พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2197/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าบริการโรงแรมไม่ใช่ทรัพย์สินที่สูญเสียไปจากความผิดอาญา ผู้เสียหายไม่มีสิทธิเรียกร้อง
เงินค่าเข้าอยู่ในโรงแรมเป็นเพียงเงินค่าบริการที่ผู้เสียหายควรจะได้มาเท่านั้น ไม่ใช่ทรัพย์สินหรือราคาที่ผู้เสียหายได้สูญเสียไปเนื่องจากการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 345พนักงานอัยการจึงไม่มีสิทธิเรียกเงินดังกล่าวแทนผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2197/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าบริการโรงแรมไม่ใช่ทรัพย์สินที่สูญเสียไปจากความผิดอาญา ผู้เสียหายไม่มีสิทธิเรียกร้อง
เงินค่าเข้าอยู่ในโรงแรมเป็นเพียงเงินค่าบริการที่ผู้เสียหายควรจะได้มาเท่านั้น ไม่ใช่ทรัพย์สินหรือราคาที่ผู้เสียหายได้สูญเสียไปเนื่องจากการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 345พนักงานอัยการจึงไม่มีสิทธิเรียกเงินดังกล่าวแทนผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปในการเพิกถอนใบอนุญาตเมื่อมีพฤติกรรมเสื่อมเสียและกระบวนการไต่สวน
คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปซึ่งตั้งขึ้นตาม พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลป พ.ศ.2479 มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายนี้โดยเด็ดขาดเกี่ยวกับการสั่งพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลปศาลไม่อาจเข้าไปวินิจฉัยซ้อนการวินิจฉัยของคณะกรรมการดังกล่าว เว้นแต่จะเป็นเรื่องที่คณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ผิดกฎหมาย
คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปพิจารณาเห็นว่าโจทก์มีความประพฤติไม่ดีโดยต้องคำพิพากษาให้จำคุกฐานแจ้งความเท็จแต่ให้รอการลงโทษจำคุกและต้องคดีฐานข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงแต่อัยการถอนฟ้อง เพราะโจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ก็ดีคณะกรรมการถือว่า โจทก์มีความประพฤติเสียหายอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ คณะกรรมการเห็นว่า โจทก์ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 14(2) จึงมีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลปของโจทก์และมติของคณะกรรมการได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงซึ่งทำการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตามพระราชกฤษฎีกามอบให้ปลัดกระทรวงทำการแทนแล้ว ย่อมเด็ดขาดเพียงนี้ ศาลไม่อาจพิจารณาในเรื่องนี้ได้
ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปฯไม่ได้บัญญัติให้ออกหมายเรียกผู้ถูกไต่สวนในเรื่องขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 14(2)ว่า ให้ทำตามแบบฟอร์มหมายเรียกของพนักงานสอบสวนหรือศาลฉะนั้น จะทำเป็นหนังสือธรรมดาแต่ให้มีข้อความว่าเรียกตัวไปไต่สวนเรื่องนี้ก็พอแล้ว
คณะอนุกรรมการมีอำนาจไต่สวนพยานหลักฐานไปฝ่ายเดียวลับหลังผู้ถูกไต่สวน เมื่อผู้ถูกไต่สวนไม่ยอมรับหนังสือ เรียกและไม่ไปแก้ข้อหาดังกล่าว
ประธานกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปมีอำนาจสั่งให้คณะอนุกรรมการทำการไต่สวนเรื่องโจทก์มีความประพฤติเสียหายอันจะทำให้เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพได้ตาม มาตรา9 และเป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการไต่สวนรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งได้ความดังกล่าวข้างต้นผู้ช่วยอนามัยจังหวัดและอนามัยอำเภอจึงเสนอเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอต่อไปยังประธานกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลป เช่นนี้ เป็นการปฏิบัติตามระเบียบราชการ ไม่เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือละเมิดโจทก์ประการใด
คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปพิจารณาเห็นว่าโจทก์มีความประพฤติไม่ดีโดยต้องคำพิพากษาให้จำคุกฐานแจ้งความเท็จแต่ให้รอการลงโทษจำคุกและต้องคดีฐานข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงแต่อัยการถอนฟ้อง เพราะโจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ก็ดีคณะกรรมการถือว่า โจทก์มีความประพฤติเสียหายอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ คณะกรรมการเห็นว่า โจทก์ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 14(2) จึงมีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลปของโจทก์และมติของคณะกรรมการได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงซึ่งทำการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตามพระราชกฤษฎีกามอบให้ปลัดกระทรวงทำการแทนแล้ว ย่อมเด็ดขาดเพียงนี้ ศาลไม่อาจพิจารณาในเรื่องนี้ได้
ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการประกอบโรคศิลปฯไม่ได้บัญญัติให้ออกหมายเรียกผู้ถูกไต่สวนในเรื่องขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 14(2)ว่า ให้ทำตามแบบฟอร์มหมายเรียกของพนักงานสอบสวนหรือศาลฉะนั้น จะทำเป็นหนังสือธรรมดาแต่ให้มีข้อความว่าเรียกตัวไปไต่สวนเรื่องนี้ก็พอแล้ว
คณะอนุกรรมการมีอำนาจไต่สวนพยานหลักฐานไปฝ่ายเดียวลับหลังผู้ถูกไต่สวน เมื่อผู้ถูกไต่สวนไม่ยอมรับหนังสือ เรียกและไม่ไปแก้ข้อหาดังกล่าว
ประธานกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปมีอำนาจสั่งให้คณะอนุกรรมการทำการไต่สวนเรื่องโจทก์มีความประพฤติเสียหายอันจะทำให้เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพได้ตาม มาตรา9 และเป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการไต่สวนรวบรวมพยานหลักฐานซึ่งได้ความดังกล่าวข้างต้นผู้ช่วยอนามัยจังหวัดและอนามัยอำเภอจึงเสนอเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอต่อไปยังประธานกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลป เช่นนี้ เป็นการปฏิบัติตามระเบียบราชการ ไม่เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือละเมิดโจทก์ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 43/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ และการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปตาม พ.ร.บ.ควบคุมการประกอบโรคศิลป
คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปซึ่งตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. ควบคุมการประกอบโรคศิลป พ.ศ. 2479 มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายนี้โดยเด็ดขาดเกี่ยวกับการสั่งพักหรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ ศาลไม่อาจเข้าไปวินิจฉัยซ้อนการวินิจฉัย ของคณะกรรมการดังกล่าว เว้นแต่จะเป็นเรื่องที่คณะกรรมการปฏิบัติหน้าที่ผิดกฎหมาย
คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปพิจารณาเห็นว่า โจทก์มีความประพฤติไม่ดี โดยต้องคำพิพากษาให้จำคุกฐานแจ้งความเท็จแต่ให้รอการลงโทษจำคุกและต้องคดีฐานข่มขืนกระทำชระเราเด็กหญิง แต่อัยการถอนฟ้อง เพราะโจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่เสียหาย ๆ ถอนคำร้องทุกข์ก็ดี คณะกรรมการถือว่า โจทก์มีความประพฤติเสียหายอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ คณะกรรมการเห็นว่า โจทก์ขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 14 (2) จึงมีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลปของโจทก์ และมติของคณะกรรมการได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงซึ่งทำการแทนรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณะสุข ตารมพระราชกฤษฎีกามอบให้ ปลัดกระทรวงทำการแทนแล้ว ย่อมเด็ดขาดเพียงนี้ ศาลไม่อาจพิจารณาในเรื่องนี้ได้
ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการประกอบโรคศิลปฯ ไม่ได้บัญญัติให้ออกหมายเรียกผู้ถูกไต่สวนในเรื่องขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 14 (2) จึงมีมติให้เพิกถอนใบอนุญาติประกอบโรคศิลปของโจทก์ และมติของคณะกรรมการได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงซึ่งทำการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขตามพระราชกฤษฎีกามอบให้ปลัดกระทรวงทำการแทนแล้ว ย่อมเด็ดขาดเพียงนี้ ศาลไม่อาจพิจารณาในเรื่องนี้ได้
ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการประกอบโรคศิลปฯ ไม่ได้บัญญัติให้ออกหมายเรียกผู้ถูกไต่สวนในเรื่องขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 14(2) ว่าให้ทำตามแบบฟอร์มหมายเรียกของพนักงานสอบสวนหรือศาลฉะนั้น จะทำเป็นหนังสือธรรมดาแต่ให้มีข้อความว่าเรียกตัวไปไต่สวนเรื่องนี้ก็พอแล้ว
