คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ทองคำ จารุเหติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 349 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบปล้นทรัพย์แล้วมีผู้เสียชีวิต โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยเกี่ยวข้องกับการฆ่าโดยตรงจึงจะผิดตาม ม.289(7)
จำเลยสมคบกับพวกทำการปล้นทรัพย์. เมื่อปล้นทรัพย์แล้วระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไปและเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากการจับกุมและปกปิดการกระทำของพวกตน. พวกของจำเลยคนใดคนหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏจากข้อเท็จจริงแน่ชัดว่าเป็นคนใดได้ยิงพวกผู้เสียหายถึงตาย. เป็นเรื่องสมคบกันมาปล้นทรัพย์แล้วมีการตายเกิดขึ้น. เมื่อโจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยิงพวกเจ้าทรัพย์ตายหรือจำเลยได้สมคบกับคนร้ายในการปล้นรายนี้ฆ่าพวกของเจ้าทรัพย์หลังจากทำการปล้นทรัพย์แล้ว และระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไป.ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(7).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานปล้นทรัพย์และการตายของผู้อื่น: จำเลยต้องรับผิดชอบเฉพาะความผิดฐานปล้นทรัพย์เท่านั้น
จำเลยสมควบกับพวกทำการปล้นทรัพย์ เมื่อปล้นทรัพย์แล้ว ระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไปและเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากการจับกุมและปกปิดการกระทำของพวกตน พวกของจำเลยคนใดคนหนึ่ง ซึ่งไม่ปรากฏจากข้อเท็จจริงแน่ชัดว่าเป็นคนใด ได้ยิงพวกผู้เสียหายถึงตาย เป็นเรื่องสมคบกันมาปล้นทรัพย์แล้วมีการตายเกิดขึ้น เมื่อโจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยิงพวกเจ้าทรัพย์ตายหรือจำเลยได้สมคบกับคนร้ายในการปล้นรายนี้ฆ่าพวกของเจ้าทรัพย์หลังจากทำการปล้นทรัพย์แล้ว และระหว่างที่พวกเอาทรัพย์หนีไป ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบปล้นทรัพย์แล้วเกิดการเสียชีวิต การพิสูจน์ความรับผิดทางอาญาต่อการฆ่า
จำเลยสมคบกับพวกทำการปล้นทรัพย์ เมื่อปล้นทรัพย์แล้วระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไปและเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากการจับกุมและปกปิดการกระทำของพวกตน พวกของจำเลยคนใดคนหนึ่งซึ่งไม่ปรากฏจากข้อเท็จจริงแน่ชัดว่าเป็นคนใดได้ยิงพวกผู้เสียหายถึงตาย เป็นเรื่องสมคบกันมาปล้นทรัพย์แล้วมีการตายเกิดขึ้น เมื่อโจทก์นำสืบฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นคนยิงพวกเจ้าทรัพย์ตายหรือจำเลยได้สมคบกับคนร้ายในการปล้นรายนี้ฆ่าพวกของเจ้าทรัพย์หลังจากทำการปล้นทรัพย์แล้ว และระหว่างที่พาเอาทรัพย์หนีไปความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(7)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692-1693/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการพิสูจน์สถานะบริวาร: ศาลมีอำนาจเรียกสอบถามบริวารจำเลยเพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษา แม้ไม่ส่งสำเนาคำร้อง
ในกรณีที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้หมายเรียกบริวารจำเลยมาสอบถามเพื่อให้ปฏิบัติตามคำพิพากษานั้น. ไม่จำต้องส่งสำเนาคำร้องของโจทก์ให้แก่ผู้ถูกเรียก.
เมื่อผู้ร้องแถลงรับในรายงานกระบวนพิจารณาว่าตนเป็นบริวารของจำเลยเช่นนี้. ต่อมาผู้ร้องจะมายื่นคำร้องกลับคำว่าตนมิใช่บริวารจำเลยหาได้ไม่.
การที่ผู้ร้องไม่ยอมลงลายมือชื่อ.ในรายงานกระบวนพิจารณาหาทำให้รายงานกระบวนพิจารณานั้นเสียไปไม่. ในเมื่อศาลได้จดแจ้งเหตุที่ไม่มีลายมือชื่อผู้ร้องไว้ในรายงานนั้นแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692-1693/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจบังคับคดีต่อบริวารจำเลย – การยอมรับสถานะบริวาร – รายงานกระบวนพิจารณา
ในกรณีที่โจทก์ยื่นร้องต่อศาลขอให้หมายเรียกบริวารจำเลยมาสอบถามเพื่อให้ปฏิบัติตามคำพิพากษานั้น ไม่จำต้องส่งสำเนาคำร้องของโจทก์ให้แก่ผู้ถูกเรียก
เมื่อผู้ร้องแถลงรับในรายงานกระบวนพิจารณาว่าตนเป็นบริวารของจำเลยเช่นนี้ ต่อมาผู้ร้องจะมายื่นคำร้องกลับคำว่าตนมิใช่บริวารจำเลยหาได้ไม่
การที่ผู้ร้องไม่ยอมลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณา หาทำให้รายงานกระบวนพิจารณานั้นเสียไปไม่ ในเมื่อศาลได้จดแจ้งเหตุที่ไม่มีลายมือชื่อผู้ร้องไว้ในรายงานนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1692-1693/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจบังคับคดีต่อบริวารจำเลย: ไม่ต้องส่งสำเนาคำร้อง, รายงานกระบวนพิจารณาที่ไม่มีลายมือชื่อใช้ได้, ผู้ร้องยอมรับสถานะ
ในกรณีที่โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลขอให้หมายเรียกบริวารจำเลยมาสอบถามเพื่อให้ปฏิบัติตามคำพิพากษานั้น ไม่จำต้องส่งสำเนาคำร้องของโจทก์ให้แก่ผู้ถูกเรียก
เมื่อผู้ร้องแถลงรับในรายงานกระบวนพิจารณาว่าตนเป็นบริวารของจำเลยเช่นนี้ ต่อมาผู้ร้องจะมายื่นคำร้องกลับคำว่าตนมิใช่บริวารจำเลยหาได้ไม่
การที่ผู้ร้องไม่ยอมลงลายมือชื่อ ในรายงานกระบวนพิจารณาหาทำให้รายงานกระบวนพิจารณานั้นเสียไปไม่ ในเมื่อศาลได้จดแจ้งเหตุที่ไม่มีลายมือชื่อผู้ร้องไว้ในรายงานนั้นแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางเดินในที่ดินเดิมของเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกัน และสิทธิเรียกร้องทางเดินจากที่ดินแบ่งแยก
เมื่อก่อนแยกโฉนดที่ดินกัน ที่ดินโฉนดที่ 7371 ของจำเลยกับโฉนดที่ 7372 ของโจทก์ และที่ดินโฉนดอื่นๆ รวมอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 3604 ซึ่งเดิมเป็นของโจทก์กับบุคคลอื่น. ดังนั้น แม้โจทก์จะได้เดินในที่ดินซึ่งภายหลังออกเป็นโฉนดที่ 7371 มานานเท่าใด. ก็เป็นการใช้สิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ มิใช่เป็นการใช้โดยปรปักษ์อันจะทำให้เกิดภารจำยอมโดยอายุความ.
