พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน: การส่งเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของผู้อื่น และเจตนาในการฝ่าฝืน
เจ้าพนักงานได้ออกคำสั่งเรียกให้จำเลยทั้งสองร่วมกันส่งเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 นำหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นไปมอบให้แก่จำเลยที่ 2 ยึดถือไว้เมื่อตอนไปกู้ยืมเงินจากจำเลยที่ 2ซึ่งเป็นเวลาก่อนที่จะได้รับคำสั่งเรียกเอกสารจากเจ้าพนักงาน เอกสารดังกล่าวมิได้อยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จะคืนเอกสารนั้นให้ก็ต่อเมื่อจำเลยที่ 1 ชำระหนี้แล้ว ขณะได้รับหมายเรียก จำเลยที่ 1 ยังมิได้ชำระหนี้แก่จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 ก็ได้ไปพบเจ้าพนักงานชี้แจงให้ทราบถึงเหตุที่ไม่ส่งเอกสารว่า หากส่งให้แก่เจ้าพนักงานแล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 นำเงินมาชำระหนี้ตามสัญญากู้ก็จะไม่มีเอกสารคืนให้แก่จำเลยที่ 1 แสดงว่าจำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน การที่จำเลยทั้งสองไม่ส่งเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามคำสั่งเรียก จึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่ส่งเอกสารตามคำสั่งเจ้าพนักงานเนื่องจากเป็นประกันหนี้ ไม่ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง
เจ้าพนักงานได้ออกคำสั่งเรียกให้จำเลยทั้งสองร่วมกันส่งเอกสารหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 นำหนังสือรับรองการทำประโยชน์นั้นไปมอบให้แก่จำเลยที่ 2 ยึดถือไว้เมื่อตอนไปกู้ยืมเงินจากจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเวลาก่อนจะได้รับคำสั่งเรียกเอกสารจากเจ้าพนักงาน เอกสารดังกล่าวมิได้อยู่ในความครอบครองของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จะคืนเอกสารนั้นให้ก็ต่อเมื่อจำเลยที่ 1 ชำระหนี้แล้ว ขณะได้รับหมายเรียก จำเลยที่ 1 ยังมิได้ชำระหนี้แก่จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 2 ก็ได้ไปพบเจ้าพนักงานชี้แจงให้ทราบถึงเหตุที่ไม่ส่งเอกสารว่า หากส่งให้แก่เจ้าพนักงานแล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 นำเงินมาชำระหนี้ตามสัญญากู้ก็จะไม่มีเอกสารคืนให้แก่จำเลยที่ 1 แสดงว่าจำเลยทั้งสองไม่มีเจตนาฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงาน การที่จำเลยทั้งสองไม่ส่งเอกสารหนังสือรับรอบการทำประโยชน์ตามคำสั่งเรียก จึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3026/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาตามหนังสือแจ้งให้ส่งเอกสาร: เริ่มนับวันถัดจากวันที่ได้รับ และวันหยุดสุดสัปดาห์
จำเลยได้รับหนังสือของเจ้าพนักงานที่ดินเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมให้จำเลยส่งโฉนดที่ดินภายในกำหนด 15 วัน การนับระยะเวลา ในกรณีนี้ ต้องนับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ซึ่งห้ามมิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้นรวมคำนวณเข้าด้วย เว้นแต่จะเริ่มทำการในวันนั้นเองตั้งแต่เวลาอันเป็นกำหนดเริ่ม ทำการงานกันตามประเพณี เมื่อไม่มีประเพณีเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้กำหนด 15 วันจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมและครบกำหนดในวันที่ 23 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ จำเลยจึงยังมีสิทธิ นำส่งในวันที่ 24 ธันวาคม อันเป็นวันเริ่มทำงานใหม่ได้อีก ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนี้ จำเลย จึงมิได้กระทำผิดในวันที่ 23 ธันวาคม ดังที่โจทก์ฟ้องเพราะ ยังไม่ล่วงพ้นระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดให้จำเลยส่ง (อ้างฎีกาที่ 235/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3026/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนับระยะเวลาตามหนังสือแจ้งให้ส่งโฉนดที่ดิน: เริ่มนับวันถัดจากวันที่ได้รับหนังสือ และวันหยุดราชการ
จำเลยได้รับหนังสือของเจ้าพนักงานที่ดินเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมให้จำเลยส่งโฉนดที่ดินภายในกำหนด 15 วัน การนับระยะเวลา ในกรณีนี้ ต้องนับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 158 ซึ่งห้ามมิให้นับวันแรกแห่งระยะเวลานั้นรวมคำนวณเข้าด้วย เว้นแต่จะเริ่มทำการในวันนั้นเองตั้งแต่เวลาอันเป็นกำหนดเริ่มทำการงานกันตามประเพณี เมื่อไม่มีประเพณีเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้กำหนด 15 วันจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมและครบกำหนดในวันที่ 23 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ จำเลยจึงยังมีสิทธินำส่งในวันที่ 24 ธันวาคม อันเป็นวันเริ่มทำงานใหม่ได้อีกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา161 ดังนี้ จำเลยจึงมิได้กระทำผิดในวันที่ 23 ธันวาคม ดังที่โจทก์ฟ้อง เพราะยังไม่ล่วงพ้นระยะเวลาที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนดให้จำเลยส่ง (อ้างฎีกาที่ 235/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1841/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักเขตที่ลงโทษได้ตามกฎหมายที่ดิน ต้องเป็นหลักเขตที่เจ้าพนักงานที่ดินจัดทำเพื่อออกโฉนดเท่านั้น
การที่ผู้ใดเคลื่อนย้ายหลักเขตอันจะมีโทษตาม มาตรา 109ได้นั้นจะต้องเป็นหลักเขตซึ่งเจ้าพนักงานที่ดินได้จัดทำขึ้นเพื่อการออกโฉนดตาม มาตรา 65,66 เท่านั้น