พบผลลัพธ์ทั้งหมด 261 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1492/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมในทรัพย์สินที่ได้มาขณะอยู่กินเป็นสามีภริยา แม้ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
ทรัพย์พิพาทเป็นของร่วมกันระหว่างจำเลยกับผู้ร้อง แม้จำเลย กับผู้ร้องจะเป็นสามีภริยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ทรัพย์ที่ ทำมาหาได้ในระหว่างอยู่กินด้วยกัน ก็ต้องถือว่าคนทั้งสอง มีกรรมสิทธิ์ร่วมกัน ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้ถอนการยึดทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1474/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนการพิจารณาคดีขัดทรัพย์: เหตุจำเป็นและความสมเหตุสมผลในการสืบพยาน
คดีร้องขัดทรัพย์ ในวันนัดสืบพยานผู้ร้องนัดแรก ผู้ร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าตัวผู้ร้องซึ่งเป็นพยานด้วยไปราชการต่างจังหวัดกับทนายความคิดว่าความอีกศาลหนึ่งเมื่อได้ความว่าการกำหนดวันนัด ผู้ร้องและทนายความมิได้มาศาลตกลงกำหนดวันนัดด้วย ดังนี้นับได้ว่ามีความจำเป็นพอสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1474/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนการพิจารณาคดีขัดทรัพย์: เหตุผลความจำเป็นและประโยชน์แห่งความยุติธรรม
คดีร้องขัดทรัพย์ ในวันนัดสืบพยานผู้ร้องนัดแรก ผู้ร้องขอเลื่อนการพิจารณาโดยอ้างว่าตัวผู้ร้องซึ่งเป็นพยานด้วย ไปราชการต่างจังหวัดกับทนายความติดว่าความอีกศาลหนึ่ง เมื่อได้ความว่าการกำหนดวันนัด ผู้ร้องและทนายความมิได้มาศาลตกลงกำหนดวันนัดด้วย ดังนี้นับได้ว่ามีความจำเป็นพอสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าที่ดินเมื่อเจ้าของที่ดินใหม่เข้ามาทำประโยชน์ในที่ดินที่เช่า การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์
โจทก์เช่าที่ดินซึ่งมีบ่อเลี้ยงปลา แต่โจทก์ได้ปิดกั้นบ่อ ปลูกต้นไม้ล้มลุกและล้อมรั้วลวดหนามกั้นไว้ ต่อมาจำเลยซื้อที่ดินแปลงนั้น แต่โจทก์ยังคงครอบครองในฐานะเป็นผู้เช่า แล้วจำเลยไปวิดบ่อปลา ตัดต้นไม้ล้มลุกและรื้อลวดหนามเหล่านั้น จำเลยย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์
ผู้เช่าที่ดินได้ปลูกต้นไม้ล้มลุกไว้ เมื่อออกจากที่ดินไป ผู้เช่าที่ดินมีสิทธิเอาไม้ล้มลุกไปได้
ผู้เช่าที่ดินได้ปลูกต้นไม้ล้มลุกไว้ เมื่อออกจากที่ดินไป ผู้เช่าที่ดินมีสิทธิเอาไม้ล้มลุกไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้เช่าที่ดินในการครอบครองพืชผลและทรัพย์สินในที่เช่า แม้มีการซื้อขายที่ดิน
โจทก์เช่าที่ดินซึ่งมีบ่อเลี้ยงปลา แต่โจทก์ได้ปิดกั้นบ่อ ปลูกต้นไม้ล้มลุกและล้อมรั้วลวดหนามไว้ ต่อมาจำเลยซื้อที่ดินแปลงนั้น แต่โจทก์ยังคงครอบครองในฐานะเป็นผู้เช่า แล้วจำเลยไปวิดปลาในบ่อ ตัดต้นไม้ล้มลุกและรื้อลวดหนามเหล่านั้น จำเลยย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์
ผู้เช่าที่ดินได้ปลูกต้นไม้ล้มลุกไว้ เมื่อออกจากที่ดินไป ผู้เช่าที่ดินมีสิทธิเอาไม้ล้มลุกไปได้
ผู้เช่าที่ดินได้ปลูกต้นไม้ล้มลุกไว้ เมื่อออกจากที่ดินไป ผู้เช่าที่ดินมีสิทธิเอาไม้ล้มลุกไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1439/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงต่อสู้และการสมคบร่วมกันฆ่า: การพิสูจน์เจตนาและขอบเขตความรับผิด
ขณะที่ผู้ตายต่อยกับน้องภรรยาจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ได้ยิงไปก่อน 1 นัด ถูกผู้ตาย แล้วต่อมาจำเลยที่ 1 จึงได้ยิงไป ตามพฤติการณ์ดังกล่าวที่จำเลยทั้งสองยิงไปนั้นเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในทันทีทันใด โดยต่างคนต่างกระทำลงไป มิได้สมคบร่วมรู้กันมาก่อน จะฟังว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ฆ่าผู้ตายไม่ได้ ผู้ตายมีบาดแผลถูกยิงแผลเดียว และฟังได้ว่าแผลที่ถูกยิงนั้นเป็นผลแห่งการกระทำของจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียวฉนั้น จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้ตาย
