คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 126

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5319/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลักฐานเอกสารและการบังคับอายุความสิทธิเรียกร้องเงินคืน
เอกสารหมาย ล.3 ที่จำเลยอ้างเป็นเพียงสำเนาภาพถ่ายเอกสารและโจทก์ก็มีหนังสือตอบปฏิเสธว่าไม่ได้ดำเนินการส่งเรื่องไปตรวจพิสูจน์เท่ากับโจทก์ไม่รับรองว่าสำเนาเอกสารถูกต้อง เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่แสดงเหตุขัดข้องที่ไม่ส่งต้นฉบับและไม่นำผู้รับรองสำเนาเอกสารมาเบิกความรับรอง จึงไม่อาจรับฟังเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานได้
จำเลยที่ 1 มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินของโจทก์ และได้ยืมเงินงบประมาณเพื่อนำไปใช้จ่ายหมุนเวียนและปฏิบัติงานตามโครงการ เมื่อปฏิบัติเสร็จแล้วต้องนำใบสำคัญคู่จ่ายเงินส่งใช้ใบยืม หากมีเงินเหลือให้ส่งใช้ใบยืมเงิน เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ส่งใช้ใบยืมจนครบ จำเลยที่ 1ก็จะต้องชดใช้เงินคืนให้ทางราชการจนครบ ดังนี้ถือว่าเงินที่จะต้องคืนนั้นเป็นเงินของทางราชการที่ยังอยู่ในความดูแลรักษาของจำเลยที่ 1 ตามหน้าที่ ซึ่งสิทธิเรียกร้องของโจทก์ในเรื่องนี้ไม่มีบทบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะจึงต้องบังคับตาม ป.พ.พ.มาตรา 193/30 ที่แก้ไขใหม่ (มาตรา 164 เดิม) คือมีอายุความ 10 ปี เมื่อนับแต่จำเลยที่ 1 มีหน้าที่คืนเงินจนถึงวันฟ้องเรียกเงินคืนยังไม่พ้น 10 ปี คดีจึงไม่ขาดอายุความ กรณีที่โจทก์ฟ้องเรียกคืนเช่นนี้ไม่ใช่การเรียกร้องค่าเสียหายจะนำอายุความเรียกร้องค่าเสียหายในกำหนด 1 ปี ตามมาตรา 448 มาใช้บังคับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 939/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในสัญญาซื้อลดเช็คและการเชิดตัวแทน: ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการและผู้ค้ำประกัน
เมื่อปรากฏว่าลายมือชื่อจำเลยที่ 5 ในสัญญาค้ำประกันที่จำเลยที่ 5 ปฏิเสธว่ามิใช่ลายมือชื่อของตน กับในการ์ดตัวอย่างลายมือชื่อและคำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันที่จำเลยที่ 5 รับว่าเป็นลายมือชื่อของตนจริงคล้ายคลึงกันและสีหมึกก็เป็นสีเดียวกัน ประกอบกับจำเลยที่ 2 ผู้ทำสัญญาขายลดเช็คกับจำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันก็เป็นสามีภริยากัน จึงน่าเชื่อว่าลายมือชื่อจำเลยที่ 5 ในสัญญาค้ำประกัน เป็นลายมือชื่อที่แท้จริงของจำเลยที่ 5 เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยที่ 5 แล้วเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ขอเข้าว่าคดี หรือมีคำขอให้จำหน่ายคดี ศาลย่อมดำเนินกระบวนพิจารณาสำหรับจำเลยที่ 5 ต่อไป โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยที่ 2 กระทำการแทนจำเลยที่ 1ในฐานะที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ หากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2เป็นตัวแทนเชิด ศาลก็ย่อมวินิจฉัยให้จำเลยที่ 1 รับผิดในการกระทำของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวแทนเชิด ได้ เพราะความรับผิดของตัวแทนกับตัวแทนเชิด มีลักษณะอย่างเดียวกัน ไม่เป็นการนอกฟ้องนอกประเด็น การที่จำเลยที่ 5 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 1 ยอมให้จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อในสัญญาขายลดเช็คในฐานะเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่ 1 และประทับตราห้างจำเลยที่ 1 ด้วยทั้ง ๆ ที่ทราบดีว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงหุ้นส่วนจำกัดความรับผิดของจำเลยที่ 1 ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 5หุ้นส่วนผู้จัดการได้เชิด จำเลยที่ 2 หรือยอมให้จำเลยที่ 2เชิด ตนเองเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดตามสัญญาขายลดเช็คต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองเพื่อประกันหนี้บุคคลอื่น & เช็คล่วงหน้าค้างชำระ: สิทธิของเจ้าหนี้และผลผูกพันสัญญา
ผู้รับจำนองต้องเป็นเจ้าหนี้ในมูลหนี้อันใดอันหนึ่งตามมาตรา702 แต่ผู้จำนองอาจไม่ใช่ตัวลูกหนี้ก็ได้ ตาม มาตรา709จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ที่ 1 จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 จำนองที่ดินแก่โจทก์ที่ 2 ซึ่งไม่ใช่เจ้าหนี้ จำนองจึงบังคับแก่หนี้ที่จำเลยที่ 1กู้โจทก์ที่ 1 ไม่ได้ชำระดอกเบี้ยด้วยเช็ค เจ้าหนี้ไม่เอาเช็คไปขึ้นเงินลูกหนี้ยังต้องชำระดอกเบี้ยตามจำนวนในเช็ค
พยานเอกสารซึ่งผู้อ้างมิได้ส่งสำเนาแก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งก่อนวันสืบพยาน 3 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา90 ศาลรับฟังฝ่าฝืนบทบัญญัตินี้ได้ตามมาตรา87(2) โจทก์ส่งสำเนาพร้อมกับฟ้องก็ใช้ได้ เอกสารที่ต้นฉบับอยู่กับคนภายนอกผู้อ้างไม่ต้องส่งสำเนา
ศาลตรวจพิจารณาลายมือชื่อที่มีข้อคัดค้านว่าเป็นลายมือชื่อปลอมโดยเปรียบเทียบกับลายมือชื่อในเอกสารอื่นที่แท้จริงได้เอง แม้เป็นลายมือชื่อภาษาต่างประเทศ ไม่ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา46

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีโดยตัวแทน และการพิสูจน์ฐานะบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ
ต้นฉบับเอกสารอันแท้จริงรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ แต่ส่วนข้อความในเอกสารจะถูกต้องตรงกับความจริงหรือไม่ เป็นข้อที่ศาลจะได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนอีกชั้นหนึ่ง
ข้อความในเอกสารซึ่งแสดงว่าบริษัทโจทก์มีสิทธิและหน้าที่ทำนิติกรรมมอบอำนาจได้ในนามของบริษัทโจทก์ โดยทำต่อเจ้าหน้าที่เป็นทางการ เป็นการเพียงพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์มีฐานะที่จะฟ้องคดีได้ในนามของตนเอง
การพิสูจน์ฐานะบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ ไม่จำต้องพิสูจน์โดยวิจักขณ์พยานผู้รู้กฎหมายต่างประเทศโดยตรงแต่ทางเดียวพฤติการณ์ต่างๆ ที่แสดงถึงการมีฐานะใช้สิทธิได้ตามกฎหมายดุจบุคคลทั่วไป ก็เป็นข้อเท็จจริงให้ศาลวินิจฉัยเช่นนั้นได้
