พบผลลัพธ์ทั้งหมด 349 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1268/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน: อุทธรณ์ต้องห้ามเมื่อศาลอุทธรณ์ข้อเท็จจริงจากคำเบิกความ
อุทธรณ์อ้างเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นข้อสำคัญแห่งคดีขัดแย้งและฝ่าฝืนต่อคำพยานหลักฐานในท้องสำนวน เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นมิได้วินิจฉัยพยานหลักฐานนอกไปจากที่ปรากฏในสำนวน หรือยกเอาเรื่องนอกสำนวนขึ้นวินิจฉัย หากแต่ศาลชั้นต้นยกเอาถ้อยคำของพยานโจทก์เหล่านั้นขึ้นมาประกอบเป็นข้อวินิจฉัยว่า คำเบิกความของพยานโจทก์ดังกล่าวแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความจริงตามฟ้องของโจทก์ ดังนี้ อุทธรณ์ของโจทก์ย่อมเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในการไม่รับทนายศาลและการดำเนินการพิจารณาคดีต่อไปได้
วันรับฟ้อง ศาลสอบถามคำให้การจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธศาลสอบถามจำเลยถึงเรื่องทนายด้วย จำเลยแถลงว่าจะหาทนายสู้คดีเองการที่จำเลยแถลงเช่นนี้เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดว่า จำเลยไม่ต้องการให้ศาลตั้งทนายให้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 นั้น เป็นเรื่องที่จำเลยไม่มีทนายและจำเลยไม่ต้องการให้ศาลตั้งทนายให้ เช่นนี้ก็ไม่ใช่หน้าที่ของศาลที่จะตั้งทนายให้จำเลย แม้ในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยในเวลาต่อมา จำเลยจะมิได้ตั้งทนายก็ตาม ศาลย่อมดำเนินการพิจารณาต่อไปได้ถือว่าการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นเป็นการชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิจำเลยในการเลือกทนาย และหน้าที่ศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173
วันรับฟ้อง ศาลสอบถามคำให้การจำเลย จำเลยให้การปฏิเสธศาลสอบถามจำเลยถึงเรื่องทนายด้วย จำเลยแถลงว่าจะหาทนายสู้คดีเองการที่จำเลยแถลงเช่นนี้เป็นการแสดงโดยแจ้งชัดว่า จำเลยไม่ต้องการให้ศาลตั้งทนายให้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 173 นั้นเป็นเรื่องที่จำเลยไม่มีทนาย.และจำเลยไม่ต้องการให้ศาลตั้งทนายให้ เช่นนี้ก็ไม่ใช่หน้าที่ของศาลที่จะตั้งทนายให้จำเลย แม้ในวันนัดสืบพยานโจทก์จำเลยในเวลาต่อมา จำเลยจะมิได้ตั้งทนายก็ตาม ศาลย่อมดำเนินการพิจารณาต่อไปได้ถือว่าการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นเป็นการชอบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม - ตัวแทนตกลงโดยโจทก์ไม่ยินยอม ศาลไม่รับฟ้อง
โจทก์มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวของโจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และฟ้องแย้งอ้างว่าจำเลยกับ อ.ได้ตกลงกันไว้ว่าจำเลยยอมย้ายออกจากตึกพิพาทโดย อ. ต้องสร้างตึกขึ้นใหม่ให้จำเลยเช่า 15 ปี และจำเลยยอมจ่ายค่าก่อสร้างให้ อ. เป็นงวด ๆ ผิดนัดงวดใดให้ อ. ริบเงินที่ชำระแล้วได้ ถ้า อ. ไม่ก่อสร้างตามข้อตกลง อ. ยอมคืนเงินให้ ถ้าไม่คืน โจทก์ต้องรับผิดใช้คืนให้และให้จำเลยสร้างต่อจนเสร็จ ครั้นถึงกำหนดทำสัญญา อ. แจ้งว่าโจทก์ไม่ยอมรับรองตามที่ตกลงกันไว้ หากโจทก์มอบอำนาจแก่ อ. จริง อ. ย่อมเป็นตัวแทนโจทก์ ข้อตกลงนี้ย่อมผูกพันโจทก์ฟ้องแย้งเช่นนี้เท่ากับว่าถ้า อ. เป็นตัวแทนของโจทก์จริง ๆ แล้วจึงจะขอให้บังคับโจทก์ และแสดงอยู่ในตัวว่า อ. จะต้องไปเจรจากับโจทก์ให้ยอมรับรองข้อตกลงดังกล่าวอีกทีก่อน จึงไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและตัดสินชี้ขาดเข้าด้วยกันได้ ศาลย่อมไม่รับฟ้องแย้ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1236/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม สัญญาที่ตัวแทนทำไปไม่ผูกพันโจทก์หากโจทก์ไม่ยินยอม
