คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศริ มลิลา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 974 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด & การบังคับจำนอง: แม้ตกลงนอกสัญญาเรื่องดอกเบี้ยสูง โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกคืน & ศาลชอบพิพากษาบังคับจำนองได้
แม้สัญญาจำนองกำหนดดอกเบี้ยตามอัตราที่กฎหมายกำหนด. แต่ผู้จำนองผู้รับจำนองตกลงกันนอกสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ อันเป็นความผิดทางอาญา. เมื่อผู้จำนองชำระดอกเบี้ยให้ไป ย่อมไม่มีสิทธิจะเรียกคืนได้. และไม่มีสิทธิจะเอาดอกเบี้ยส่วนที่ชำระเกินคิดหักชำระต้นเงิน.
ผู้รับจำนองฟ้องขอให้ผู้จำนองไถ่ถอนจำนอง. ผู้จำนองให้การว่า ผู้รับจำนองไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนอง. วันชี้สองสถานคู่ความแถลงรับว่ายินดีไถ่ถอนการจำนอง เพียงแต่โต้เถียงกันเรื่องจำนวนเงินที่จะไถ่ถอน. ดังนี้ถือว่า คู่ความไม่ติดใจโต้เถียงกันเรื่องการบังคับจำนอง. เมื่อศาลชี้ขาดถึงจำนวนเงินที่ต้องชำระกัน ก็ชอบจะพิพากษาบังคับจำนองไปได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 170/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดอกเบี้ยเกินกฎหมาย-การบังคับจำนอง: แม้ตกลงนอกสัญญาแต่ไม่มีสิทธิเรียกคืน/ฟ้องบังคับจำนองได้หากยินดีไถ่ถอน
แม้สัญญาจำนองกำหนดดอกเบี้ยตามอัตราที่กฎหมายกำหนด แต่ผู้จำนองผู้รับจำนองตกลงกันนอกสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ อันเป็นความผิดทางอาญา เมื่อผู้จำนองชำระดอกเบี้ยให้ไป ย่อมไม่มีสิทธิจะเรียกคืนได้ และไม่มีสิทธิจะเอาดอกเบี้ยส่วนที่ชำระเกินคิดหักชำระต้นเงิน
ผู้รับจำนองฟ้องขอให้ผู้จำนองไถ่ถอนจำนอง ผู้จำนองให้การว่า ผู้รับจำนองไม่ได้บอกกล่าวบังคับจำนอง วันชี้สองสถาน คู่ความแถลงรับว่ายินดีไถ่ถอนการจำนอง เพียงแต่โต้เถียงกันเรื่องจำนวนเงินที่จะไถ่ถอน ดังนี้ถือว่า คู่ความไม่ติดใจโต้เถียงกันเรื่องการบังคับจำนอง เมื่อศาลชี้ขาดถึงจำนวนเงินที่ต้องชำระกัน ก็ชอบจะพิพาทบังคับจำนองไปได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความเหมือนของเครื่องหมายและการใช้ก่อน
จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษร winner ประกอบกับภาพคนยืนยกมือ ภาพคนขี่ม้ากระโดดข้ามรั้วและอักษรว่าด้วยคุณภาพสินค้า ตามเอกสารหมาย จ.2 ต่อมาโจทก์ขอจดทะเบียนการค้าอักษร winnerr ไม่มีภาพประกอบตามเอกสารหมาย จ.1 ดังนี้ เห็นได้ว่าความสำคัญเด่นชัดอยู่ที่คำว่า "winnerr" กับ "winner" ภาพและอักษรอื่นเป็นแต่ส่วนประกอบ และการที่จะวินิจฉัยว่าเครื่องหมายการค้าเหมือนกันหรือไม่ จะเพียงแต่เอามาเทียบกันแล้วชี้ขาดว่าไม่เหมือนกัน เพราะมีความแตกต่างกันบางประการเท่านั้น หาได้ไม่ ยังจะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่าง ๆ ประกอบด้วยว่าอาจทำให้สาธารณชนหลงเข้าใจผิดได้หรือไม่ เมื่อเครื่องหมายการค้าทั้งสองดังกล่าวในลักษณะสำคัญได้ใช้ภาษาต่างประเทศ มีสำเนียงเรียกขานเหมือนกันและใช้สำหรับสินค้าจำพวกเดียวกัน ผู้ซื้อย่อมติดใจยึดถือคำเรียกขานและหลงผิดได้ง่าย ว่าสินค้าทั้งสองเครื่องหมายเป็นอย่างเดียวกัน เครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 จึงมีลักษณะเหมือนกัน