ตามคำฟ้องปรากฏว่า โจทก์ที่ 2 ฟ้องคดีโดยการมอบอำนาจของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 จึงฟ้องคดีนี้เป็นส่วนตัวไม่ได้ แต่จะยกฟ้อง เลยไปถึงโจทก์ที่ 1 ที่ฟ้องโดยโจทก์ที่ 2 รับมอบอำนาจด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 793/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ฐานะบุคคลทางกฎหมายและการมอบอำนาจฟ้องคดี
ต้นฉบับเอกสารอันแท้จริงรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ แต่ส่วนข้อความในเอกสารจะถูกต้องตรงกับความจริงหรือไม่ เป็นข้อที่ศาลจะได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนอีกขั้นหนึ่ง
ข้อความในเอกสารซึ่งแสดงว่าบริษัทโจทก์มีสิทธิ์และหน้าที่ทำนิติกรรมมอบอำนาจได้ในนามของบริษัทโจทก์ โดยทำต่อเจ้าหน้าที่เป็นทางการ เป็นการเพียงพอจะที่จะฟังได้ว่าโจทก์มีฐานะที่จะฟ้องคดีได้ในนามของตนเอง
การพิสูจน์ฐานะบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ ไม่จำต้องพิสูจน์โดยวิจักษณ์พยานผู้รู้กฎหมายต่างประเทศโดยตรงแต่ทางเดียว พฤติการณ์ต่าง ๆ ที่แสดงถึงการมีฐานะใช้สิทธิ์ได้ตามกฎหมายดุจบุคคลทั่วไป ก็เป็นข้อเท็จจริงให้ศาลวินิจฉัยเช่นนั้นได้
ตามคำฟ้องปรากฏว่า โจทก์ที่ 2 ฟ้องคดีโดยการมอบอำนาจของโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 จึงฟ้องคดีนี้เป็นส่วนตัวไม่ได้ แต่จะยกฟ้องเลยไปถึงโจทก์ที่ 1 ที่ฟ้องโดยโจทก์ที่ 2 รับมอบอำนาจด้วยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับคำให้การ, การนำสืบเอกสารปลอม, และการสืบพยานแทนสัญญาซื้อขาย: ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและอุทธรณ์
จำเลยยื่นคำร้องมีข้อความว่า จำเลยขอให้การปฏิเสธ และติดใจที่จะต่อสู้คดีไม่ขอให้การใดๆก่อนสืบพยานโจทก์ และต่อมาในระยะเวลาที่จำเลยจะยื่นคำให้การได้จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้ ดังนี้ ศาลชอบที่จะรับคำให้การของจำเลยไว้ได้ หาใช่จำเลยได้แสดงความจำนงไม่ใช้สิทธิต่อสู้คดีไม่
เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่า ส.ค.1 ของจำเลยเป็นเอกสารปลอมโจทก์จะต้องนำสืบข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างนั้น การที่โจทก์แถลงคัดค้านไว้ ไม่ทำให้หน้าที่นำสืบของโจทก์เปลี่ยนแปลงไป
จำเลยขอสืบพยานบุคคลแทนหนังสือสัญญาซื้อขาย ระบุชัดแจ้งว่าหนังสือสัญญาหายสาปสูญค้นหาไม่พบ โจทก์คัดค้านแต่เพียงว่า เป็นคำร้องกำกวมเคลือบคลุม ศาลย่อมอนุญาตให้จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบแทนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 905/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับคำให้การ, การนำสืบพยานหลักฐาน, และการสืบพยานบุคคลแทนเอกสารสัญญาซื้อขาย
จำเลยยื่นคำร้องมีข้อความว่า จำเลยขอให้การปฏิเสธ และติดใจที่จะต่อสู้คดี ไม่ขอให้การใดๆ ก่อนสืบพยานโจทก์ และต่อมาในระยะเวลาที่จำเลยจะยื่นคำให้การได้ จำเลยยื่นคำให้การต่อสู้คดีไว้ ดังนี้ ศาลชอบที่จะรับคำให้การของจำเลยไว้ได้ หาใช่จำเลยได้แสดงความจำนงไม่ใช้สิทธิต่อสู้คดีไม่
