คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ศริ มลิลา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 974 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 789/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องร้องกรณีสัญญาจะซื้อขายและประเด็นฟ้องซ้ำ
ฟ้องคดีก่อนมีประเด็นว่า จำเลยได้สละสิทธิมอบที่พิพาทให้โจทก์และภริยาโจทก์แล้วหรือไม่ ส่วนคดีหลังมีประเด็นว่า จำเลยได้ขายที่พิพาทให้โจทก์หรือไม่ จึงมีประเด็นคนละอย่าง ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ภริยาโจทก์ซึ่งเป็นบุตรจำเลยได้ไถ่ถอนการขายฝากที่พิพาทแทนจำเลยแล้วจำเลยได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอขายที่พิพาทให้โจทก์ในวันเดียวกันนั้น ครั้นเมื่อภริยาโจทก์ถึงแก่กรรม จำเลยกลับยื่นคำร้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอถอนคำร้องขอขายที่พิพาทดังกล่าว โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยโอนที่พิพาทให้โจทก์ ดังนี้ สิทธิเรียกร้องของโจทก์จะบังคับให้จำเลยโอนที่พิพาทให้ได้เกิดขึ้นแล้วนับแต่วันที่จำเลยยื่นคำร้องขอขายที่พิพาท โจทก์ย่อมใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยโอนที่พิพาทให้ได้นับแต่วันนั้นเป็นต้นไป อายุความฟ้องร้องจึงเริ่มนับแต่วันนั้น ไม่ใช่เริ่มนับแต่วันที่จำเลยยื่นคำร้องขอถอนคำร้องขอขายที่พิพาท ฉะนั้น เมื่อนับแต่วันที่จำเลยยื่นคำร้องขอขายที่พิพาทจนถึงวันฟ้องคดีเกินสิบปี คดีของโจทก์ย่อมขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163,164
โจทก์ฟ้องคดีเรื่องก่อน ศาลพิพากษายกฟ้องอายุความ จึงไม่สะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 174

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: เงื่อนไขการขอให้จำเลยออกจากที่ดินผูกพันโจทก์ แม้จะมีเหตุอื่น
สัญญาประนีประนอมยอมความในศาลระหว่างโจทก์จำเลยระบุเงื่อนไขไว้เพียงว่า หากโจทก์มีความจำเป็นทำการเพื่อประโยชน์ในการรถไฟแล้ว โจทก์จึงจะขอให้จำเลยออกจากที่รายพิพาทได้ ฉะนั้น การที่จำเลยได้เบิกความเป็นพยานในคดีที่บิดาจำเลยฟ้องโจทก์จำเลยว่าที่รายพิพาทเป็นของนายเงินจึงไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวแต่ประการใด โจทก์จะยกเหตุอื่นมาฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ เพราะโจทก์ต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความ: เงื่อนไขการขับไล่จำเลยต้องเป็นไปตามที่ตกลงไว้
สัญญาประนีประนอมยอมความในศาลระหว่างโจทก์จำเลยระบุเงื่อนไขไว้เพียงว่า หากโจทก์มีความจำเป็นทำการเพื่อประโยชน์ในการรถไฟแล้ว โจทก์จึงจะขอให้จำเลยออกจากที่รายพิพาทได้ ฉะนั้น การที่จำเลยได้เบิกความเป็นพยานในคดีที่บิดาจำเลยฟ้องโจทก์จำเลยว่าที่รายพิพาทเป็นของนายเงิน จึงไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวแต่ประการใด โจทก์จะยกเหตุอื่นมาฟ้องขับไล่จำเลยไม่ได้ เพราะโจทก์ต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าที่ดิน: การลงทุนก่อนสัญญาที่สมบูรณ์ ไม่ถือเป็นสัญญาต่างตอบแทน
