คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศริ มลิลา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 974 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1264/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาพยายามฆ่า: การพิจารณาจากอาวุธ, วิธีการทำร้าย, และผลที่อาจเกิดขึ้น
แม้จำเลยจะยอมให้ถือเอาคำให้การของพยานชั้นสอบสวนเป็นคำเบิกความของพยานในชั้นศาลด้วย.ก็ไม่อาจถือได้ว่าคำให้การชั้นสอบสวนนั้นเป็นคำเบิกความของพยานในศาลได้ เพราะพยานไม่ได้เข้าเบิกความต่อศาลเอง
มีดพกปลายแหลมที่จำเลยใช้เป็นอาวุธ เป็นมีดพกขนาดใหญ่(ยาว 12 นิ้วฟุตเฉพาะตัวมีดทำด้วยเหล็กยาว 7 นิ้วครึ่ง กว้าง 1 นิ้ว)จำเลยเข้ามาทางหลังตั้งใจแทงตรงอวัยวะสำคัญโดยแทงทะลุช่องซี่โครงเข้าช่องปอดและช่องท้อง ดังนี้ อยู่ในวิสัยที่จำเลยอาจเล็งเห็นผลแห่งการกระทำของตนได้ว่า ผู้เสียหายอาจถึงแก่ความตายได้กรรมย่อมเป็นเครื่องชี้เจตนา
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 และการลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวข้องกัน จะรวมลดไปด้วยกันไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาบุคคลล้มละลาย: การไม่ขอหมายบังคับคดีและการนำสืบความสามารถในการชำระหนี้
เพียงแต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์จำนวนเกินกว่า 30,000 บาท จำเลยทราบคำบังคับแล้ว ไม่ชำระหนี้ แต่โจทก์ก็ยังไม่ได้ขอหมายบังคับคดี เพราะคดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับคดี และจำเลยก็นำสืบว่าสามารถชำระหนี้ให้โจทก์ได้ จึงยังไม่เข้าข้อสันนิษฐานว่าจำเลยเป็นบุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 8(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1239/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าข้อยุติเรื่องหนี้สินล้นพ้นตัว ต้องพิจารณาหลังศาลบังคับคดีแล้ว
เพียงแต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์จำนวนเกินกว่า 30,000 บาท จำเลยทราบคำบังคับแล้ว ไม่ชำระหนี้แต่โจทก์ก็ยังไม่ได้ขอหมายบังคับคดี เพราะคดียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้จำเลยทุเลาการบังคับคดี และจำเลยก็นำสืบว่าสามารถชำระหนี้ให้โจทก์ได้ จึงยังไม่เข้าข้อสันนิษฐานว่าจำเลยเป็นบุคคลที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 8(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสั่งให้ส่งสำนวนการสอบสวน แม้พนักงานอัยการอ้างเป็นเอกสารลับเพื่อประโยชน์ในการสอบสวน
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยผู้เป็นนายจ้างของ จ.ผู้ขับรถยนต์ชนโจทก์เสียหาย ในการพิจารณาโจทก์อ้างสำนวนการสอบสวนคดีที่ จ. ต้องหาว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้คนขับรถของโจทก์ตาย ศาลหมายเรียกจากพนักงานอัยการพนักงานอัยการชี้แจงว่าคดีนั้นอยู่ในระหว่างสั่งจับผู้ต้องหาย่อมเป็นเอกสารลับในทางราชการ อันไม่ควรเปิดเผย และหากจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว พนักงานอัยการก็ไม่มีสำนวนใช้ในการดำเนินคดี จึงไม่อาจส่งสำนวนตามหมายเรียกได้เมื่อศาลเห็นว่าสำนวนการสอบสวนนั้นเป็นหลักฐานที่ศาลจะต้องใช้ประกอบการพิจารณา เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดดำเนินไปด้วยความเที่ยงธรรม