พบผลลัพธ์ทั้งหมด 974 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 620/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดเงินค่าก่อสร้าง vs. การยึดเงิน: สิทธิในการเฉลี่ยทรัพย์ของผู้มีหนี้อื่น
เงินค่าก่อสร้างที่จำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิเบิกตามงวดจากกรมทางหลวงแผ่นดิน เป็นเพียงสิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะขอให้อายัดไว้ ฉะนั้น เจ้าหนี้ผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ต้องยื่นคำขอภายในบังคับตามมาตรา 290 วรรคสี่ มิใช่กรณียึดเงินซึ่งเจ้าหนี้จะอ้างว่ายังอยู่ภายในกำหนดเวลาตามมาตรา 290 วรรคห้า โดยนับแต่วันที่กรมทางหลวงส่งเงินมาให้กองบังคับคดีแพ่งดังที่อ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาจากการร่วมกันทำร้ายร่างกาย แม้แผลมีดไม่ถึงแก่ชีวิต
จำเลยกับ ส. พี่จำเลยสมัครใจต่อสู้กับผู้ตาย ส. ใช้ปืนยิงและจำเลยใช้มีดแทงถูกผู้ตายหลายแผล ผู้ตายถึงแก่ความตายในวันเกิดเหตุ เช่นนี้จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการฆ่าผู้อื่น และการกระทำของจำเลยหาเป็นการป้องกันหรือบันดาลโทสะไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามมาตรา 288, 72 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา ดังนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามมาตรา 288, 72 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา ดังนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 559/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้แผลมีดไม่ถึงแก่ชีวิต ก็เป็นตัวการฆ่าผู้อื่นได้
จำเลยกับ ส. พี่จำเลยสมัครใจต่อสู้กับผู้ตาย ส. ใช้ปืนยิงและจำเลยใช้มีดแทงถูกผู้ตายหลายแผล ผู้ตายถึงแก่ความตายในวันเกิดเหตุ เช่นนี้จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการฆ่าผู้อื่น และการกระทำของจำเลยหาเป็นการป้องกันหรือบันดาลโทสะไม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามมาตรา 288, 72 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา ดังนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 5 ปี ตามมาตรา 288, 72 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา ดังนี้ แม้ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288 ศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยหนักกว่าโทษที่ศาลชั้นต้นลงมาไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จในชั้นไต่สวนอนาถา ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อคู่ความ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่จำเลยเข้าเบิกความในชั้นไต่สวนเพื่อให้ศาลสั่งอนุญาตให้จำเลยซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนั้นฟ้องคดีอย่างคนอนาถา เป็นข้อความที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของจำเลย มิได้เกี่ยวพันถึงโจทก์ในคดีนี้หรือจำเลยในคดีนั้นโจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องคดีในข้อหาเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 555/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จในชั้นไต่สวนอนาถา ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ได้รับความเสียหายโดยตรง
การที่จำเลยเข้าเบิกความในชั้นไต่สวนเพื่อให้ศาลสั่งอนุญาตให้จำเลยซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนั้นฟ้องคดีอย่างคนอนาถา เป็นข้อความที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของจำเลย มิได้เกี่ยวพันถึงโจทก์ในคดีนี้หรือจำเลยในคดีนั้น โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องคดีในข้อหาเบิกความเท็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งเท็จเพื่อประโยชน์ผู้อื่น – ผู้เสียหายต้องเสียหายโดยตรง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้จัดการโรงเรียนและเป็นผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารพิเศษจำเลยได้แจ้งข้อความอันจำเลยรู้อยู่ว่าเป็นเท็จแก่เจ้าหน้าที่กรมการรักษาดินแดน โดยได้บันทึกรับรองในใบสมัครเข้ารับการฝึกวิชาทหารของผู้มีชื่อ 4 ราย ว่าผู้มีชื่อทั้งสี่กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นความจริงการกระทำของจำเลยอาจทำให้กรมการรักษาดินแดน ป. เจ้าของกรรมสิทธิ์โรงเรียนดังกล่าวร่วมกับจำเลยและประชาชนเสียหายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ดังนี้ การกระทำของจำเลยตามฟ้องมิได้พาดพิงถึงตัว ป. หรือกรรมสิทธิ์ในโรงเรียนซึ่ง ป. เป็น เจ้าของร่วม ในประการที่จะทำให้ ป. เสียหาย ป. จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย และไม่มีสิทธิขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับผู้ว่าคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 552/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งข้อมูลเท็จเพื่อประโยชน์ผู้อื่น: ผู้เสียหายต้องได้รับการเสียหายโดยตรง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้จัดการโรงเรียนและเป็นผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหารพิเศษจำเลยได้แจ้งข้อความอันจำเลยรู้อยู่ว่าเป็นเท็จแก่เจ้าหน้าที่กรมการรักษาดินแดน โดยได้บันทึกรับรองในใบสมัครเข้ารับการฝึกวิชาทหารของผู้มีชื่อ 4 ราย ว่าผู้มีชื่อทั้งสี่กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งไม่เป็นความจริงการกระทำของจำเลยอาจทำให้กรมการรักษาดินแดน ป. เจ้าของกรรมสิทธิ์โรงเรียนดังกล่าวร่วมกับจำเลยและประชาชนเสียหายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ดังนี้ การกระทำของจำเลยตามฟ้องมิได้พาดพิงถึงตัว ป. หรือกรรมสิทธิ์ในโรงเรียนซึ่ง ป. เป็น เจ้าของร่วม ในประการที่จะทำให้ ป. เสียหาย ป. จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย และไม่มีสิทธิขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับผู้ว่าคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ระยะเวลาการยื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์: นับจากวันสิ้นสุดการขายทอดตลาดทั้งหมด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรค 3ระยะเวลา 14 วันนับแต่วันขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้น หมายถึงวันสิ้นสุดการขายทรัพย์สินที่ยึดมาในคราวนั้นทั้งหมด คดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เข้ามาก่อนวันขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดมาคราวนั้นครั้งที่สามจึงมีสิทธิที่จะขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ระยะเวลาการยื่นคำขอเฉลี่ยทรัพย์: นับจากวันสิ้นสุดการขายทอดตลาดทั้งหมด
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรค 3 ระยะเวลา 14 วันนับแต่วันขายทอดตลาดทรัพย์สินนั้น หมายถึงวันสิ้นสุดการขายทรัพย์สินที่ยึดมาในคราวนั้นทั้งหมด คดีนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เข้ามาก่อนวันขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดมาคราวนั้นครั้งที่สามจึงมีสิทธิที่จะขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2514)
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 461/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจัดการมรดกกรณีศาลตั้งผู้จัดการหลายคนและการขอคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ศาลตั้งให้โจทก์กับ อ. เป็นผู้จัดการมรดกที่ไม่มีพินัยกรรม เมื่อ อ. ตายโจทก์ไม่มีอำนาจดำเนินการจัดการมรดกต่อไปตามลำพังไม่มีอำนาจเบิกเงินกองมรดกจากธนาคาร โดยที่ยังไม่มีคำสั่งศาลอนุญาตให้โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกแต่ผู้เดียว