โจทก์มอบอำนาจให้ อ. ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวของโจทก์จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และฟ้องแย้งอ้างว่าจำเลยกับ อ. ได้ตกลงกันไว้ว่าจำเลยยอมย้ายออกจากตึกพิพาท โดย อ. ต้องสร้างตึกขึ้นใหม่ ให้จำเลยเช่า 15 ปี และจำเลยยอมจ่ายค่าก่อสร้างให้ อ. เป็นงวด ๆ ผิดนัดงวดใดให้ อ. ริบเงินที่ชำระแล้วได้ ถ้า อ. ไม่ก่อสร้างตามข้อตกลง อ. ยอมคืนเงินให้ ถ้าไม่คืน โจทก์ต้องรับผิดใช้คืนให้และให้จำเลยสร้างต่อจนเสร็จ ครั้นถึงกำหนดทำสัญญา อ. แจ้งว่าโจทก์ไม่ยอมรับรองตามที่ตกลงกันไว้ หากโจทก์มอบอำนาจแก่ อ. จริง อ. ย่อมเป็นตัวแทนโจทก์ ข้อตกลงนี้ย่อมผูกพันโจทก์ฟ้องแย้งเช่นนี้เท่ากับว่าถ้า อ. เป็นตัวแทนของโจทก์จริง ๆ แล้วจึงจะขอให้บังคับโจทก์ และแสดงอยู่ในตัวว่า อ. จะต้องไปเจรจากับโจทก์ให้ยอมรับรองข้อตกลงดังกล่าวอีกทีก่อน จึงไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและตัดสินชี้ขาดเข้าด้วยกันได้ ศาลย่อมไม่รับฟ้องแย้ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาอุทธรณ์ แม้จะมอบเงินให้คนรับใช้แล้วก็ไม่ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่
เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นได้สั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยภายใน 15 วัน ซึ่งทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งแล้วมิได้จัดการตามคำสั่งแต่อย่างใด จนเกินเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้ ที่ทนายโจทก์อ้างว่าได้มอบเงินค่าส่งหมายให้คนรับใช้นำไปวางศาลแล้ว แต่คนรับใช้ยักยอกเอาเงินนั้นไป จะถือว่าโจทก์ได้จัดการตามหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้วหาได้ไม่ และถือได้ว่าโจทก์ได้ทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1232/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการส่งสำเนาอุทธรณ์ แม้จะมอบเงินให้คนอื่นดำเนินการ
เมื่อโจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นได้สั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยภายใน 15 วัน ซึ่งทนายโจทก์ได้ทราบคำสั่งแล้วมิได้จัดการตามคำสั่งแต่อย่างใด จนเกินเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้ ที่ทนายโจทก์อ้างว่าได้มอบเงินค่าส่งหมายให้คนรับใช้นำไปวางศาลแล้ว แต่คนรับใช้ยักยอกเอาเงินนั้นไป จะถือว่าโจทก์ได้จัดการตามหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้วหาได้ไม่ และถือได้ว่าโจทก์ได้ทิ้งฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความของผู้รับมรดก แม้กรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์รวม
