คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.อ. (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2499 ม. 13

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2013/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วันเกิดเหตุในฟ้องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ไต่สวน ถือเป็นการแตกต่างในสาระสำคัญ ทำให้ต้องยกฟ้อง
โจทก์กล่าวในฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 22 ก.ค. 2499 แต่ตามทางไต่สวนได้ความว่าจำเลยกระทำผิด ในวันที่ 22 ก.ย. 2499 เป็นการผิดเดือนไปเมื่อการแตกต่างดังกล่าว ถือว่า เป็นการแตกต่าง ในข้อสาระสำคัญ ซึ่งเท่ากับว่าจำเลยไม่ได้กระทำ ผิดตามวันที่โจทก์ฟ้อง ต้องยกฟ้อง ไม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้หรือไม่ต่อไป
ฉะนั้นแม้คดีนี้จะเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องก็ดี เมื่อชั้นพิจารณายังต้องยกฟ้องเช่นนี้ คดีนี้ก็ต้องยกฟ้องเช่นเดียวกัน .
( ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์หลังการฆ่า: เจตนาเอาทรัพย์ของผู้ตายถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายเพื่อเอาทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 250 แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยฆ่าผู้ตายจนถึงแก่ความตายแล้ว จำเลยจึงเกิดโลภเจตนาเอาทรัพย์ของผู้ตายในภายหลัง เช่นนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความในการพิจารณาไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่ได้กล่าวในฟ้อง ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 288 ได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2501)
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องลักทรัพย์และขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 15,400 บาท เจ้าพนักงานจับจำเลยและได้เงิน 900 บาทเป็นของกลาง แต่ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่าจำเลยเอาเงินสดจากเจ้าทรัพย์ไป 500 บาท จึงควรหักเงินสดของกลางคืนให้เจ้าทรัพย์ 500 บาทเท่าที่ได้ความว่าจำเลยเอาไป เหลือนอกนั้นคืนให้จำเลย ต่อจากนั้นเป็นเรื่องของโจทก์ที่จะดำเนินการบังคับคดีต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1626/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากฆ่าเพื่อชิงทรัพย์เป็นลักทรัพย์หลังเกิดเหตุ และการคืนเงินของกลาง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยฆ่าผู้ตายเพื่อเอาทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.250 แต่ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยฆ่าผู้ตายจนถึงแก่ความตายแล้ว จำเลยจึงเกิดโลภเจตนาเอาทรัพย์ของผู้ตายในภายหลังเช่นนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความในการพิจารณาไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงที่ได้กล่าวในฟ้องลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม.288 ได้.
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2501)
โจทก์ฟ้องจำเลยเรื่องลักทรัพย์และขอให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 15,400 บาท เจ้าพนักงานจับจำเลยและได้เงิน 900 บาทเป็นของกลาง แต่ข้อเท็จจริงฟังได้เพียงว่าจำเลยเอาเงินสดจากเจ้าทรัพย์ไป 500 บาท จึงควรหักเงินสดของกลางคืนให้เจ้าทรัพย์ 500 บาทเท่าที่ได้ความว่าจำเลยเอาไป เหลือนอกนั้นคืนให้จำเลย ต่อจากนั้นเป็นเรื่องของโจทก์ที่จะดำเนินการบังคับคดีต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1576/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความแตกต่างของตำบลที่เกิดเหตุในคำฟ้อง ไม่เป็นเหตุให้ศาลยกฟ้อง หากจำเลยไม่หลงต่อสู้
ฟ้องโจทก์ว่าเหตุเกิดที่ตำบลบ้านบาตรอำเภอป้อมปราบ แต่ความจริงเหตุเกิดที่ตำบลป้อมปราบอำเภอป้อมปราบ แต่ในการนำสืบก็รับกันอยู่แล้วว่าจำเลยถูกจับในบ้านที่เกิดเหตุนั้นจริง และอยู่ในอำเภอป้อมปราบนั้นเอง ข้อแตกต่างนั้นจึงมิใช่ในข้อสาระสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1482/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยนอกคำขอของโจทก์ในคดีสุรากลั่นผิดกฎหมาย ศาลต้องพิจารณาเฉพาะสุราที่มีอยู่ในไห
ได้ความว่าน้ำสุราในไหของกลางที่จับได้จากจำเลยได้หกออกจากไหไปหมดแล้ว ส่วนที่อยู่ในไหของกลางที่โจทก์นำมาฟ้องมิใช่น้ำสุราที่จับได้จากจำเลยเป็นน้ำสุราที่นำมาใส่ไว้ในไหภายหลัง โดยจะเป็นของใครไม่ปรากฏ เมื่อโจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยมีน้ำสุราที่มีอยู่ในไหโดยมิได้ประสงค์ฟ้องน้ำสุราที่หกออกจากไหไปหมดแล้ว เมื่อศาลฟังว่าน้ำสุราในไหมิใช่เป็นของจำเลยก็ต้องยกฟ้องโจทก์ เพราะจะลงโทษจำเลยฐานมีน้ำสุราที่หกออกจากไหไปหมดแล้วซึ่งอยู่นอกข่ายคำขอของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1482/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยนอกเหนือจากคำขอในฟ้อง: หลักการและขอบเขต
ได้ความว่าน้ำสุราในไหของกลางที่จับได้จากจำเลยได้หกออกจากไหไปหมดแล้ว ส่วนที่อยู่ในไหของกลางที่โจทก์นำมาฟ้องมิใช่น้ำสุราที่จับได้จากจำเลยเป็นน้ำสุราที่นำมาใส่ไว้ในไหภายหลังโดยจะเป็นของใครไม่ปรากฏเมื่อโจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยมีน้ำสุราที่มีอยู่ในไหโดยมิได้ประสงค์ฟ้องน้ำสุราที่หกออกจากไหไปหมดแล้ว เมื่อศาลฟังว่าน้ำสุราในไหมิใช่เป็นของจำเลยก็ต้องยกฟ้องโจทก์ เพราะจะลงโทษจำเลยฐานมีน้ำสุราที่หกออกจากไหไปหมดแล้วซึ่งอยู่นอกข่ายคำขอของโจทก์ไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016-1027/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้พื้นที่สาธารณะ (สนามหลวง) เช่าจักรยานกีดขวางทางสัญจร ไม่ถือเป็นความผิดตามกฎหมายจราจร หากไม่เป็นถนนหนทาง
จำเลยใช้สนามหลวงเป็นที่ตั้งและวางรถจักรยานสองล้อให้คนเช่าขับขี่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่และเป็นการกีดขวางการไปมาเพราะสนามหลวงเป็นสถานที่ซึ่งสาธารณะชนใช้สัญจรไปมาแต่สถานที่ที่กล่าวหากันเป็นเพียงสนามส่วนหนึ่งทั้งไม่ได้ความว่าที่ตรงนั้นเป็นถนนหนทาง จำเลยยังไม่มีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.336 (1),334(2) พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2477 ม.60,62,65