จำเลยพูดขอเช่าที่พิพาทกับผู้แทนโจทก์มีกำหนด 10 ปี ผู้แทนโจทก์รับว่าจะให้เช่าเป็นเวลา 10 ปีตามขอ แต่ให้รอการแบ่งแยกที่ดินมรดกกันเสียก่อน เมื่อรู้ว่าตกเป็นของใครจึงจะค่อยทำสัญญาเช่ากันต่อไป จำเลยเชื่อว่าจะได้เช่ามีกำหนด 10 ปี จึงลงทุนปรับพื้นที่ซึ่งเป็นหลุมบ่อและสร้างเขื่อนริมคลอง ดังนี้ การที่จำเลยกระทำดังนั้นก็เพื่อประโยชน์ของจำเลยเอง ไม่ได้เป็นข้อตกลงหรือข้อเรียกร้องจากฝ่ายเจ้าของที่ดินแต่อย่างใด ตามพฤติการณ์จึงไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีผลผูกพันเมื่อตกลงกันยังไม่ชัดเจน และการลงทุนปรับปรุงพื้นที่เป็นประโยชน์จำเลยเอง
จำเลยพูดขอเช่าที่พิพาทกับผู้แทนโจทก์มีกำหนด 10 ปีผู้แทนโจทก์รับว่าจะให้เช่าเป็นเวลา 10 ปีตามขอแต่ให้รอการแบ่งแยกที่ดินมรดกกันเสียก่อน เมื่อรู้ว่าตกเป็นของใครจึงจะค่อยทำสัญญาเช่ากันต่อไป จำเลยเชื่อว่าจะได้เช่ามีกำหนด 10 ปี จึงลงทุนปรับพื้นที่ซึ่งเป็นหลุมบ่อและสร้างเขื่อนริมคลอง ดังนี้ การที่จำเลยกระทำดังนั้นก็เพื่อประโยชน์ของจำเลยเอง ไม่ได้เป็นข้อตกลงหรือข้อเรียกร้องจากฝ่ายเจ้าของที่ดินแต่อย่างใด ตามพฤติการณ์จึงไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าห้องเพื่อค้าและอยู่อาศัย การให้การไม่ยกข้อต่อสู้เรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมการเช่าฯ ไม่ทำให้เกิดประเด็น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เพื่อประกอบการค้ามีกำหนด 3 ปี จำเลยให้การว่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทของโจทก์ เพื่อทำการค้าและอยู่อาศัยเป็นระยะเวลา 3 ปีจริง คำให้การนี้มิได้มุ่งหมายที่จะยกข้ออยู่อาศัยขึ้นต่อสู้ จึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตควบคุมการเช่าฯ หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้การของจำเลยไม่ถือเป็นการยกข้อต่อสู้เรื่องการคุ้มครองตามพรบ.ควบคุมเช่าฯ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเช่าห้องพิพาทของโจทก์เพื่อประกอบการค้ามีกำหนด 3 ปี จำเลยให้การว่า จำเลยได้ทำสัญญาเช่าห้องพิพาทของโจทก์ เพื่อทำการค้าและอยู่อาศัยเป็นระยะเวลา 3 ปีจริง คำให้การนี้มิได้มุ่งหมาย ที่จะยกข้ออยู่อาศัยขึ้นต่อสู้ จึงไม่มีประเด็นว่าจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ หรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีเช่า และผลของการผ่อนชำระหนี้หลังหมดอายุความ สิทธิเรียกร้องค่าเช่ามีอายุความ 2 ปี
ในการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดี ศาลต้องสืบพยานตามประเด็นในข้อพิพาทซึ่งหมายถึงปัญหาใด ๆ ไม่ว่าปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่คู่ความฝ่ายหนึ่งยกขึ้นอ้างและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่รับ และศาลจดลงไว้เป็นประเด็นข้อพิพาท แล้วพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปตามนั้น จำเลยให้การแก้ฟ้องเดิมของโจทก์ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ โจทก์เพิ่มเติมฟ้องว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ เพราะจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์สองคราว เป็นการชำระหนี้บางส่วน อายุความสะดุดหยุดลงจำเลยให้การปฏิเสธไม่รับรอง คดีจึงมีประเด็นว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้ดังโจทก์อ้างหรือไม่ ซึ่งโจทก์ย่อมนำสืบได้ และโจทก์มีหน้าที่นำสืบได้ตามประเด็นนี้เท่านั้น โจทก์จะนำสืบถึงการที่จำเลยชำระหนี้คราวอื่นอีกไม่ได้ เป็นการสืบฟ้องนอกประเด็น