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ตายกับพวกหลายนัดนั้น ส่อเจตนาให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจฆ่า แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกที่ไม่สำคัญ จึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ตายกับพวกหลายนัดนั้น ส่อเจตนาให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจฆ่า แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกที่ไม่สำคัญ จึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1439/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่า: การสมคบคิด การกระทำโดยพลการ และเจตนา
ขณะที่ผู้ตายต่อยกับน้องภริยาจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ได้ยิงไปก่อน1 นัด ถูกผู้ตาย แล้วต่อมาจำเลยที่ 1 จึงได้ยิงไป ตามพฤติการณ์ดังกล่าวที่จำเลยทั้งสองยิงไปนั้นเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นในทันทีทันใดนั้น โดยต่างคนต่างกระทำลงไป มิได้สมคบร่วมรู้กันมาก่อน จะฟังว่าจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ฆ่าผู้ตายไม่ ได้ ผู้ตายมีบาดแผลถูกยิงแผลเดียว และฟังได้ว่าแผลที่ถูกยิงนั้นเป็นผลแห่งการกระทำของจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ฉะนั้น จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดฐานฆ่าผู้ตาย
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ตายกับพวกหลายนัดนั้น ส่อเจตนาให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจฆ่า แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกที่ไม่สำคัญ จึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงไปยังผู้ตายกับพวกหลายนัดนั้น ส่อเจตนาให้เห็นว่าจำเลยตั้งใจฆ่า แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกที่ไม่สำคัญ จึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยต้องมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีพิพาทที่ดินสาธารณสมบัติ การฟ้องแย้งขับไล่ไม่ใช่คดีกรรมสิทธิ์
จำเลยฟ้องแย้งในฐานะนายอำเภอและประธานสุขาธิบาล ขอให้ขับไล่โจทก์และบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากทีพิพาท ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย มิใช่เป็นคดีที่พิพาทโต้แย้งด้วยกรรมสิทธิ์ที่พิพาท จึงเสียค่าขึ้นศาลอย่างมีคดีที่มีคำให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลฟ้องแย้งกรณีที่ดินสาธารณสมบัติ - มิใช่คดีกรรมสิทธิ์
จำเลยฟ้องแย้งในฐานะนายอำเภอและประธานสุขาภิบาล ขอให้ขับไล่โจทก์และบริวาร รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากที่พิพาท ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอันอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลยมิใช่เป็นคดีที่พิพาทโต้แย้งด้วยกรรมสิทธิ์ที่พิพาท จึงเสียค่าขึ้นศาลอย่างคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะผู้เช่า-บริวารหลังหย่า: สิทธิในสัญญาเช่าเดิมเป็นของผู้เช่าเดิม แม้มีการตกลงระหว่างคู่หย่า
ภริยาอยู่ในห้องพิพาทกับสามีซึ่งเป็นผู้ทำสัญญาเช่าจากผู้ให้เช่า ต่อมาได้หย่าขาดกัน สามีแยกไปอยู่ที่อื่น โดยยอมยกห้องพิพาทให้เป็นสิทธิแก่ภริยา แต่ผู้ให้เช่าไม่ได้รู้เห็นตกลงด้วย การที่ภริยาคงอยู่ในห้องเช่าต่อมาจนครบสัญญาเช่า ถือว่าเป็นการอยู่ในฐานะบริวารของผู้เช่า
อยู่ในห้องเช่าในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ไม่ใช่ในฐานะผู้เช่า ผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวเลิกการเช่าก่อน
อยู่ในห้องเช่าในฐานะเป็นบริวารของผู้เช่า ไม่ใช่ในฐานะผู้เช่า ผู้ให้เช่าไม่จำต้องบอกกล่าวเลิกการเช่าก่อน