ที่ของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมโดยรอบ มีความจำเป็นจะต้องมีทางออกสู่ทางสาธารณะ. แต่ที่โจทก์เป็นที่ที่แบ่งแยกออกมาจากที่ดินโฉนดที่ 3604. โจทก์มีสิทธิจะเรียกร้องเอาทางเดินจากที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกได้ จะเอาทางเดินจากที่ดินแปลงอื่นหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความต้องเกิดจากการใช้สิทธิโดยปรปักษ์หลังการแบ่งแยกที่ดิน การเรียกร้องทางเดินต้องเป็นที่ดินเดิมที่แบ่งแยก
เมื่อก่อนแยกโฉนดที่ดินกัน ที่ดินโฉนดที่ 7371 ของจำเลยกับโฉนดที่ 7372 ของโจทก์ และที่ดินโฉนดอื่น ๆ รวมอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 3604 ซึ่งเดิมเป็นของโจทก์กับบุคคลอื่น ดังนั้น แม้โจทก์จะได้เดินในที่ดินซึ่งภายหลังออกเป็นโฉนดที่ 7371 มานานเท่าใด ก็เป็นการใช้สิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ มิใช่เป็นการใช้โดยปรปักษ์อันจะทำให้เกิดภารจำยอมโดยอายุความ
ที่ของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมโดยรอบ มีความจำเป็นจะต้องมีทางออกสู่ทางสาธารณะ แต่ที่โจทก์เป็นที่ที่แบ่งแยกออกมาจากที่ดินโฉนดที่ 3604 โจทก์มีสิทธิจะเรียกร้องเอาทางเดินจากที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยก จะเอาทางเดินจากที่ดินแปลงอื่นหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1682/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การใช้สิทธิเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ใช่การใช้โดยปรปักษ์, สิทธิทางผ่านในที่ดินแบ่งแยก
เมื่อก่อนแยกโฉนดที่ดินกัน ที่ดินโฉนดที่ 7371 ของจำเลยกับโฉนดที่ 7372 ของโจทก์ และที่ดินโฉนดอื่นๆ รวมอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 3604 ซึ่งเดิมเป็นของโจทก์กับบุคคลอื่น ดังนั้น แม้โจทก์จะได้เดินในที่ดินซึ่งภายหลังออกเป็นโฉนดที่ 7371 มานานเท่าใด ก็เป็นการใช้สิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ มิใช่เป็นการใช้โดยปรปักษ์อันจะทำให้เกิดภารจำยอมโดยอายุความ
ที่ของโจทก์ตกอยู่ในที่ล้อมโดยรอบ มีความจำเป็นจะต้องมีทางออกสู่ทางสาธารณะ แต่ที่โจทก์เป็นที่ที่แบ่งแยกออกมาจากที่ดินโฉนดที่ 3604 โจทก์มีสิทธิจะเรียกร้องเอาทางเดินจากที่ดินแปลงที่ได้แบ่งแยกได้ จะเอาทางเดินจากที่ดินแปลงอื่นหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1672/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การคัดค้านคำตัดสินชี้ขาด: คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องแสดงเหตุคัดค้านชัดเจน แม้เป็นเหตุที่ยังไม่ได้ต่อสู้คดี
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยซึ่งมีข้อความว่า ที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยค้างชำระค่าจ้างรับเหมาก่อสร้าง 2 งวด กับค่าก่อสร้างเพิ่มเติมนั้น ไม่เป็นความจริง หากจำเลยได้เข้ามาสู้คดีกับโจทก์ จำเลยมีทางชนะคดีโจทก์ได้แน่นอน แล้วต่อจากนั้นจำเลยก็ได้บรรยายมาในคำขอโดยละเอียดถึงสาเหตุที่จำเลยไม่จ่ายเงินค่าจ้างรับเหมา และค่าก่อสร้างเพิ่มเติมดังกล่าวเช่นนี้ ถือได้ว่า จำเลยได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลโดยชัดแจ้งแล้ว
of 35