ฟ้องโจทก์ตั้งประเด็นว่า น. ผู้ตายเคยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยกที่ดินให้โจทก์ แต่จำเลยที่ 1 กลับไปขอรับมรดกที่ดินรายนี้แล้วโอนให้จำเลยที่ 2 จำเลยให้การต่อสู้โดยมิได้ยกข้อต่อสู้ว่า สัญญาประนีประนอมที่ น. ทำไว้ใช้ไม่ได้ เพราะเจ้าของที่ดินโฉนดพิพาทมีคนอื่น นอกจาก น. เป็นเจ้าของด้วย การที่ศาลอุทธรณ์ยกข้อนี้ขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นเรื่องนอกประเด็นเพราะจำเลยเพิ่งยกขึ้นในตอนที่จำเลยอุทธรณ์
จำเลยเป็นผู้รับมรดกสืบสิทธิจาก น. ต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ น. ทำไว้กับโจทก์ด้วย โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยขอแบ่งแยกที่ดินให้ตามสัญญานั้น
จำเลยเป็นผู้รับมรดกสืบสิทธิจาก น. ต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ น. ทำไว้กับโจทก์ด้วย โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยขอแบ่งแยกที่ดินให้ตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความเมื่อมีการโอนมรดก: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าผู้รับมรดกผูกพันตามสัญญาเดิม
ฟ้องโจทก์ตั้งประเด็นว่า น. ผู้ตายเคยทำสัญญาประนีประนอมยอมความยกที่ดินให้โจทก์ แต่จำเลยที่ 1 กลับไปขอรับมรดกที่ดินรายนี้แล้วโอนให้จำเลยที่ 2 จำเลยให้การต่อสู้โดยมิได้ยกข้อต่อสู้ว่า สัญญาประนีประนอมที่ น. ทำไว้ใช้ไม่ได้ เพราะเจ้าของที่ดินโฉนดพิพาทมีคนอื่น นอกจาก น. เป็นเจ้าของด้วย การที่ศาลอุทธรณ์ยกข้อนี้ขึ้นวินิจฉัยจึงเป็นเรื่องนอกประเด็นเพราะจำเลยเพิ่งยกขึ้นในตอนที่จำเลยอุทธรณ์
จำเลยเป็นผู้รับมรดกสืบสิทธิจาก น. ต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ น. ทำไว้กับโจทก์ด้วย โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยขอแบ่งแยกที่ดินให้ตามสัญญานั้น
จำเลยเป็นผู้รับมรดกสืบสิทธิจาก น. ต้องผูกพันตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ น. ทำไว้กับโจทก์ด้วย โจทก์มีสิทธิฟ้องจำเลยขอแบ่งแยกที่ดินให้ตามสัญญานั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจถอนคำร้องทุกข์ของผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์: ความถูกต้องของคำสั่งศาล
ก่อนสืบพยานโจทก์ บิดาผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้เยาว์ ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์แทนผู้เสียหาย ศาลชั้นต้นสอบโจทก์โจทก์แถลงรับว่าผู้ร้องเป็นบิดาของผู้เสียหาย ทั้งเป็นผู้ร้องทุกข์คดีนี้ในชั้นสอบสวนจริง ศาลชั้นต้นจึงสั่งจำหน่ายคดี เช่นนี้โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาโต้แย้งว่า คำสั่งจำหน่ายคดีของศาลชั้นต้นไม่ชอบ เพราะผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ด้วยตัวเองโดยตรงด้วย บิดาผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์โดยลำพังนั้นหาได้ไม่ เพราะเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นใหม่
ผู้ร้องทุกข์ย่อมมีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหายเองหรือร้องทุกข์ในฐานะเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 126 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ผู้ร้องทุกข์ย่อมมีอำนาจถอนคำร้องทุกข์ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหายเองหรือร้องทุกข์ในฐานะเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 126 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา