พบผลลัพธ์ทั้งหมด 261 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเบิกความเท็จที่ไม่เป็นสาระสำคัญในคดีแพ่ง ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
คู่ความพิพาทกันในเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดิน โจทก์อ้างว่าผู้ตายได้ยกที่พิพาทให้และโจทก์ได้ครอบครองตลอดมา จำเลยต่อสู้ว่าเป็นทายาทและได้รับมรดก แต่ได้ให้โจทก์ดูแลแทน คู่ความรับกันว่าผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ จำเลยเบิกความเป็นพยานในคดีนั้นว่าได้ไปที่บ้านผู้ตายเพื่อทำพินัยกรรม แต่ผู้ตายไม่รู้สึกตัวจึงไม่ได้ทำพินัยกรรม ข้อความที่จำเลยเบิกความนี้ ไม่ใช่ประเด็นแห่งคดี จึงไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี แม้จะเป็นความเท็จ ก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขสลากการกุศลเพื่อหวังรางวัล ถือเป็นเอกสารปลอมตามกฎหมายอาญา
จำเลยนำเอาสลากการกุศลที่มีการขูดลบแก้ตัวเลขไปขอรับรางวัลโดยรู้ว่าเป็นสลากปลอมจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268, 265
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1104/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สลากปลอมขอรับรางวัล แสดงเจตนาทุจริต แม้ครอบครองสลากก่อนออกรางวัล
จำเลยนำเอาสลากการกุศลที่มีการขูดลบแก้ตัวเลขไปขอรับรางวัลโดยรู้ว่าเป็นสลากปลอมจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268,265
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ และการลดโทษโดยคำนึงถึงการให้การเท็จต่อศาล
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้รอการลงโทษ เป็นการแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ผู้ตายเมาสุราแล้วเข้ากอดปล้ำภรรยาจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีแทงผู้ตายไปหลายที จนกระทั้งผู้ตายขาดใจตาย การที่ผู้ตายชกต่อยจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายจนถึงตาย เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
เมื่อจำเลยได้ฆ่าผู้ตายแล้ว จำเลยได้มอบตัวแก่เจ้าพนักงาน แต่จำเลยไม่ได้ให้ความสัจความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่ทางพิจารณาต่อศาลอย่างตรงไปตรงมา จำเลยยังเบี่ยงบ่ายต่อสู้คดีอ้างป้องกันอันเป็นเหตุที่จะไม่ต้องรับผิด จำเลยจึงไม่ควรได้รับการลดให้มากถึงกึ่งหนึ่งอันเป็นการลดโทษจนเต็มที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 พิพากษาแก้ให้ลดโทษให้จำเลยเพียง 1 ใน 3
ผู้ตายเมาสุราแล้วเข้ากอดปล้ำภรรยาจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีแทงผู้ตายไปหลายที จนกระทั้งผู้ตายขาดใจตาย การที่ผู้ตายชกต่อยจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายจนถึงตาย เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
เมื่อจำเลยได้ฆ่าผู้ตายแล้ว จำเลยได้มอบตัวแก่เจ้าพนักงาน แต่จำเลยไม่ได้ให้ความสัจความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่ทางพิจารณาต่อศาลอย่างตรงไปตรงมา จำเลยยังเบี่ยงบ่ายต่อสู้คดีอ้างป้องกันอันเป็นเหตุที่จะไม่ต้องรับผิด จำเลยจึงไม่ควรได้รับการลดให้มากถึงกึ่งหนึ่งอันเป็นการลดโทษจนเต็มที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 พิพากษาแก้ให้ลดโทษให้จำเลยเพียง 1 ใน 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1103/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันเกินสมควรแก่เหตุและการลดโทษในคดีทำร้ายถึงแก่ความตาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้รอการลงโทษ เป็นการแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา218
ผู้ตายเมาสุราแล้วเข้ากอดปล้ำภรรยาจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตายไปหลายที จนกระทั่งผู้ตายขาดใจตาย การที่ผู้ตายชกต่อยจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายจนถึงตาย เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
เมื่อจำเลยได้ฆ่าผู้ตายแล้ว จำเลยได้เข้ามอบตัวแก่เจ้าพนักงานแต่จำเลยไม่ได้ให้ความสัจความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่ทางพิจารณาต่อศาลอย่างตรงไปตรงมา จำเลยยังเบี่ยงบ่ายต่อสู้คดีอ้างป้องกันอันเป็นเหตุที่จะไม่ต้องรับผิด จำเลยจึงไม่ควรได้รับการลดให้มากถึงกึ่งหนึ่ง อันเป็นการลดโทษจนเต็มที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 พิพากษาแก้ให้ลดโทษให้จำเลยเพียง 1 ใน 3
ผู้ตายเมาสุราแล้วเข้ากอดปล้ำภรรยาจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดแทงผู้ตายไปหลายที จนกระทั่งผู้ตายขาดใจตาย การที่ผู้ตายชกต่อยจำเลยโดยไม่มีอาวุธแต่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายจนถึงตาย เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
เมื่อจำเลยได้ฆ่าผู้ตายแล้ว จำเลยได้เข้ามอบตัวแก่เจ้าพนักงานแต่จำเลยไม่ได้ให้ความสัจความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่ทางพิจารณาต่อศาลอย่างตรงไปตรงมา จำเลยยังเบี่ยงบ่ายต่อสู้คดีอ้างป้องกันอันเป็นเหตุที่จะไม่ต้องรับผิด จำเลยจึงไม่ควรได้รับการลดให้มากถึงกึ่งหนึ่ง อันเป็นการลดโทษจนเต็มที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 พิพากษาแก้ให้ลดโทษให้จำเลยเพียง 1 ใน 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1096-1097/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินงอกและเรือนติดต่อกันเป็นส่วนควบ การบังคับจำนองครอบคลุม
เรือน 3 หลังปลูกติดต่อเป็นหลังเดียวกัน ทำรั้วบ้านด้านข้างติดต่อรั้วเดียวกันมีนอกชานด้านหน้าซึ่งทำประตูเข้าไว้ตรงนอกชาน ทั้งปรากฏว่าเจ้าของได้อยู่อาศัยอย่างเป็นบ้านเดียวกันมาหลายสิบปี และส่วนของสิ่งปลูกสร้างของเรือนหลังหนึ่งล้ำเข้าไปอยู่ในเรือนของอีกหลังหนึ่ง ตัวเรือนมีชายคาติดต่อต้องใช้รางน้ำร่วมกัน แม้เรือนทั้ง 3 หลังจะปลูกต่างปีกัน ก็ฟังได้ว่าเรือนทั้ง 3 หลังนั้นเป็นส่วนควบซึ่งกันและกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1096-1097/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินงอกและเรือนปลูกติดกันเป็นส่วนควบ: การบังคับจำนอง
เรือน 3 หลังปลูกติดต่อเป็นหลังเดียวกัน ทำรั้วบ้านด้านข้างติดต่อรั้วเดียวกันมีนอกชานด้านหน้าซึ่งทำประตูเข้าไว้ตรงนอกชานทั้งปรากฏว่าเจ้าของได้อยู่อาศัยอย่างเป็นบ้านเดียวกันมาหลายสิบปีและส่วนของสิ่งปลูกสร้างของเรือนหลังหนึ่งล้ำเข้าไปอยู่ในเรือนของอีกหลังหนึ่ง ตัวเรือนมีชายคาติดต่อต้องใช้รางน้ำร่วมกัน แม้เรือนทั้ง 3 หลังจะปลูกต่างปีกัน ก็ฟังได้ว่าเรือนทั้ง 3 หลังนั้นเป็นส่วนควบซึ่งกันและกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ซ้ำ: เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา vs. เจ้าพนักงานบังคับคดีตามกฎหมายภาษีอากร
