คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศริ มลิลา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 974 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทายาทมีหน้าที่ชำระหนี้กองมรดก แม้การหย่าไม่เป็นไปตามรูปแบบกฎหมาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วจำเลยตายก่อนได้รับคำบังคับ โจทก์ขอให้ส่งคำบังคับแก่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นภรรยาจำเลยแทนได้ และการที่ศาลพิพากษาให้ผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทของจำเลย เอาทรัพย์สินจากกองมรดกของจำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษานั้น ก็ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีแก่ทายาท: ศาลสั่งให้ทายาทชำระหนี้จากกองมรดกได้ ไม่เกินคำขอ
ศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วจำเลยตายก่อนได้รับคำบังคับ โจทก์ขอให้ส่งคำบังคับแก่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นภรรยาจำเลยแทนได้ และการที่ศาลพิพากษาให้ผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทของจำเลย เอาทรัพย์สินจากกองมรดกของจำเลยชำระหนี้ตามคำพิพากษานั้นก็ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์บังคับคดี: ทุนทรัพย์รวมกำหนดสิทธิฎีกา แม้ฎีกาเฉพาะบางส่วน
ผู้ร้องขัดทรัพย์ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ 2 รายการคือ ที่ดินและเรือนมีทุนทรัพย์รวมกัน 10,000 บาท (โจทก์นำยึดอ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลยที่ 1 เรือนเป็นของจำเลยที่ 2) แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์ฎีกาเฉพาะที่ดินซึ่งมีราคาเพียง 4,000 บาท ก็ต้องถือว่าคดีนี้มีทุนทรัพย์ 10,000 บาทจึงไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขัดทรัพย์และการคำนวณทุนทรัพย์ในคดีบังคับคดี
ผู้ร้องขัดทรัพย์ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ 2 รายการคือ ที่ดินและเรือน มีทุนทรัพย์รวมกัน 10,000 บาท (โจทก์นำยึดอ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลยที่ 1 เรือนเป็นของจำเลยที่ 2) แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์ฎีกาเฉพาะที่ดินซึ่งมีราคาเพียง 4,000 บาท ก็ต้องถือว่าคดีนี้มีทุนทรัพย์ 10,000 บาทจึงไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการยกเว้นการบังคับคดีเนื่องจากข้อตกลงนอกศาล: ศาลฎีกาวางหลักว่าการตกลงนอกศาลไม่อาจขัดขวางการบังคับคดีตามคำพิพากษา
เมื่อศาลมีคำพิพากษาและออกคำบังคับแล้วจำเลยไม่ปฏิบัติโจทก์ย่อมขอบังคับคดียึดทรัพย์สินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 จำเลยจะยกเอาสัญญาที่ทำกันนอกศาลมาเป็นเหตุให้งดการบังคับคดีเพื่อจะไม่ต้องปฏิบัติตามคำบังคับของศาลหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการยกเว้นการบังคับคดีเนื่องจากข้อตกลงนอกศาล ศาลฎีกาพิพากษาว่าการตกลงนอกศาลไม่สามารถขัดขวางการบังคับคดีตามคำพิพากษาได้
เมื่อศาลมีคำพิพากษาและออกคำบังคับแล้วจำเลยไม่ปฏิบัติ โจทก์ย่อมขอบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 จำเลยจะยกเอาสัญญาที่ทำกันนอกศาลมาเป็นเหตุ ให้งดการบังคับคดี เพื่อจะไม่ต้องปฏิบัติตามคำบังคับของศาลหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นเอกสารไม่ถูกต้องตามวิธีพิจารณาคดี และผลกระทบต่อการคัดค้านในชั้นอุทธรณ์ฎีกา
โจทก์มิได้ระบุอ้างเอกสารสัญญากู้เป็นพยานไว้ แต่ได้ส่งต้นฉบับสัญญากู้ต่อศาลในการพิจารณา ศาลชั้นต้นสั่งรับไว้เป็นเอกสารในสำนวนดังนี้ เป็นการไม่ปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการอ้างและยื่นหรือส่งเอกสารเป็นการพิจารณาผิดระเบียบจำเลยอาจยกขึ้นคัดค้านได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 แต่ต้องร้องคัดค้านเสียก่อน 8 วันนับแต่ได้ทราบเรื่องผิดระเบียบและก่อนที่จะมีคำพิพากษา จำเลยเพิ่งยกขึ้นคัดค้านในชั้นอุทธรณ์ฎีกาย่อมไม่ได้