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องหมายการค้าเหมือนกันหรือไม่ พิจารณาจากความสำคัญของคำ, สำเนียง, สินค้าประเภทเดียวกัน, และการใช้ก่อน
จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษร WINNER ประกอบกับภาพคนยืนยกมือ ภาพคนขี่ม้ากระโดดข้ามรั้วและอักษรว่าด้วยคุณภาพสินค้า ตามเอกสารหมาย จ.2. ต่อมาโจทก์ขอจดทะเบียนการค้าอักษร WINNERR ไม่มีภาพประกอบตามเอกสารหมายจ.1. ดังนี้เห็นได้ว่าความสำคัญเด่นชัดอยู่ที่คำว่า'WINNERR' กับ 'WINNER' ภาพและอักษรอื่นเป็นแต่ส่วนประกอบ และการที่จะวินิจฉัยว่าเครื่องหมายการค้าเหมือนกันหรือไม่. จะเพียงแต่เอามาเทียบกันแล้วชี้ขาดว่าไม่เหมือนกัน.เพราะมีความแตกต่างกันบางประการเท่านั้น หาได้ไม่.ยังจะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่างๆประกอบด้วยว่าอาจทำให้สาธารณชนหลงเข้าใจผิดได้หรือไม่. เมื่อเครื่องหมายการค้าทั้งสองดังกล่าวในลักษณะสำคัญได้ใช้ภาษาต่างประเทศ. มีสำเนียงเรียกขานเหมือนกันและใช้สำหรับสินค้าจำพวกเดียวกัน.ผู้ซื้อย่อมติดใจยึดถือคำเรียกขานและหลงผิดได้ง่ายว่าสินค้าทั้งสองเครื่องหมายเป็นอย่างเดียวกัน. เครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 จึงมีลักษณะเหมือนกัน. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2510).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: การพิจารณาความเหมือนและความแตกต่างโดยคำนึงถึงสำเนียงการออกเสียงและการใช้สินค้าประเภทเดียวกัน
จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอักษร WINNER ประกอบกับภาพคนยืนยกมือ ภาพคนขี่ม้ากระโดดข้ามรั้วและอักษรว่าด้วยคุณภาพสินค้า ตามเอกสารหมาย จ.2 ต่อมาโจทก์ขอจดทะเบียนการค้าอักษรWINNERR ไม่มีภาพประกอบตามเอกสารหมายจ.1 ดังนี้เห็นได้ว่าความสำคัญเด่นชัดอยู่ที่คำว่า'WINNERR' กับ 'WINNER' ภาพและอักษรอื่นเป็นแต่ส่วนประกอบ และการที่จะวินิจฉัยว่าเครื่องหมายการค้าเหมือนกันหรือไม่จะเพียงแต่เอามาเทียบกันแล้วชี้ขาดว่าไม่เหมือนกันเพราะมีความแตกต่างกันบางประการเท่านั้น หาได้ไม่ยังจะต้องพิจารณาพฤติการณ์ต่างๆประกอบด้วยว่าอาจทำให้สาธารณชนหลงเข้าใจผิดได้หรือไม่เมื่อเครื่องหมายการค้าทั้งสองดังกล่าวในลักษณะสำคัญได้ใช้ภาษาต่างประเทศมีสำเนียงเรียกขานเหมือนกันและใช้สำหรับสินค้าจำพวกเดียวกันผู้ซื้อย่อมติดใจยึดถือคำเรียกขานและหลงผิดได้ง่ายว่าสินค้าทั้งสองเครื่องหมายเป็นอย่างเดียวกันเครื่องหมายการค้าตามเอกสารหมาย จ.1 และ จ.2 จึงมีลักษณะเหมือนกัน
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 22/2510)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางแพ่งจากการชำระค่าอากรผ่านตัวแทน: กรณีเงินค่าอากรถูกยักยอกหรือไม่ได้ชำระ
