พบผลลัพธ์ทั้งหมด 333 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนผันการชำระค่าเช่าทำให้ผู้เช่าไม่ผิดสัญญา แม้มีข้อตกลงให้ชำระรายเดือน
แม้จะมีข้อความปรากฏในสัญญาเช่าให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าล่วงหน้าทุกๆ เดือนและหากว่าผู้เช่าผิดสัญญา. ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ทันที. โดยผู้เช่าจะไม่ฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายแต่อย่างใดก็ตาม. แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่ารวมชำระค่าเช่าหลายๆ. เดือนต่อครั้ง.ดังนั้น. เมื่อผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า 2 เดือน จะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาเช่าไม่ได้. และเมื่อผู้เช่าไม่ผิดสัญญา.ผู้ให้เช่าจึงยังไม่มีสิทธิที่จะขับไล่หรือยึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ตามข้อความในสัญญาดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนผันการชำระค่าเช่าทำให้ผู้เช่าไม่ผิดสัญญา แม้สัญญาจะกำหนดให้ชำระรายเดือน ผู้ให้เช่าจึงไม่มีสิทธิขับไล่
แม้จะมีข้อความปรากฏในสัญญาเช่าให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าล่วงหน้าทุกๆ เดือนและหากว่าผู้เช่าผิดสัญญา ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ทันที โดยผู้เช่าจะไม่ฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายแต่อย่างใดก็ตามแต่ในทางปฏิบัติ ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่ารวมชำระค่าเช่าหลายๆ เดือนต่อครั้งดังนั้นเมื่อผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า 2 เดือน จะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาเช่าไม่ได้และเมื่อผู้เช่าไม่ผิดสัญญาผู้ให้เช่าจึงยังไม่มีสิทธิที่จะขับไล่หรือยึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ตามข้อความในสัญญาดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การผ่อนผันสัญญาเช่าทำให้ผู้เช่าไม่ผิดสัญญา แม้จะค้างชำระค่าเช่าบางส่วน ผู้ให้เช่ายังไม่มีสิทธิขับไล่
แม้จะมีข้อความปรากฏในสัญญาเช่าให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าล่วงหน้าทุก ๆ เดือนและหากว่าผู้เช่าผิดสัญญา ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ทันที โดยผู้เช่าจะไม่ฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายแต่อย่างใดก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่ารวมชำระค่าเช่าหลายๆ เดือนต่อครั้ง ดังนั้น เมื่อผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า 2 เดือน จะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาเช่าไม่ได้ และเมื่อผู้เช่าไม่ผิดสัญญา ผู้ให้เช่าจึงยังไม่มีสิทธิที่จะขับไล่หรือยึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ตามข้อความในสัญญาดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและป้องกันตัว: ศาลลดโทษจำเลยจากคำรับสารภาพ แม้ต่อสู้ว่าทำเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288 ให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต. ส่วนมีดของกลางไม่ริบ.โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์. ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245. ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษตามศาลชั้นต้น. แต่พิพากษาแก้ให้ริบมีดของกลางด้วย. ดังนี้ ไม่ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 คดียังไม่ถึงที่สุด. ฎีกาได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษจากคำรับสารภาพและเหตุบรรเทาโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288 ให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ส่วนมีดของกลางไม่ริบโจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษตามศาลชั้นต้น แต่พิพากษาแก้ให้ริบมีดของกลางด้วย ดังนี้ ไม่ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 คดียังไม่ถึงที่สุด ฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษจำเลยจากคำรับสารภาพแต่ยังคงลงโทษจำคุก
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ส่วนมีดของกลางไม่ริบโจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษตามศาลชั้นต้นแต่พิพากษาแก้ให้ริบมีดของกลางด้วยดังนี้ ไม่ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 คดียังไม่ถึงที่สุดฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีขับไล่ผู้เช่า: ค่าเช่าต่ำกว่าเกณฑ์, การแก้ไขคำฟ้อง, และการอยู่อาศัยหลังหมดสัญญาไม่ได้รับการคุ้มครอง
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท และโจทก์ตั้งทุนทรัพย์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยเพียง 1,500 บาท จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์และมิได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่า คดีจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ขอแก้คำฟ้องที่ว่า จำเลยได้เช่าตึกแถว เลขที่ 493/9 เป็นจำเลยได้เช่าตึกแถวเลขที่ 493/12 ดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์พิมพ์เลขผิดพลาด เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยในคดีนี้ระบุไว้ชัดว่าจำเลยตกลงรับเช่าตึกแถว 2 ชั้นห้องหมายเลขทะเบียนที่ 493/12 การขอแก้ไขคำฟ้องที่พิมพ์ผิดพลาด ย่อมไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180ที่โจทก์จะต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยาน
หลังจากครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว โจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลย การที่จำเลยอยู่ต่อมาอีก ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยอยู่โดยละเมิด และถือว่าเงินค่าเช่าที่โจทก์รับไปเดือนละ 200 บาทนั้น เป็นค่าเสียหาย ฉะนั้นเมื่อจำเลยอยู่ต่อมา ฟังไม่ได้ว่าเป็นการเช่าแล้วพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นย่อมไม่คุ้มครองจำเลย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ไม่ได้คุ้มครองถึงการเรียกร้องค่าเสียหายไว้แต่ประการใด
ขอแก้คำฟ้องที่ว่า จำเลยได้เช่าตึกแถว เลขที่ 493/9 เป็นจำเลยได้เช่าตึกแถวเลขที่ 493/12 ดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์พิมพ์เลขผิดพลาด เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยในคดีนี้ระบุไว้ชัดว่าจำเลยตกลงรับเช่าตึกแถว 2 ชั้นห้องหมายเลขทะเบียนที่ 493/12 การขอแก้ไขคำฟ้องที่พิมพ์ผิดพลาด ย่อมไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180ที่โจทก์จะต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยาน
หลังจากครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว โจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลย การที่จำเลยอยู่ต่อมาอีก ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยอยู่โดยละเมิด และถือว่าเงินค่าเช่าที่โจทก์รับไปเดือนละ 200 บาทนั้น เป็นค่าเสียหาย ฉะนั้นเมื่อจำเลยอยู่ต่อมา ฟังไม่ได้ว่าเป็นการเช่าแล้วพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นย่อมไม่คุ้มครองจำเลย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ไม่ได้คุ้มครองถึงการเรียกร้องค่าเสียหายไว้แต่ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีขับไล่ผู้เช่าที่มีค่าเช่าต่ำกว่าเกณฑ์ พ.ร.บ.ควบคุมเคหะฯ และการแก้ไขคำฟ้องที่พิมพ์ผิดพลาด
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท. และโจทก์ตั้งทุนทรัพย์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยเพียง 1,500 บาท จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ และมิได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่า คดีจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ขอแก้คำฟ้องที่ว่า จำเลยได้เช่าตึกแถว เลขที่ 493/9เป็นจำเลยได้เช่าตึกแถวเลขที่ 493/12 ดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์พิมพ์เลขผิดพลาด เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยในคดีนี้ระบุไว้ชัดว่าจำเลยตกลงรับเช่าตึกแถว 2 ชั้นห้องหมายเลขทะเบียนที่ 493/12 การขอแก้ไขคำฟ้องที่พิมพ์ผิดพลาด ย่อมไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180 ที่โจทก์จะต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยาน
หลังจากครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว โจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลย การที่จำเลยอยู่ต่อมาอีก ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยอยู่โดยละเมิด และถือว่าเงินค่าเช่าที่โจทก์รับไปเดือนละ 200 บาทนั้น เป็นค่าเสียหาย ฉะนั้นเมื่อจำเลยอยู่ต่อมา ฟังไม่ได้ว่าเป็นการเช่าแล้วพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นย่อมไม่คุ้มครองจำเลย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ไม่ได้คุ้มครองถึงการเรียกร้องค่าเสียหายไว้แต่ประการใด
ขอแก้คำฟ้องที่ว่า จำเลยได้เช่าตึกแถว เลขที่ 493/9เป็นจำเลยได้เช่าตึกแถวเลขที่ 493/12 ดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์พิมพ์เลขผิดพลาด เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยในคดีนี้ระบุไว้ชัดว่าจำเลยตกลงรับเช่าตึกแถว 2 ชั้นห้องหมายเลขทะเบียนที่ 493/12 การขอแก้ไขคำฟ้องที่พิมพ์ผิดพลาด ย่อมไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180 ที่โจทก์จะต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยาน
หลังจากครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว โจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลย การที่จำเลยอยู่ต่อมาอีก ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยอยู่โดยละเมิด และถือว่าเงินค่าเช่าที่โจทก์รับไปเดือนละ 200 บาทนั้น เป็นค่าเสียหาย ฉะนั้นเมื่อจำเลยอยู่ต่อมา ฟังไม่ได้ว่าเป็นการเช่าแล้วพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นย่อมไม่คุ้มครองจำเลย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ไม่ได้คุ้มครองถึงการเรียกร้องค่าเสียหายไว้แต่ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีขับไล่ผู้เช่า: ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม อ้างค่าเช่าไม่เกินเกณฑ์, แก้ฟ้องเลขที่ถูกต้อง, และการอยู่ต่อหลังสัญญาหมดอายุไม่คุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท. และโจทก์ตั้งทุนทรัพย์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยเพียง 1,500 บาท. จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์. และมิได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่า คดีจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง.
