คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ลออง จุลกะเศียน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 301 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องยักยอกทรัพย์ไม่ชัดเจน ขาดรายละเอียดทรัพย์สินที่ถูกยักยอก และโจทก์มีส่วนรับผิดชอบในการเสียภาษี
ฟ้องคดีอาญาที่มิได้บรรยายให้ได้ความชัดว่าจำเลยยักยอกเงินที่พวกโจทก์มอบให้จำเลยไปเสียภาษีเท่าใด คงกล่าวไว้มีใจความสำคัญแต่เพียงจำนวนเงินที่มอบให้จำเลยไป จำนวนที่ต้องเสียภาษีรายเดือน จำนวนเงินเหลือรายเดือน จำนวนที่เหลือนี้ได้ตกลงให้จำเลยเก็บรักษาไว้เสียภาษีปลายปี เมื่อโจทก์ถูกสรรพากรเรียกไปพบหาว่าเสียภาษีไม่ครบจึงทราบว่าจำเลยยักยอกเงินที่มอบไป โดยเสียภาษีไม่ครบเท่านั้นฟ้องของโจทก์จึงขาดข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับทรัพย์หรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับข้อหาว่าจำเลยเบียดบังยักยอกไปอันเป็นสารสำคัญฟ้องของโจทก์ จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158
โจทก์ได้เห็นและทราบรายการที่ได้กรอกไว้ในแบบ ภ.ค.4เพื่อชำระภาษีการค้าที่จำเลยนำมาให้โจทก์เซ็นชื่อเป็นผู้ยื่น โจทก์ได้เซ็นชื่อลงไป จึงต้องรับผิดชอบในความถูกต้องแท้จริงของข้อความตลอดจนจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษี เพราะเป็นการกระทำของโจทก์เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาความรุนแรงของการกระทำและบาดแผลเพื่อประเมินความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
การทำให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จะต้องพิจารณาถึงพฤติการณ์แห่งการกระทำของจำเลย และบาดแผลของผู้เสียหายประกอบกัน
ใช้มือชกต่อยและใช้เท้าเตะผู้เสียหาย มีบาดแผลที่หน้าผากข้างขวาถลอกโหนกแก้มขวาบวมเล็กน้อย รักษาประมาณ 5 วันหาย ไม่เป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จึงผิดเพียงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 391

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1069/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกาย: พฤติการณ์และบาดแผลเป็นตัวชี้วัดความรุนแรงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
การทำให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 จะต้องพิจารณาถึงพฤติการณ์แห่งการกระทำของจำเลยและบาดแผลของผู้เสียหายประกอบกัน
ใช้มือชกต่อยและใช้เท้าเตะผู้เสียหาย มีบาดแผลที่หน้าผากข้างขวาถลอกโหนกแก้มขวาบวมเล็กน้อย รักษาประมาณ 5 วันหาย ไม่เป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 จึงผิดเพียง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาถึงที่สุดยันบุคคลภายนอก การยึดทรัพย์ต้องพิสูจน์สิทธิเหนือกว่า
โจทก์นำยึดที่ดินของจำเลย แต่ปรากฏว่าที่ดินที่โจทก์นำยึดนี้น ศาลเคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดไว้แล้วในคดีเรื่องหนึ่งว่าเป็นของผู้ร้อง คำพิพากษานั้นย่อมใช้ยันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 (2) เว้นแต่โจทก์จะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่า โดยแสดงได้ว่ามีแปลงนั้นเป็นของจำเลย
เพียงแต่มีชื่อเป็นผู้แจ้งการครอบครองใน ส.ค.1 หาพอฟังว่าตนเป็นผู้ครอบครองที่ดินนั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำพิพากษาถึงที่สุดยันบุคคลภายนอกได้ การครอบครองตาม ส.ค.1 ไม่พอฟังว่าเป็นเจ้าของ
โจทก์นำยึดที่ดินของจำเลย แต่ปรากฏว่าที่ดินที่โจทก์นำยึดนั้นศาลเคยมีคำพิพากษาถึงที่สุดไว้แล้วในคดีเรื่องหนึ่งว่าเป็นของผู้ร้องคำพิพากษานั้นย่อมใช้ยันโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกคดีดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145(2) เว้นแต่โจทก์จะพิสูจน์ได้ว่าตนมีสิทธิดีกว่า โดยแสดงได้ว่าที่แปลงนั้นเป็นของจำเลย
เพียงแต่มีชื่อเป็นผู้แจ้งการครอบครองใน ส.ค.1 หาพอฟังว่าตนเป็นผู้ครอบครองที่ดินนั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 952/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คสำคัญกว่าการไม่มีเงิน: ปัญหาข้อเท็จจริงห้ามฎีกา