จำเลยให้ลูกจ้างไปชำระค่าอากรเพื่อรับสินค้าต่อกรมศุลกากรและได้รับสินค้าไปแล้วแต่กรมศุลกากรไม่ได้รับชำระค่าอากรจำนวนนั้นค่าลูกจ้างของจำเลยได้ชำระค่าอากรแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรเอาเงินนั้นไว้เอง ไม่ส่งให้แก่กรมศุลกากรจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดชำระค่าอากรนั้น แต่ถ้าลูกจ้างของจำเลยไม่ได้ชำระเงินนั้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร แม้จะเป็นโดยเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรร่วมทุจริตด้วยก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิด เพราะจำเลยต้องรับผิดชอบในการกระทำของลูกจ้างซึ่งเป็นตัวแทนที่จำเลยใช้ในการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของจำเลยต่อการชำระค่าอากรผ่านตัวแทน: กรณีเจ้าหน้าที่ทุจริตหรือไม่ชำระเงิน
จำเลยให้ลูกจ้างไปชำระค่าอากรเพื่อรับสินค้าต่อกรมศุลกากร และได้รับสินค้าไปแล้ว แต่กรมศุลกากรไม่ได้รับชำระค่าอากรจำนวนนั้น ถ้าลูกจ้างของจำเลยได้ชำระค่าอากรแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรเอาเงินนั้นไว้เอง ไม่ส่งให้แก่กรมศุลกากรจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดชำระค่าอากรนั้น แต่ถ้าลูกจ้างของจำเลยไม่ได้ชำระเงินนั้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร แม้จะเป็นโดยเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรร่วมทุจริตด้วย ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิด เพราะจำเลยต้องรับผิดชอบในการกระทำของลูกจ้างซึ่งเป็นตัวแทนที่จำเลยใช้ในการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 102/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของตัวแทนในการชำระหนี้ค่าอากร: จำเลยต้องรับผิดหากตัวแทนไม่ได้ชำระเงิน แม้เจ้าหน้าที่ทุจริต
จำเลยให้ลูกจ้างไปชำระค่าอากรเพื่อรับสินค้าต่อกรมศุลกากร และได้รับสินค้าไปแล้ว. แต่กรมศุลกากรไม่ได้รับชำระค่าอากรจำนวนนั้น. ถ้าลูกจ้างของจำเลยได้ชำระค่าอากรแล้ว. แต่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรเอาเงินนั้นไว้เอง ไม่ส่งให้แก่กรมศุลกากร.จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดชำระค่าอากรนั้น. แต่ถ้าลูกจ้างของจำเลยไม่ได้ชำระเงินนั้นให้แก่เจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร. แม้จะเป็นโดยเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรร่วมทุจริตด้วย. ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิด. เพราะจำเลยต้องรับผิดชอบในการกระทำของลูกจ้างซึ่งเป็นตัวแทนที่จำเลยใช้ในการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 220.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์และการระงับหนี้จำนองเมื่อมีการยกทรัพย์ชำระหนี้
โจทก์เป็นผู้รับพินัยกรรมและผู้จัดการมรดกของ พ. ได้ครอบครองที่พิพาทสืบต่อมาในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์และเป็นไปโดยสงบและเปิดเผยอย่างเป็นเจ้าของ. ส่วนจำเลยเป็นทายาทผู้สืบกรรมสิทธิ์จาก ส. ซึ่งมีชื่อในโฉนดที่พิพาท ฉะนั้น ภาระการพิสูจน์ว่าการครอบครองที่พิพาทของฝ่ายโจทก์ได้เป็นไปโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของย่อมตกอยู่แก่โจทก์(อ้างฎีกาที่ 521/2493,1112/2493).