ศาลย่อมไม่ฟังคำปฏิเสธของพนักงานอัยการและสั่งให้ส่งสำเนาสำนวนการสอบสวนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1171/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการวินิจฉัยการปฏิเสธส่งสำนวนการสอบสวนของพนักงานอัยการ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยผู้เป็นนายจ้างของ จ. ผู้ขับรถยนต์ชนโจทก์เสียหาย ในการพิจารณาโจทก์อ้างสำนวนการสอบสวนคดีที่ จ. ต้องหาว่าขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้คนขับรถของโจทก์ตาย ศาลหมายเรียกจากพนักงานอัยการพนักงานอัยการชี้แจงว่าคดีนั้นอยู่ในระหว่างสั่งจับผู้ต้องหาย่อมเป็นเอกสารลับในทางราชการ อันไม่ควรเปิดเผย และหากจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว พนักงานอัยการก็ไม่มีสำนวนใช้ในการดำเนินคดี จึงไม่อาจส่งสำนวนตามหมายเรียกได้เมื่อศาลเห็นว่าสำนวนการสอบสวนนั้นเป็นหลักฐานที่ศาลจะต้องใช้ประกอบการพิจารณา เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดดำเนินไปด้วยความเที่ยงธรรม ศาลย่อมไม่ฟังคำปฏิเสธของพนักงานอัยการและสั่งให้ส่งสำเนาสำนวนการสอบสวนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุกรุกและลักทรัพย์ในวาระเดียวกัน ศาลพิจารณาโทษตามบทที่หนักที่สุด
จำเลยกับพวกได้สมคบกันเข้าไปในที่เกิดเหตุโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อเข้าไปลักทรัพย์ แล้วร่วมกันลักทรัพย์ของผู้เสียหาย ดังนี้ ถือว่าจำเลยกระทำผิดในวาระเดียวกันแต่ผิดกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1142/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานบุกรุกและลักทรัพย์ในวาระเดียวกัน ศาลพิจารณาโทษกระทงหนักสุด
จำเลยกับพวกบุกรุกเข้าไปในโรงงานของบริษัทผู้เสียหาย เพื่อทำการลักทรัพย์ แล้วจำเลยกับพวกได้ลักทรัพย์ที่อยู่ในโรงงานนั้นไป การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดในวาระเดียวกัน แต่ผิดกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมฆ่า: การยุยงส่งเสริมและร่วมกระทำความผิด
พี่ชายจำเลยโต้เถียงกับเจ้าของที่นาข้างเคียงเรื่องเขตที่นาผู้ตายซึ่งเป็นกำนันพูดไกล่เกลี่ย พี่ชายจำเลยไม่เชื่อฟัง จึงถูกผู้ตายว่ากล่าว ต่อมาพี่ชายจำเลยเดินเข้าหาผู้ตายจำเลยเดินตามไปด้วยพร้อมกับพูดให้พี่ชายยิงผู้ตายให้ตาย พี่ชายจำเลยจึงใช้ปืนสั้นยิงผู้ตาย 2 นัด แล้วจำเลยกับพี่ชายวิ่งหนีไป ผู้ตายถึงแก่ความตายดังนี้ จำเลยเป็นตัวการร่วมกับพี่ชายฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการร่วมกันฆ่า: การสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิดและการร่วมกระทำผิด
พี่ชายจำเลยโต้เถียงกับเจ้าของที่นาข้างเคียงเรื่องเขตที่นาผู้ตายซึ่งเป็นกำนันพูดไกล่เกลี่ย พี่ชายจำเลยไม่เชื่อฟัง จึงถูกผู้ตายว่ากล่าว ต่อมาพี่ชายจำเลยเดินเข้าหาผู้ตายจำเลยเดินตามไปด้วยพร้อมกับพูดให้พี่ชายยิงผู้ตายให้ตาย พี่ชายจำเลยจึงใช้ปืนสั้นยิงผู้ตาย 2 นัด แล้วจำเลยกับพี่ชายวิ่งหนีไป ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยเป็นตัวการร่วมกับพี่ชายฆ่าผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: การระบุสถานที่เกิดเหตุที่ชัดเจนเพียงพอให้จำเลยเข้าใจข้อหา
เมื่อคำฟ้องบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งเกิดกระทำผิดที่กล่าวหามาพอเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ดีว่า การกระทำผิดเกิดณ สถานที่ใดแล้ว แม้จะไม่ได้ระบุ ตำบล อำเภอ จังหวัดของสถานที่ที่เกิดเหตุนั้นมาด้วยก็เป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(5) แล้ว
(อ้างฎีกาที่ 951/2509)
of 98