การที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น มิใช่ว่า ถ้าจำเลยออกเช็คแล้วไม่มีเงินใช้ตามเช็คจะเป็นความผิดอาญาเสมอไป จะต้องมีกรณีตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ คือ 1 ออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ฯลฯ เจตนาดังกล่าวนี้เป็นข้อเท็จจริงอันหนึ่งซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความผิด เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังแล้วว่าจำเลยไม่มีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค โจทก์ร่วมเถียงว่ามีเจตนาเช่นนั้น เป็นการเถียงข้อเท็จจริงว่ามีพฤติการณ์ที่กฎหมายกำหนดให้เป็นความผิดเกิดขึ้นหรือไม่จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง. (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 31/2509).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 952/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คสำคัญกว่าการไม่มีเงินจ่าย การฎีกาต้องเป็นประเด็นข้อเท็จจริง
การที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คนั้น มิใช่ว่าถ้าจำเลยออกเช็คแล้วไม่มีเงินใช้ตามเช็คจะเป็นความผิดอาญาเสมอไป จะต้องมีกรณีตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ คือ 1. ออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น ฯลฯ เจตนาดังกล่าวนี้เป็นข้อเท็จจริงอันหนึ่งซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความผิด เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังแล้วว่า จำเลยไม่มีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค โจทก์ร่วมเถียงว่ามีเจตนาเช่นนั้น เป็นการเถียงข้อเท็จจริงว่า มีพฤติการณ์ที่กฎหมายกำหนดให้เป็นความผิดเกิดขึ้นหรือไม่ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอรับชำระหนี้โดยอาศัยเช็คเป็นมูลหนี้ แม้ไม่ใช่หลักฐานกู้ยืม ก็มีสิทธิรับชำระหนี้ได้
คำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้อ้างว่าลูกหนี้เป็นหนี้อยู่ 20,000 บาท เป็นค่ายืมโดยจ่ายเช็คไว้ให้มีเช็คเป็นหลักฐานดังนี้แม้เช็คไม่เป็นหลักฐานที่จะใช้บังคับคดีในทางกู้ยืมเงิน แต่เช็คก็เป็นมูลหนี้ประการหนึ่ง ซึ่งคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าวเป็นคำขอรับชำระหนี้โดยอาศัยเช็คเป็นมูลหนี้รวมอยู่ด้วย ไม่ใช่เป็นแต่เพียงคำขอชำระหนี้ โดยอาศัยการกู้ยืมเป็นมูลหนี้อย่างเดียว เจ้าหนี้จึงมีสิทธิที่จะขอรับชำระหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำขอรับชำระหนี้โดยอาศัยเช็คเป็นมูลหนี้ แม้ไม่ใช่หลักฐานกู้ยืม แต่มีสิทธิรับชำระหนี้ได้
คำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้อ้างว่าลูกหนี้เป็นหนี้อยู่ 20,000 บาท เป็นค่ายืมโดยจ่ายเช็คไว้ให้มีเช็คเป็นหลักฐานดังนี้แม้เช็คไม่เป็นหลักฐานที่จะใช้บังคับคดีในทางกู้ยืมเงิน แต่เช็คก็เป็นมูลหนี้ประการหนึ่ง ซึ่งคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าวเป็นคำขอรับชำระหนี้โดยอาศัยเช็คเป็นมูลหนี้รวมอยู่ด้วย ไม่ใช่เป็นแต่เพียงคำขอชำระหนี้ โดยอาศัยการกู้ยืมเป็นมูลหนี้อย่างเดียว เจ้าหนี้จึงมีสิทธิที่จะขอรับชำระหนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 926/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเวลาในคำฟ้องไม่เป็นสาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ศาลลงโทษตามข้อเท็จจริงได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดฐานรับของโจร ในวันที่ 20 ตุลาคม 2508 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง แต่ทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2508 เวลา3 นาฬิกาเศษ วันเวลาตามที่ปรากฏในทางพิจารณาจึงแตกต่างกับวันเวลาดังที่กล่าวในฟ้อง ดังนี้ วันเวลาในคำฟ้องไม่เป็นสารสำคัญของคำฟ้องเป็นแต่รายละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาเท่านั้น เมื่อจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความดังกล่าวได้ (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2510)
of 31