สิทธิ์เรียกร้องเอาค่าเช่าค้างโดยบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6) มีอายุความ 2 ปี และจะฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าเช่าค้างตามหนังสือรับสภาพหนี้ก็ต้องฟ้องภายใน 2 ปีนับแต่วันรับสภาพหนี้
การรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 ต้องเป็นการรับสภาพหนี้ภายในกำหนดอายุความ ถ้าเป็นระยะเวลาที่พ้นกำหนดอายุความแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะสะดุดหยุดลงอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีค่าเช่าและการสะดุดหยุดของอายุความ: การผ่อนชำระหลังอายุความพ้นกำหนด
ในการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดี ศาลต้องสืบพยานตามประเด็นในข้อพิพาท ซึ่งหมายถึงปัญหาใด ๆ ไม่ว่าปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่คู่ความฝ่ายหนึ่งยกขึ้นอ้างและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่รับ และศาลจดลงไว้เป็นประเด็นข้อพิพาท แล้วพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปตามนั้น จำเลยให้การแก้ฟ้องเดิมของโจทก์ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความโจทก์เพิ่มเติมฟ้องว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ เพราะจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์สองคราวเป็นการชำระหนี้บางส่วนอายุความสะดุดหยุดลงจำเลยให้การปฏิเสธไม่รับรอง คดีจึงมีประเด็นว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้ดังโจทก์อ้างหรือไม่ ซึ่งโจทก์ย่อมนำสืบได้ และโจทก์มีหน้าที่นำสืบได้ตามประเด็นนี้เท่านั้น โจทก์จะนำสืบถึงการที่จำเลยชำระหนี้คราวอื่นอีกไม่ได้ เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
สิทธิเรียกร้องเอาค่าเช่าค้างโดยบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6) มีอายุความ 2 ปี และจะฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าเช่าค้างตามหนังสือรับสภาพหนี้ก็ต้องฟ้องภายใน 2 ปีนับแต่วันรับสภาพหนี้
การรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172ต้องเป็นการรับสภาพหนี้ภายในกำหนดอายุความ ถ้าเป็นระยะเวลาที่พ้นกำหนดอายุความแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะสะดุดหยุดลงอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจร้องทุกข์ของเลขานุการสำนักงานอาคารสงเคราะห์ และการเริ่มนับระยะเวลาการร้องทุกข์ในคดีอาญา
เลขานุการสำนักงานอาคารสงเคราะห์ได้รับมอบหมายจากกรรมการสองนายของสำนักงานฯ ให้มีอำนาจลงนามในเอกสารผูกพันสำนักงานได้ในการดำเนินงานในอำนาจและหน้าที่ของสำนักงานอาคารสงเคราะห์ ฉะนั้นเลขานุการฯ จึงมีอำนาจร้องทุกข์แทนสำนักงานอาคารสงเคราะห์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 5(3)
การร้องทุกข์เกี่ยวกับความผิดฐานยักยอก ซึ่งต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิด และรู้ตัวผู้กระทำผิดนั้น ต้องถือว่าสำนักงานอาคารสงเคราะห์เพิ่งทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อวันที่คณะกรรมการสอบสวนรายงานผลให้เลขานุการของสำนักงานทราบ เพราะเลขานุการเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการแทนสำนักงานอาคารสงเคราะห์ได้จะนับแต่วันทราบของเจ้าหน้าที่สำนักงานซึ่งไม่มีอำนาจดำเนินการแทนสำนักงานอาคารสงเคราะห์ไม่ได้
of 98