหม่อีก 3,768 บาท มาใช้คืนแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับจำนองได้ต่อไปอีกภายใน 2 ปี แสดงว่าโจทก์ยินยอมให้จำเลยซึ่งเป็นผู้จำนองเอาเงินมาไถ่คืนไปได้ หาใช่ว่าจำเลยยอมตกลงจะขายที่ดินที่จำนองให้แก่โจทก์แต่อย่างเดียวไม่ และข้อ 2 แห่งสัญญายังมีข้อความอีกว่า ให้ท่าน (โจทก์) เข้าครอบครองเก็บผลไม้ในสวนและทำนาแทนดอกเบี้ย และเงินเพิ่มต่อไป อันเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเลยมอบที่ดินให้ไว้เพื่อเป็นประกันเงินที่รับไปโดยการจำนอง
การเอาที่ดินใช้หนี้เป็นเงินกู้ที่จำนองเป็นประกัน ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรค 2 ผู้รับจำนองจึงไม่อาจขอให้บังคับผู้จำนองให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่จำนองไว้นั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเอาที่ดินใช้หนี้เงินกู้ที่จำนองเป็นประกัน ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 656 วรรคสอง โจทก์ไม่อาจบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์ได้
หนังสือสัญญามีข้อความกล่าวเท้าถึงการจำนองที่โจทก์จำเลยทำกันไว้แต่เดิม จึงเห็นได้ว่า คู่กรณียังรับรองสัญญาจำนองที่ทำไว้เดิมแม้สัญญาจำนองจะมีกำหนดไถ่ถอนคืนกันภายใน 3 ปี เมื่อครบกำหนดโจทก์ยังมิได้ใช้สิทธิบังคับจำนอง ข้อความตามสัญญาฉบับหลังมีความว่าข้าพเจ้านายเวสขอทำสัญญารับเงินเพิ่มให้นายขาวซึ่งเป็นผู้รับจำนองที่ดินนาและสวนไว้ และมีข้อความยืนยันเพิ่มต่อไปในข้อ 1 แห่งสัญญาว่า'ขอรับเงินเพิ่มอีก 3,768 บาท' และยังมีข้อสัญญาต่อไปอีกว่า ยอมให้จำเลยนำเงินที่จำนองเดิมกับเงินที่รับเพิ่มไปใหม่อีก 3,768 บาท มาใช้คืนแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับจำนองได้ต่อไปอีกภายใน 2 ปี แสดงว่าโจทก์ยินยอมให้จำเลยซึ่งเป็นผู้จำนองเอาเงินมาไถ่คืนไปได้ หาใช่ว่าจำเลยยอมตกลงจะขายที่ดินที่จำนองให้แก่โจทก์แต่อย่างเดียวไม่และข้อ 2 แห่งสัญญายังมีข้อความอีกว่า ให้ท่าน(โจทก์) เข้าครอบครองเก็บผลไม้ในสวนและทำนาแทนดอกเบี้ยและเงินเพิ่มต่อไป อันเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเลยมอบที่ดินให้ไว้เพื่อเป็นประกันเงิน ที่รับไปโดยการจำนอง
การเอาที่ดินใช้หนี้เงินกู้ที่จำนองเป็นประกัน ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง ผู้รับจำนองจึงไม่อาจขอให้บังคับผู้จำนองให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่จำนองไว้นั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดนายจ้างต่อการกระทำของผู้วาน แม้ไม่ใช่ลูกจ้างโดยตรง หากยอมรับความรับผิดชอบ
แม้ความจริงจะเป็นดังที่จำเลยที่ 2 ต่อสู้ ว่านายประสิทธิ์ลูกจ้างเป็นผู้จ้างจำเลยที่ 1 ให้ขับรถมาส่งกระเบื้องของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามทางการที่จ้าง แต่จำเลยที่ 2 ก็มิได้ปฏิเสธการกระทำของนายประสิทธิ์กลับยอมรับที่จะใช้ค่าเสียหายให้ต่อคนของโจทก์และตำรวจ ดุจเป็นการกระทำของลูกจ้างเอง จำเลยที่ 2 จึงปฏิเสธความรับผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของผู้วาน แม้ไม่ใช่ลูกจ้างโดยตรง หากยอมรับความรับผิดชอบ
แม้ความจริงจะเป็นดังที่จำเลยที่ 2 ต่อสู้ว่านายประสิทธิ์ลูกจ้างเป็นผู้จ้างจำเลยที่ 1 ให้ขับรถมาส่งกระเบื้องของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามทางการที่จ้าง แต่จำเลยที่ 2 ก็มิได้ปฏิเสธการกระทำของนายประสิทธิ์กลับยอมรับที่จะใช้ค่าเสียหายให้ต่อคนของโจทก์และตำรวจดุจเป็นการกระทำของลูกจ้างเอง จำเลยที่ 2 จึงปฏิเสธความรับผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021-1022/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีอาญา: ศาลวินิจฉัยได้แม้จำเลยไม่ยกข้อต่อสู้ และโจทก์รู้ตัวผู้กระทำผิด
คดีอาญา เมื่อคดีขาดอายุความศาลยกอายุความขึ้นวินิจฉัยได้เอง
ความผิดฐานยักยอกและฐานเป็นผู้จัดการทรัพย์สินผู้อื่นกระทำผิดหน้าที่ อันเป็นความผิดยอมความได้ ผู้เสียหายรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด มิได้ร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน คดีขาดอายุความ แม้จำเลยให้การรับสารภาพศาลพิพากษายกฟ้องได้
of 34