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1016-1027/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางสิ่งของกีดขวางการสัญจรในพื้นที่สาธารณะ: สนามหลวงไม่ใช่ถนน
จำเลยใช้สนามหลวงเป็นที่ตั้งและวางรถจักรยานสองล้อให้คนเช่าขับขี่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ และเป็นการกีดขวางการไปมาเพราะสนามหลวงเป็นสถานที่ซึ่งสาธารณะชนใช้สัญจรไปมา แต่สถานที่ที่กล่าวหากันเป็นเพียงสนามส่วนหนึ่งทั้งไม่ได้ความว่าที่ตรงนั้นเป็นถนนหนทาง จำเลยยังไม่มีความผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 336(1),334(2) พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา 60,62,65

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การส่งมอบทรัพย์โดยความเข้าใจผิด ไม่ถือเป็นลักทรัพย์ แต่เป็นฉ้อโกง
หัวผักกาดที่เจ้าทรัพย์มอบให้บุคคลอื่นครอบครอง บุคคลอื่นยินยอมให้จำเลยเอาไปได้โดยดี เพราะหลงเชื่อในถ้อยคำของจำเลยที่อ้างว่าเจ้าของให้มาเอาไปขาย และหลงเชื่อในอาการที่จำเลยเป็นคนมาติดต่อขอซื้อและจำเลยเป็นคนพูดจาฝากหัวผักกาดเหล่านั้นไว้ โดยผู้ครอบครองมิได้รู้ถึงความจริงว่าหัวผักกาดเหล่านั้นเป็นของผู้ใดกันแน่ กรณีเช่นนี้จะเป็นความผิดอาญาก็เป็นเรื่องฉ้อโกงหาใช่ฐานลักทรัพย์ไม่
ฟ้องว่าลักทรัพย์พิจารณาได้ความว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกงต้องยกฟ้องตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1004/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำที่เจ้าของมอบครองทรัพย์ให้ผู้อื่น แล้วผู้นั้นยินยอมให้จำเลยเอาไป โดยจำเลยอ้างว่าได้รับอนุญาตจากเจ้าของ ถือเป็นฉ้อโกง ไม่ใช่ลักทรัพย์
หัวผักกาดที่เจ้าทรัพย์มอบให้บุคคลอื่นครอบครอง บุคคลอื่นยินยอมให้จำเลยเอาไปได้โดยดี เพราะหลงเชื่อในถ้อยคำของจำเลยที่อ้างว่าเจ้าของให้มาเอาไปขายและหลงเชื่อในอาการที่จำเลยเป็นคนมาติดต่อขอซื้อและจำเลยเป็นคนพูดจาฝากหัวผักกาดเหล่านั้นไว้ โดยผู้ครอบครองมิได้รู้ถึงความจริงว่าหัวผักกาดเหล่านั้นเป็นของผู้ใดกันแน่กรณีเช่นนี้จะเป็นความผิดอาญาก็เป็นเรื่องฉ้อโกงหาใช่ฐานลักทรัพย์ไม่
ฟ้องว่าลักทรัพย์พิจารณาได้ความว่ากระทำผิดฐานฉ้อโกงต้องยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.192
of 4