เมื่อโจทก์กล่าวอ้างว่า ส.ค. 1 ของจำเลยเป็นเอกสารปลอม โจทก์จะต้องนำสืบข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างนั้น การที่โจทก์แถลงคัดค้านไว้ ไม่ทำให้หน้าที่นำสืบของโจทก์เปลี่ยนแปลงไป
จำเลยขอสืบพยานบุคคลแทนหนังสือสัญญาซื้อขาย ระบุชัดแจ้งว่าหนังสือสัญญาหายสาปสูญค้นหาไม่พบ โจทก์คัดค้านแต่เพียงว่า เป็นคำร้องกำกวมเคลือบคลุม ศาลย่อมอนุญาตให้จำเลยนำพยานบุคคลมาสืบแทนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบและการใช้พยานผู้เชี่ยวชาญ: ศาลต้องเปิดโอกาสให้คู่ความนำสืบพยานหลักฐานอื่นประกอบ แม้ผู้เชี่ยวชาญจะมีความเห็นแล้ว
เมื่อคู่ความฝ่ายใดรับจะนำสืบก่อนฝ่ายนั้นก็ต้องนำสืบก่อน โดยไม่ต้องคำนึงว่าตามรูปคดีเป็นหน้าที่ของฝ่ายใดจะต้องนำสืบก่อน
แม้โจทก์เป็นฝ่ายขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายเซ็นต์ผู้ทำพินัยกรรม แต่ถ้าโจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้ถือเอาความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะคดีเช่นนี้ จะถือเอาผลการตรวจพิสูจน์นั้น เป็นเด็ดขาดไม่ได้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งในบรรดาพยานหลักฐานทั้งหลายอื่นที่โจทก์อาจนำสืบเพื่อแสดงว่าพินัยกรรมนั้นปลอม ลำพังแต่เพียงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ศาลจะชี้ขาดความแท้จริงหรือความถูกต้องแห่งพินัยกรรมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 126

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 696/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หน้าที่นำสืบเมื่อรับจะนำสืบก่อน และการใช้ผลตรวจลายมือชื่อเป็นพยานหลักฐานประกอบคดี
เมื่อคู่ความฝ่ายใดรับจะนำสืบก่อนฝ่ายนั้นก็ต้องนำสืบก่อนโดยไม่ต้องคำนึงว่าตามรูปคดีเป็นหน้าที่ของฝ่ายใดจะต้องนำสืบก่อน
แม้โจทก์เป็นฝ่ายขอให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายเซ็นผู้ทำพินัยกรรมแต่ถ้าโจทก์จำเลยมิได้ตกลงท้ากันให้ถือเอาความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะคดีเช่นนี้ จะถือเอาผลการตรวจพิสูจน์นั้นเป็นเด็ดขาดไม่ได้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเช่นนี้ เป็นแต่เพียงพยานหลักฐานอันหนึ่งในบรรดาพยานหลักฐานทั้งหลายอื่นที่โจทก์อาจนำสืบเพื่อแสดงว่าพินัยกรรมนั้นปลอมลำพังแต่เพียงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ยังไม่เป็นเหตุเพียงพอที่ศาลจะชี้ขาดความแท้จริงหรือความถูกต้องแห่งพินัยกรรมตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 126

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิสูจน์ลายมือชื่อในสัญญากู้ ศาลเทียบเคียงกับลายมือชื่อจริงในสำนวนได้
สัญญากู้ที่ส่งศาลจัดว่าเป็นพยานหลักฐานอันหนึ่ง เมื่อเถียงกันว่าลายมือชื่อผู้กู้ตามสัญญานั้นเป็นลายมือชื่อของจำเลยจริงหรือไม่ ศาลย่อมพิจารณาเทียบเคียงพิเคราะห์กับลายมือชื่อของจำเลยที่แท้จริงในท้องสำนวนซึ่งรับรองกันอยู่แล้วประกอบกับคำพยานแล้ววินิจฉัยชี้ขาดว่าเป็นลายมือชื่อของจำเลยตามที่เป็นข้อโต้เถียงกันได้ ไม่ผิดกระบวนพิจารณาอย่างใด
of 2