ขอแก้คำฟ้องที่ว่า จำเลยได้เช่าตึกแถว เลขที่ 493/9เป็นจำเลยได้เช่าตึกแถวเลขที่ 493/12. ดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์พิมพ์เลขผิดพลาด เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยในคดีนี้ระบุไว้ชัดว่าจำเลยตกลงรับเช่าตึกแถว 2 ชั้นห้องหมายเลขทะเบียนที่ 493/12. การขอแก้ไขคำฟ้องที่พิมพ์ผิดพลาด ย่อมไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180 ที่โจทก์จะต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยาน.
หลังจากครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว โจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลย. การที่จำเลยอยู่ต่อมาอีก. ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยอยู่โดยละเมิด และถือว่าเงินค่าเช่าที่โจทก์รับไปเดือนละ 200 บาทนั้น เป็นค่าเสียหาย. ฉะนั้นเมื่อจำเลยอยู่ต่อมา ฟังไม่ได้ว่าเป็นการเช่าแล้ว.พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นย่อมไม่คุ้มครองจำเลย.
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ไม่ได้คุ้มครองถึงการเรียกร้องค่าเสียหายไว้แต่ประการใด.
ขอแก้คำฟ้องที่ว่า จำเลยได้เช่าตึกแถว เลขที่ 493/9เป็นจำเลยได้เช่าตึกแถวเลขที่ 493/12. ดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์พิมพ์เลขผิดพลาด เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยในคดีนี้ระบุไว้ชัดว่าจำเลยตกลงรับเช่าตึกแถว 2 ชั้นห้องหมายเลขทะเบียนที่ 493/12. การขอแก้ไขคำฟ้องที่พิมพ์ผิดพลาด ย่อมไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180 ที่โจทก์จะต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยาน.
หลังจากครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว โจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลย. การที่จำเลยอยู่ต่อมาอีก. ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยอยู่โดยละเมิด และถือว่าเงินค่าเช่าที่โจทก์รับไปเดือนละ 200 บาทนั้น เป็นค่าเสียหาย. ฉะนั้นเมื่อจำเลยอยู่ต่อมา ฟังไม่ได้ว่าเป็นการเช่าแล้ว.พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นย่อมไม่คุ้มครองจำเลย.
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ไม่ได้คุ้มครองถึงการเรียกร้องค่าเสียหายไว้แต่ประการใด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่มีสถานะเป็นคำฟ้อง โจทก์มีหน้าที่นำส่งตามกฎหมาย หากจำเลยเพิกเฉยถือเป็นการทิ้งฟ้อง
คำขอให้พิจารณาใหม่ (ไม่ว่าโจทก์หรือจำเลยเป็นฝ่ายขอ)ถือได้ว่าเป็นคำฟ้องตามวิเคราะห์ศัพท์ในมาตรา 1(3) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำฟ้องนั้น กฎหมายบัญญัติให้โจทก์มีหน้าที่จัดการนำส่งเมื่อคู่ความที่ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่จัดการนำส่งสำเนาคำขอให้พิจารณาแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาลจึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง ศาลย่อมมีคำสั่งจำหน่าย(คดี) คำขอให้พิจารณาใหม่นั้นเสียได้
(เฉพาะปัญหาที่ว่า คำขอให้พิจารณาใหม่เป็นคำฟ้อง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2511)
คำฟ้องนั้น กฎหมายบัญญัติให้โจทก์มีหน้าที่จัดการนำส่งเมื่อคู่ความที่ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่จัดการนำส่งสำเนาคำขอให้พิจารณาแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำสั่งศาลจึงเป็นการเพิกเฉยไม่ดำเนินคดีภายในเวลาตามที่ศาลเห็นสมควรกำหนดถือได้ว่าเป็นการทิ้งฟ้อง ศาลย่อมมีคำสั่งจำหน่าย(คดี) คำขอให้พิจารณาใหม่นั้นเสียได้
(เฉพาะปัญหาที่ว่า คำขอให้พิจารณาใหม่เป็นคำฟ้อง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 15/2511)