คณะอนุกรรมการมีอำนาจไต่สวนพยานหลักฐานไปฝ่ายเดียวลับหลังผู้ถูกไต่สวน เมื่อผู้ถูกไต่สวนไม่ยอมรับหนังสือ เรียกและไม่ไป แก้ข้อหาดังกล่าว
ประธานกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปมีอำนาจสั่งให้คณะอนุกรรมการทำการไต่สวนเรื่องโจทก์มีความประพฤติเสียหายอันจะทำให้เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ ได้ตาม มาตรา 9. และเป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการไต่สวนรวบรวม พยานหลักฐานซึ่งได้ความดังกล่าวข้างต้นผู้ช่วยอนามัยจังหวัดและอนามัยอำเภอจึงเสนอเรื่องไปยังผู้ว่าราชจังหวัด ๆ เสนอต่อไปยังประธานกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปเช่นนี้ เป็นการปฏิบัติตามระเบียบราชการ ไม่เป็นเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือละเมิดโจทก์ประการใด
คณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปพิจารณาเห็นว่า โจทก์มีความประพฤติไม่ดี โดยต้องคำพิพากษาให้จำคุกฐานแจ้งความเท็จแต่ให้รอการลงโทษจำคุกและต้องคดีฐานข่มขืนกระทำชระเราเด็กหญิง แต่อัยการถอนฟ้อง เพราะโจทก์ใช้ค่าเสียหายแก่เสียหาย ๆ ถอนคำร้องทุกข์ก็ดี คณะกรรมการถือว่า โจทก์มีความประพฤติเสียหายอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ คณะกรรมการเห็นว่า โจทก์ขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 14 (2) จึงมีมติให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบโรคศิลปของโจทก์ และมติของคณะกรรมการได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงซึ่งทำการแทนรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณะสุข ตารมพระราชกฤษฎีกามอบให้ ปลัดกระทรวงทำการแทนแล้ว ย่อมเด็ดขาดเพียงนี้ ศาลไม่อาจพิจารณาในเรื่องนี้ได้
ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการประกอบโรคศิลปฯ ไม่ได้บัญญัติให้ออกหมายเรียกผู้ถูกไต่สวนในเรื่องขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 14 (2) จึงมีมติให้เพิกถอนใบอนุญาติประกอบโรคศิลปของโจทก์ และมติของคณะกรรมการได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงซึ่งทำการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขตามพระราชกฤษฎีกามอบให้ปลัดกระทรวงทำการแทนแล้ว ย่อมเด็ดขาดเพียงนี้ ศาลไม่อาจพิจารณาในเรื่องนี้ได้
ตาม พ.ร.บ. ควบคุมการประกอบโรคศิลปฯ ไม่ได้บัญญัติให้ออกหมายเรียกผู้ถูกไต่สวนในเรื่องขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 14(2) ว่าให้ทำตามแบบฟอร์มหมายเรียกของพนักงานสอบสวนหรือศาลฉะนั้น จะทำเป็นหนังสือธรรมดาแต่ให้มีข้อความว่าเรียกตัวไปไต่สวนเรื่องนี้ก็พอแล้ว
คณะอนุกรรมการมีอำนาจไต่สวนพยานหลักฐานไปฝ่ายเดียวลับหลังผู้ถูกไต่สวน เมื่อผู้ถูกไต่สวนไม่ยอมรับหนังสือ เรียกและไม่ไป แก้ข้อหาดังกล่าว
ประธานกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปมีอำนาจสั่งให้คณะอนุกรรมการทำการไต่สวนเรื่องโจทก์มีความประพฤติเสียหายอันจะทำให้เสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ ได้ตาม มาตรา 9. และเป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการไต่สวนรวบรวม พยานหลักฐานซึ่งได้ความดังกล่าวข้างต้นผู้ช่วยอนามัยจังหวัดและอนามัยอำเภอจึงเสนอเรื่องไปยังผู้ว่าราชจังหวัด ๆ เสนอต่อไปยังประธานกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลปเช่นนี้ เป็นการปฏิบัติตามระเบียบราชการ ไม่เป็นเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือละเมิดโจทก์ประการใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมตั๋วรถไฟและการเรียกร้องค่าเสียหาย: การพิจารณาความผิดตามมาตรา 217 และอำนาจฟ้องของอัยการ
การปลอมตั๋วรถไฟก็มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะในมาตรา 217 ความผิดของจำเลยในประเภทดังกล่าวไม่อยู่ในความประสงค์ของมาตรา 225
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่ศูนย์เสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่ศูนย์เสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น