พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.จ. บิดาต่างด้าว-วุฒิการศึกษา-แจ้งเท็จ-ความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งและประมวลกฎหมายอาญา
คำว่า"บิดา"ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ.2482มาตรา16ทวิ,19หมายถึงทั้งบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายและบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยรู้อยู่แล้วว่าบิดาของจำเลยเป็นคนสัญชาติจีนและรู้อยู่ว่าตนไม่จบชั้นมัธยมปีที่4ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดแต่กลับแจ้งความอันเป็นเท็จโดยกรอกข้อความในใบสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดว่าบิดาจำเลยเป็นคนสัญชาติไทยและจำเลยจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่4จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา137พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ.2482มาตรา64การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ.2482มาตรา64อันเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2539 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แจ้งเท็จคุณสมบัติสมัครสภาจังหวัด: บิดาและวุฒิการศึกษา
คำว่า "บิดา" ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ.2482 มาตรา 16 ทวิ, 19 หมายถึงทั้งบิดาที่ชอบด้วยกฎหมาย และบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าบิดาของจำเลยเป็นคนสัญชาติจีน และรู้อยู่ว่าตนไม่จบชั้นมัธยมปีที่ 4 ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัด แต่กลับแจ้งความอันเป็นเท็จ โดยกรอกข้อความในใบสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดว่า บิดาจำเลยเป็นคนสัญชาติไทย และจำเลยจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 4 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482 มาตรา 64 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ.2482 มาตรา 64 อันเป็นบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าบิดาของจำเลยเป็นคนสัญชาติจีน และรู้อยู่ว่าตนไม่จบชั้นมัธยมปีที่ 4 ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัด แต่กลับแจ้งความอันเป็นเท็จ โดยกรอกข้อความในใบสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดว่า บิดาจำเลยเป็นคนสัญชาติไทย และจำเลยจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 4 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482 มาตรา 64 การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ.2482 มาตรา 64 อันเป็นบทหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.จังหวัด: บิดาไม่ชอบด้วยกฎหมาย & วุฒิการศึกษา – การแจ้งเท็จมีผลทางอาญา
คำว่า "บิดา" ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ. 2482 มาตรา 19 และมาตรา 16 ทวิ หมายถึงทั้งบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายและบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยมีบิดาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคนสัญชาติจีนและจำเลยไม่จบชั้นมัธยมปีที่ 4 ไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัด แต่กลับแจ้งความอันเป็นเท็จ โดยกรอกข้อความในใบสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดว่า บิดาจำเลยเป็นคนสัญชาติไทยและจำเลยจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 4จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ. 2482มาตรา 64
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2266/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งข้ามกฎหมาย: สิทธิเลือกตั้งเป็นสิทธิทางการเมืองขั้นพื้นฐาน เมื่อถูกเพิกถอนแล้วมีผลในทุกกรณี
จำเลยถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเพราะกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2522 แล้วต้องถือว่าสิทธิเลือกตั้งของจำเลยต้องถูกเพิกถอนตามกฎหมายในทุกกรณีรวมทั้งสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดพ.ศ. 2482 ด้วย การที่จำเลยสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัดโดยระบุว่าจำเลยมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ. 2482 มาตรา 64 การเข้าใจว่ามีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช 2482 ไม่ใช่การสำคัญผิดในข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2266/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งขยายผลถึงการเลือกตั้งทุกประเภท จำเลยทราบดีว่าถูกเพิกถอนสิทธิแล้ว
จำเลยถูกศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเพราะกระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 แล้ว ต้องถือว่าสิทธิเลือกตั้งของจำเลยต้องถูกเพิกถอนตามกฎหมายในทุกกรณี รวมทั้งสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482ด้วย การที่จำเลยสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด โดยระบุว่าจำเลยมีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482 มาตรา 64
การเข้าใจว่ามีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช 2482 ไม่ใช่การสำคัญผิดในข้อเท็จจริง
การเข้าใจว่ามีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะไม่ได้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พุทธศักราช 2482 ไม่ใช่การสำคัญผิดในข้อเท็จจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2830/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการสมัครรับเลือกตั้ง: การลาออกจากตำแหน่งก่อนยื่นใบสมัครแสดงเจตนาที่ถูกต้อง
หนังสือลาออกของจำเลยระบุชัดเจนว่าขอลาออกจากตำแหน่งกำนันก่อนที่จะยื่นใบสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดดังนั้น แม้หนังสือลาออกของจำเลยจะไปถึงจังหวัดและจำเลยได้รับการอนุมัติให้ออกจากตำแหน่งหลังจากที่จำเลยยื่นใบสมัครแล้วก็ตาม ก็เป็นการปฏิบัติของทางราชการจำเลยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยการกระทำของจำเลยจึงเป็นการขาดเจตนาจำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2830/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาการกระทำผิดสำคัญกว่าลำดับเหตุการณ์ การลาออกก่อนสมัครย่อมไม่มีเจตนาทุจริต
หนังสือลาออกของจำเลยระบุชัดเจนว่าขอลาออกจากตำแหน่งกำนันก่อนที่จะยื่นใบสมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดดังนั้น แม้หนังสือลาออกของจำเลยจะไปถึงจังหวัดและจำเลยได้รับการอนุมัติให้ออกจากตำแหน่งหลังจากที่จำเลยยื่นใบสมัครแล้วก็ตาม ก็เป็นการปฏิบัติของทางราชการจำเลยมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยการกระทำของจำเลยจึงเป็นการขาดเจตนาจำเลยไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3177/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมัครรับเลือกตั้งโดยขาดคุณสมบัติเป็นเหตุให้มีความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง และการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามบทบัญญัติ
ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ที่ให้ลงโทษปรับจำเลย ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะขาดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากเป็นกรรมการสุขาภิบาลแต่บังอาจ ไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งจึงถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตั้งแต่วันที่จำเลยได้ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งนั้นแล้ว
การสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดแปดปี เป็นการสั่งไปตามบทกฎหมายที่กำหนดไว้เช่นนั้น ไม่อาจจะใช้ดุลพินิจลดลงได้
เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะขาดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากเป็นกรรมการสุขาภิบาลแต่บังอาจ ไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งจึงถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตั้งแต่วันที่จำเลยได้ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งนั้นแล้ว
การสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดแปดปี เป็นการสั่งไปตามบทกฎหมายที่กำหนดไว้เช่นนั้น ไม่อาจจะใช้ดุลพินิจลดลงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่ลูกจ้างรัฐ การสมัครรับเลือกตั้งส.ส.จ.ไม่ผิด
ผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่ลูกจ้างหรือคนงานของรัฐบาลตามความหมายของพระราชบัญญัติการเลือกตั้งของสมาชิกสภาจังหวัด
ผู้ใหญ่บ้านที่สมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482 มาตรา 21,64 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2498 มาตรา 9
ผู้ใหญ่บ้านที่สมัครเข้ารับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ.2482 มาตรา 21,64 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2498 มาตรา 9