พบผลลัพธ์ทั้งหมด 333 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: การต่อสู้คดีโดยอ้างสิทธิของผู้อื่นทำให้คดีไม่มีทุนทรัพย์
โจทก์อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาทฟ้องขับไล่ให้จำเลยรื้อถอนบ้านเรือนออกไปจากที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของมารดาจำเลย จำเลยปลูกบ้านเรือนอยู่โดยอาศัยสิทธิของมารดา เมื่อจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าที่พิพาทนั้นเป็นของจำเลย จึงไม่เป็นการกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีไม่มีทุนทรัพย์: การต่อสู้คดีกรรมสิทธิ์โดยอ้างสิทธิของผู้อื่น มิใช่การกล่าวแก้กรรมสิทธิ์ของตนเอง
โจทก์อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาทฟ้องขับไล่ให้จำเลยรื้อถอนบ้านเรือนออกไปจากที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของมารดาจำเลย จำเลยปลูกบ้านเรือนอยู่โดยอาศัยสิทธิของมารดา เมื่อจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างว่าที่พิพาทนั้นเป็นของจำเลย จึงไม่เป็นการกล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ จึงเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อผูกพันตามคำพิพากษาเดิม: ข้อเท็จจริงในคดีก่อนย่อมผูกพันคู่ความในคดีหลังเกี่ยวกับประเด็นเดียวกัน
ข้อเท็จจริงในคดีก่อนซึ่งได้ว่ากันมาแล้วจนถึงที่สุดในชั้นฎีกาย่อมผูกพันคู่กรณีในคดีหลังซึ่งเคยเป็นคู่ความกันมาในคดีก่อน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางพิพาท จำเลยให้การรับว่าปิดจริง แต่ปิดกั้นคูหรือลำรางในที่ดินของจำเลย ดังนี้ จึงไม่มีประเด็นจะต้องสืบในข้อที่ว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางหรือไม่
ในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยเพียงแต่ขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานเท่านั้น ไม่ได้ขอให้พิพากษาให้จำเลยชนะคดี จึงเท่ากับจำเลยขอให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่ให้งดสืบพยานดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ดังนั้น ค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยจึงควรเสียเพียงศาลละ 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ก. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(อ้างฎีกาที่ 1689/2497)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางพิพาท จำเลยให้การรับว่าปิดจริง แต่ปิดกั้นคูหรือลำรางในที่ดินของจำเลย ดังนี้ จึงไม่มีประเด็นจะต้องสืบในข้อที่ว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางหรือไม่
ในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยเพียงแต่ขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานเท่านั้น ไม่ได้ขอให้พิพากษาให้จำเลยชนะคดี จึงเท่ากับจำเลยขอให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่ให้งดสืบพยานดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ดังนั้น ค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยจึงควรเสียเพียงศาลละ 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ก. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(อ้างฎีกาที่ 1689/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1044/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงในคดีก่อนผูกพันคดีหลัง-งดสืบพยาน-ค่าขึ้นศาล
ข้อเท็จจริงในคดีก่อนซึ่งได้ว่ากันมาแล้วจนถึงที่สุดในชั้นฎีกา ย่อมผูกพันคู่กรณีในคดีหลังซึ่งเคยเป็นคู่ความกันมาในคดีก่อน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางพิพาท จำเลยให้การรับว่าปิดจริง แต่ปิดกั้นคูหรือลำรางในที่ดินของจำเลย ดังนี้ จึงไม่มีประเด็นจะต้องสืบในข้อที่ว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางหรือไม่
ในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยเพียงแต่ขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานเท่านั้น ไม่ได้ขอให้พิพากษาให้จำเลยชนะคดี จึงเท่ากับจำเลยขอให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่ให้งดสืบพยานดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ดังนั้น ค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยจึงควรเสียเพียงศาลละ 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ก. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
(อ้างฎีกาที่ 1689/2497)
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางพิพาท จำเลยให้การรับว่าปิดจริง แต่ปิดกั้นคูหรือลำรางในที่ดินของจำเลย ดังนี้ จึงไม่มีประเด็นจะต้องสืบในข้อที่ว่าจำเลยปิดกั้นคูหรือลำรางหรือไม่
ในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยเพียงแต่ขอให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสืบพยานเท่านั้น ไม่ได้ขอให้พิพากษาให้จำเลยชนะคดี จึงเท่ากับจำเลยขอให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ที่ให้งดสืบพยานดำเนินการสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ ดังนั้น ค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกา จำเลยจึงควรเสียเพียงศาลละ 50 บาทตามตาราง 1 ข้อ 2 ก. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
(อ้างฎีกาที่ 1689/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีและการงดสืบพยาน: ศาลชอบที่จะงดสืบพยานเมื่อโจทก์ไม่สามารถนำพยานมาศาลได้และมีพฤติการณ์ประวิงคดี
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ พยานโจทก์ 2 ปากไม่มาศาลโจทก์ขอเลื่อนศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ประวิงความ ให้งดสืบพยานโจทก์นั้นเสีย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาไปอีกทั้งๆ ที่ศาลชั้นต้นได้กำชับแล้ว เหตุที่ร้อยตรีทวีปมาศาลไม่ได้ อ้างว่าป่วยเป็นไข้หวัดทั้งสองครั้งศาลชั้นต้นจะไปเผชิญสืบ ทนายโจทก์ก็ขัดข้องว่าไม่ทราบที่อยู่ของพยาน ไม่สามารถนำศาลไปเผชิญสืบได้ ส่วนพยานโจทก์อีกปากหนึ่งนั้น โจทก์อ้างว่าไปต่างจังหวัด ไม่ทราบที่อยู่ของพยาน. ตามพฤติการณ์เช่นนี้ เป็นการประวิงคดีที่ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์ 2 ปากนั้น ชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีและการงดสืบพยาน: ศาลชอบธรรมในการงดสืบพยานเมื่อโจทก์ไม่สามารถนำตัวพยานมาศาลได้
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ พยานโจทก์ 2 ปากไม่มาศาล โจทก์ขอเลื่อน ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ประวิงความ ให้งดสืบพยานโจทก์นั้นเสีย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกาว่าการที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ขอเลื่อนการพิจารณาไปอีกทั้ง ๆ ที่ศาลชั้นต้นได้กำชับแล้ว เหตุที่ร้อยตรีทวีปมาศาลไม่ได้ อ้างว่าป่วยเป็นไข้หวัดทั้งสองครั้งศาลชั้นต้นจะไปเผชิญสืบ ทนายโจทก์ก็ขัดข้องว่าไม่ทราบที่อยู่ของพยาน ไม่สามารถนำศาลไปเผชิญสืบได้ ส่วนพยานโจทก์อีกปากหนึ่งนั้น โจทก์อ้างว่าไปต่างจังหวัด ไม่ทราบที่อยู่ของพยาน ตามพฤติการณ์เช่นนี้ เป็นการประวิงคดีที่ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานโจทก์ 2 ปากนั้น ชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นทรัพย์มรดก: ที่ดินสินสมรสที่อ้างเป็นกองมรดก
ฟ้องขอแบ่งมรดกซึ่งประกอบด้วยที่ดิน 3 แปลง โดยอ้างว่ามีส่วนได้ราคา 4,000 บาท ศาลชั้นต้นฟังว่าที่ดินทั้ง 3 แปลงไม่ใช่ทรัพย์มรดก พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ดิน 2 แปลงเป็นทรัพย์มรดกพิพากษาให้แบ่งที่ดินทั้งสองให้โจทก์
จำเลยฎีกาว่าที่ดินทั้งสองแปลงนี้ไม่ใช่ทรัพย์มรดกศาลฎีการับวินิจฉัยประเด็นข้อนี้ (คงถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาก)
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ดิน 2 แปลงเป็นทรัพย์มรดกพิพากษาให้แบ่งที่ดินทั้งสองให้โจทก์
จำเลยฎีกาว่าที่ดินทั้งสองแปลงนี้ไม่ใช่ทรัพย์มรดกศาลฎีการับวินิจฉัยประเด็นข้อนี้ (คงถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาก)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดก: ข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินที่เป็นทรัพย์มรดกและส่วนได้
ฟ้องขอแบ่งมรดกซึ่งประกอบด้วยที่ดิน 3 แปลง โดยอ้างว่ามีส่วนได้ราคา 4,000 บาท ศาลชั้นต้นฟังว่าที่ดินทั้ง 3 แปลงไม่ใช่ทรัพย์มรดก พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ดิน 2 แปลงเป็นทรัพย์มรดก พิพากษาให้แบ่งที่ดินทั้งสองให้โจทก์
จำเลยฎีกาว่าที่ดินทั้งสองแปลงนี้ไม่ใช่ทรัพย์มรดก ศาลฎีการับวินิจฉัยประเด็นข้อนี้ (คงถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาก)
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าที่ดิน 2 แปลงเป็นทรัพย์มรดก พิพากษาให้แบ่งที่ดินทั้งสองให้โจทก์
จำเลยฎีกาว่าที่ดินทั้งสองแปลงนี้ไม่ใช่ทรัพย์มรดก ศาลฎีการับวินิจฉัยประเด็นข้อนี้ (คงถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาก)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 776-777/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทิศที่ดินให้ศาลจ้าวต้องทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ผู้มีกรรมสิทธิ์จะยกให้กันเองไม่ได้
ผู้ที่ปรารถนาจะอุทิศที่ดินของตนให้เป็นสมบัติของศาลจ้าว ต้องยื่นเรื่องราวแสดงความปรารถนาเป็นลายลักษณ์อักษรมอบหมายให้แก่นายอำเภอผู้ปกครองท้องที่ จะทำหนังสือยกให้กันเองหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 755/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการแทงหลายแผลระยะกระชั้นชิด และการเปลี่ยนข้อหาจากทำร้ายร่างกายเป็นพยายามฆ่า
ในขณะเมาสุรา จำเลยแทงผู้เสียหาย 5 แผล แต่ที่ลึกทะลุภายใน 3 แผล คือ ที่ชายโครงแถบซ้ายยาว 2.? เซนติเมตร กว้างครึ่งเซนติเมตร แผลบริเวณหน้าอกกว้างยาวเท่ากัน และที่หน้าท้องแถบขวา แผลยาว 3 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร อันเป็นแผลที่อยู่ในบริเวณหุ้มห่ออวัยวะภายในทั้งสิ้น มีดที่ใช้แทง ใบมีดยาว 6 นิ้ว กว้าง 4 เซนติเมตร แทงในระยะกระชั้นชิดติดกันอย่างเคียดแค้น แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คดีที่มีโทษจำคุกสูงกว่า 10 ปี เมื่อเริ่มพิจารณา ศาลสอบจำเลยเรื่องทนายความ จำเลยแถลงว่าจะหาทนายเอง ศาลถามคำให้การ จำเลยให้การปฏิเสธ จำเลยตั้งทนายเมื่อเริ่มสืบพยานโจทก์ แม้ศาลจะดำเนินกระบวนพิจารณาเช่นนั้นก็ตาม ก็ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 208
พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาสอบสวนจำเลยในชั้นแรกฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ต่อมาแจ้งข้อหาใหม่เป็นพยายามฆ่าผู้เสียหาย ดังนี้ ย่อมทำได้.
คดีที่มีโทษจำคุกสูงกว่า 10 ปี เมื่อเริ่มพิจารณา ศาลสอบจำเลยเรื่องทนายความ จำเลยแถลงว่าจะหาทนายเอง ศาลถามคำให้การ จำเลยให้การปฏิเสธ จำเลยตั้งทนายเมื่อเริ่มสืบพยานโจทก์ แม้ศาลจะดำเนินกระบวนพิจารณาเช่นนั้นก็ตาม ก็ยังไม่มีเหตุสมควรที่จะย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 208
พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาสอบสวนจำเลยในชั้นแรกฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย ต่อมาแจ้งข้อหาใหม่เป็นพยายามฆ่าผู้เสียหาย ดังนี้ ย่อมทำได้.