แม้จำเลยจะเป็นฝ่ายนำสืบก่อนตามคำสั่งศาลชั้นต้น. หากจะทำการพิจารณาวินิจฉัยต่อไป. ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ. ศาลฎีกาย่อมดำเนินการพิจารณาต่อไปตามรูปคดีที่โจทก์เป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนได้. โดยไม่ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาใหม่.
การที่ พ.ยอมให้ส.เอาที่พิพาทที่ส. จำนองไว้กับพ.ตีใช้หนี้ แม้จะมิได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียน. เมื่อพ.กับโจทก์ซึ่งเป็นทายาทได้ครอบครองมาเกิน 10 ปี ฝ่ายโจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทตามมาตรา 1382.สิทธิไถ่ถอนจำนองของจำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ส.จึงระงับไป.จำเลยจะเถียงว่าเมื่อไม่มีการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนอง. การจำนองก็ยังมีอยู่หาได้ไม่. เพราะกรณีเป็นการที่ฝ่ายจำเลยยกที่พิพาทตีใช้หนี้และฝ่ายโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว. หนี้จำนองย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 ประกอบมาตรา 744(1). ทั้งจำเลยไม่ใช่บุคคลภายนอก.ซึ่งจะถือได้ว่าเมื่อไม่จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองตามมาตรา 746. การจำนองก็ไม่ระงับไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 69/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์และการระงับหนี้จำนองเมื่อมีการยกทรัพย์ชำระหนี้
โจทก์เป็นผู้รับพินัยกรรมและผู้จัดการมรดกของ พ. ได้ครอบครองที่พิพาทสืบต่อมาในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์และเป็นไปโดยสงบและเปิดเผยอย่างเป็นเจ้าของส่วนจำเลยเป็นทายาทผู้สืบกรรมสิทธิ์จาก ส. ซึ่งมีชื่อในโฉนดที่พิพาท ฉะนั้น ภาระการพิสูจน์ว่าการครอบครองที่พิพาทของฝ่ายโจทก์ได้เป็นไปโดยสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของย่อมตกอยู่แก่โจทก์ (อ้างฎีกาที่ 521/2493,1112/2493)
แม้จำเลยจะเป็นฝ่ายนำสืบก่อนตามคำสั่งศาลชั้นต้น หากจะทำการพิจารณาวินิจฉัยต่อไป ก็ไม่ทำให้จำเลยเสียเปรียบ ศาลฎีกาย่อมดำเนินการพิจารณาต่อไปตามรูปคดีที่โจทก์เป็นฝ่ายมีหน้าที่นำสืบก่อนได้โดยไม่ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาใหม่
การที่ พ. ยอมให้ส.เอาที่พิพาทที่ ส. จำนองไว้กับ พ. ตีใช้หนี้ แม้จะมิได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียนเมื่อ พ. กับโจทก์ซึ่งเป็นทายาทได้ครอบครองมาเกิน 10 ปี ฝ่ายโจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาทตามมาตรา 1382 สิทธิไถ่ถอนจำนองของจำเลยซึ่งเป็นทายาทของ ส.จึงระงับไปจำเลยจะเถียงว่าเมื่อไม่มีการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองการจำนองก็ยังมีอยู่หาได้ไม่ เพราะกรณีเป็นการที่ฝ่ายจำเลยยกที่พิพาทตีใช้หนี้และฝ่ายโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทจนได้กรรมสิทธิ์แล้ว หนี้จำนองย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 ประกอบมาตรา 744(1) ทั้งจำเลยไม่ใช่บุคคลภายนอกซึ่งจะถือได้ว่าเมื่อไม่จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองตามมาตรา 746 การจำนองก็ไม่ระงับไป
of 98