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ที่ห้ามมิให้ยึดซ้ำนั้น จะต้องเป็นการยึดทรัพย์ซ้ำกันในระหว่างเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาด้วยกันในทรัพย์รายเดียวกันของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ส่วนการที่เจ้าพนักงานตามประมวลรัษฎากรยึดไว้ก่อนอันเป็นการยึดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 นั้น ไม่ใช่เป็นการยึดของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงทำการยึดได้ไม่เป็นการยึดซ้ำ และการที่เจ้าพนักงานตามประมวลรัษฎากรทำการยึดก็ไม่ทำให้ทรัพย์ที่ยึดกลายเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน เพราะกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ยึดยังเป็นของจำเลยจนกว่าจะได้ขายทอดตลาดไป ประมวลรัษฎากรมาตรา 12 เป็นแต่เพียงให้อำนาจพิเศษแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอที่จะยึดทรัพย์สินของผู้ค้างชำระภาษีอากรเพื่อขายทอดตลาดได้โดยไม่ต้องฟ้องต่อศาลเท่านั้น ไม่ได้บัญญัติห้ามไว้ว่าเมื่อยึดมาแล้วมิให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของลูกหนี้ทำการยึดหรือห้ามศาลไม่ให้สั่งขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึด ฉะนั้น เมื่อทรัพย์ที่ยึดไว้ยังไม่ได้ทำการขายทอดตลาดไป เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ย่อมทำการยึดเพื่อดำเนินการตามคำสั่งศาลได้ ส่วนสิทธิของกรมสรรพากรตามประมวลรัษฎากรในการที่จะได้รับชำระหนี้ค่าภาษีอากรที่ค้างมีอยู่อย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่มีบัญญัติไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และอำนาจยึดทรัพย์ตามประมวลรัษฎากร
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ที่ห้ามมิให้ยึดซ้ำนั้น จะต้องเป็นการยึดทรัพย์ซ้ำกันในระหว่างเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษา ด้วยกันในทรัพย์รายเดียวกันของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ส่วนการที่เจ้าพนักงานตามประมวลรัษฎากรยึดไว้ก่อนอันเป็นการยึดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12นั้น ไม่ใช่เป็นการยึดของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงทำการยึดได้ไม่เป็นการยึดซ้ำและการที่เจ้าพนักงานตามประมวลรัษฎากรทำการยึดก็ไม่ทำให้ทรัพย์ที่ยึดกลายเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินเพราะกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ยึดยังเป็นของจำเลยจนกว่าจะได้ขายทอดตลาดไป ประมวลรัษฎากร มาตรา 12 เป็นแต่เพียงให้อำนาจพิเศษแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอที่จะยึดทรัพย์สินของผู้ค้างชำระภาษีอากรเพื่อขายทอดตลาดได้โดยไม่ต้องฟ้องต่อศาลเท่านั้น ไม่ได้บัญญัติห้ามไว้ว่าเมื่อยึดมาแล้วมิให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของลูกหนี้ทำการยึดหรือห้ามศาลไม่ให้สั่งขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึด ฉะนั้น เมื่อทรัพย์ที่ยึดไว้ยังไม่ได้ทำการขายทอดตลาดไป เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ย่อมทำการยึดเพื่อดำเนินการตามคำสั่งศาลได้ ส่วนสิทธิของกรมสรรพากรตามประมวลรัษฎากร ในการที่จะได้รับชำระหนี้ค่าภาษีอากรที่ค้างมีอยู่อย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามบทกฎหมายที่มีบัญญัติไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชกมวยสมัครใจไม่มีผู้เสียหาย บิดาไม่มีอำนาจฟ้อง
ผู้ตายกับจำเลยสมัครใจชกมวย พนันเอาเงินกันโดยไม่ได้รัยอนุญาต จะถือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายไม่ได้ เมื่อผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะการชกมวยนั้น ผู้ตายก็ไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย บิดาของผู้ตายย่อมไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนผู้ตายได้