จำเลยรับว่าลายเซ็นในช่องผู้กู้ในสัญญากู้ที่โจทก์ส่งต้นฉบับต่อศาลเป็นของจำเลยคงโต้เถียงตามที่ให้การต่อสู้ว่าไม่ได้กู้เงินโจทก์ สัญญากู้เป็นเอกสารปลอม จึงต้องฟังจากคำพยานหลักฐานอื่นต่อไป ไม่ต้องห้ามมิให้รับฟังพยานบุคคล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ราคาทุนทรัพย์ในคดีบังคับโอนกรรมสิทธิ์: ศาลใช้ราคาที่ตกลงกันจริง แม้ราคาซื้อขายจะต่ำกว่า
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์ตั้งราคาทุนทรัพย์ของที่พิพาท 240,000 บาท จำเลยรับว่ามีราคาตามที่โจทก์ตีไว้ ดังนี้ ต้องถือว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยส่งทรัพย์ราคา 240,000 บาทให้โจทก์ หากจำเลยไม่สามารถโอนทรัพย์ให้โจทก์ได้ ก็ต้องใช้ราคาตามที่โจทก์จำเลยตั้งพิพาท จะถือเอาราคาซื้อขายตามที่ปรากฏจากข้อเท็จจริงว่าโจทก์ซื้อจากจำเลยเพียง 20,000 บาทมาใช้บังคับไม่ได้ เพราะมิใช่ราคาที่แท้จริงของทรัพย์พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 255/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ราคาทุนทรัพย์ในคดีบังคับโอนกรรมสิทธิ์: ศาลใช้ราคาที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันแม้ราคาซื้อขายจริงจะต่ำกว่า
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์ ตั้งราคาทุนทรัพย์ของที่พิพาท 240,000 บาท จำเลยรับว่ามีราคาตามที่โจทก์ตีไว้ ดังนี้ ต้องถือว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยส่งทรัพย์ราคา 240,000 บาทให้โจทก์ หากจำเลยไม่สามารถโอนทรัพย์ให้โจทก์ได้ ก็ต้องใช้ราคาตามที่โจทก์จำเลยตั้งพิพาท จะถือเอาราคาซื้อขายตามที่ปรากฏจากข้อเท็จจริงว่าโจทก์ซื้อจากจำเลยเพียง 20,000 บาท มาใช้บังคับไม่ได้ เพราะมิใช่ราคาที่แท้จริงของทรัพย์พิพาท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยบัตรเลือกตั้งเสียและชอบด้วยกฎหมาย การนับคะแนน และการสั่งเลือกตั้งใหม่
บัตรเลือกตั้งที่ปิดเลขหมายประจำตัวผู้สมัครแต่เลขไทยหรือเลขอารบิคเพียงเลขใดเลขหนึ่ง ไม่มีลักษณะเป็นบัตรเสียตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน พ.ศ. 2511มาตรา 58 แต่มาตรา 49 บัญญัติว่าการลงคะแนนเลือกตั้งให้ใช้วิธีปิดเลขหมายประจำตัวผู้สมัครในบัตรเลือกตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง และกฎกระทรวงกำหนดว่าเลขหมายประจำตัวผู้สมัครต้องมีเลขไทยและเลขอารบิคควบคู่กันทั้งสองอย่าง ดังนั้น การที่ใช้เพียงเลขใดเลขหนึ่งย่อมถือว่าเป็นเลขหมายประจำตัวผู้สมัครไม่ได้ เพราะเป็นเลขหมายที่ไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวง บัตรประเภทนี้จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 49 และใช้นับเป็นคะแนนเลือกตั้งไม่ได้
บัตรที่มีเลขหมายประจำตัวของผู้สมัครบางคนเสียปะปนอยู่ในซองบัตรเลือกตั้งเดียวกันไม่ถือว่าเป็นบัตรเสียทั้งหมด คงเสียเฉพาะเลขหมายที่ไม่ชอบเท่านั้น ส่วนเลขหมายอื่น ๆ ที่ถูกต้องถือว่าเป็นบัตรดี
บัตรที่ปิดเลขหมายประจำตัวผู้สมัครคว่ำต้องมองกับแสงสว่างจึงเห็นเงาเลขหมาย ถือว่าเป็นบัตรเสียตามมาตรา 58(2) เพราะอ่านโดยวิธีธรรมดาไม่รู้ว่าเป็นเลขหมายอะไร
แม้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนจะปรากฏว่าในหน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งมีบัตรเลือกตั้งในหีบบัตรเกินกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งถึง 500 บัตรเศษซึ่งเป็นการไม่ชอบ แต่หากจะเอาคะแนนของผู้ที่ได้รับเลือกตั้งในหน่วยนี้ออกเสียทั้งหมด ก็ไม่ทำให้ผลของการเลือกตั้งสำหรับผู้ได้รับเลือกตั้งบางคนเปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด
(ข้อกฎหมายตามวรรคแรกและวรรคสาม วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2-3/2513)
of 98