คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เนิ่น กฤษณะเศรนี

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 261 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 895/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเหนือพื้นดินเป็นทรัพยสิทธิ ต้องจดทะเบียนเพื่อสมบูรณ์ หากไม่จดทะเบียน สิทธิย่อมไม่ผูกพันกับบุคคลภายนอก
สิทธิเหนือพื้นดินเป็นทรัพยสิทธิอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงจะสมบูรณ์ถูกต้องตามกฎหมาย
โจทก์มีสิทธิสร้างบ้านในที่ดินของบุคคลอื่นตามที่เจ้าของอนุญาต แต่มิได้จดทะเบียนสิทธิต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเหนือพื้นดินที่สร้างบ้านนั้น และไม่มีทรัพยสิทธิอย่างใดในที่ดินนั้น เมื่อบ้านที่โจทก์สร้างไว้ตกเป็นของจำเลย โจทก์ก็ไม่มีสิทธิอะไรที่จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยรื้อบ้านออกไปจากที่ดินนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์: การเชื่อโดยสุจริตว่ามีสิทธิในที่ดินเป็นเหตุยกเว้นความรับผิด
การเข้าไปไถนาในที่ดินซึ่งตนเชื่อโดยสุจริตใจว่าตนมีสิทธิโดยชอบที่จะเอาไปทำได้ แม้จะทำให้คันนาของบุคคลอื่นเสียหาย ก็ถือไม่ได้ว่าได้มีเจตนากระทำผิดอันจะเป็นความผิดทางอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์: การกระทำโดยเชื่อโดยสุจริตว่ามีสิทธิทำประโยชน์ในที่ดิน
การเข้าไปไถนาในที่ดินซึ่งตนเชื่อโดยสุจริตใจว่าตนมีสิทธิโดยชอบที่จะเข้าไปทำได้ แม้จะทำให้คันนาของบุคคลอื่นเสียหาย ก็ถือไม่ได้ว่าได้มีเจตนากระทำผิดอันจะเป็นความผิดทางอาญาฐานทำให้เสียทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ฟ้องบังคับคดีค่าเช่าไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 538
เช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ในกรณีเรียกค่าเช่า ผู้เช่าเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิด ใบเสร็จรับเงินค่าเช่าที่มีแต่ลายมือชื่อของผู้ให้เช่า ไม่ใช่หลักฐานที่มีลายชื่อของผู้เช่า ฉะนั้น ผู้ให้เช่าจะฟ้องเรียกค่าเช่าจากผู้เช่าโดยอาศัยใบเสร็จรับเงินดังกล่าวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 869/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าปากเปล่าและการบังคับคดีค่าเช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
เช่าอสังหาริมทรัพย์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิด จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ในกรณีเรียกค่าเช่า ผู้เช่าเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิด ใบเสร็จรับเงินค่าเช่าที่มีแต่ลายมือชื่อของผู้ให้เช่า ไม่ใช่หลักฐานที่มีลายมือชื่อของผู้เช่า ฉะนั้น ผู้ให้เช่าจะฟ้องเรียกค่าเช่าจากผู้เช่าโดยอาศัยใบเสร็จรับเงินดังกล่าวหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องอาญาที่ไม่สมบูรณ์ และความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์จากการขายแชร์เปียหวย
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องโดยขอให้ศาลอนุญาตให้โจทก์ลงชื่อในท้ายฟ้อง หรือถือเอาคำร้องเป็นการลงชื่อในช่องโจทก์ท้ายฟ้องได้ ก่อนที่จะได้มีการสืบพยานโจทก์ การขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเช่นนี้หาใช่ทำให้จำเลยต้องเสียเปรียบหรือหลงต่อสู้คดีแต่อย่างใดไม่ ควรอนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเสียให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163, 164
จำเลยเอาความเท็จไปหลอกลวงโจทก์ว่าเป็นหัวหน้าวงแชร์เปียหวยและมีแชร์อยู่ โจทก์หลงเชื่อจึงตกลงรับซื้อแชร์ไว้ โดยจ่ายเงินให้จำเลยไป 7,000 บาท ซึ่งความจริงจำเลยไม่ได้เปิดวงแชร์เปียหวยตามที่จำเลยอ้าง ดังนี้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขฟ้องคดีอาญาที่ถูกต้อง การฉ้อโกงทรัพย์จากการขายแชร์ที่ไม่มีอยู่จริง
โจทก์ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องโดยขอให้ศาลอนุญาตให้โจทก์ลงชื่อในท้ายฟ้อง หรือถือเอาคำร้องเป็นการลงชื่อในช่องโจทก์ท้ายฟ้องได้ ก่อนที่จะได้มีการสืบพยานโจทก์ การขอแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเช่นนี้หาใช่ทำให้จำเลยต้องเสียเปรียบหรือหลงต่อสู้คดีแต่อย่างใดไม่ ควรอนุญาตให้โจทก์แก้ไขเพิ่มเติมฟ้องเสียให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 163,164
จำเลยเอาความเท็จไปหลอกลวงโจทก์ว่าเป็นหัวหน้าวงแชร์เปียหวยและมีแชร์อยู่ โจทก์หลงเชื่อจึงตกลงรับซื้อแชร์ไว้ โดยจ่ายเงินให้จำเลยไป 7,000 บาท ซึ่งความจริงจำเลยไม่ได้เปิดวงแชร์เปียหวยตามที่จำเลยอ้าง ดังนี้จำเลยย่อมมีความผิดฐานฉ้อโกงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันโดยสำคัญผิดเกินเหตุ: การกระทำเกินกว่ากรณีจำเป็นเพื่อป้องกันทรัพย์สิน
เมื่อข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบรับกันว่าบริเวณหมู่บ้านจำเลยมีโจรผู้ร้ายชุกชุม จำเลยเคยถูกคนร้ายลักเป็ดและลักเรือไปแล้ว 4 ครั้ง จำเลยจึงได้ล้อมรั้วชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง เมื่อก่อนที่จะเกิดเหตุคดีนี้เพียงเดือนเดียว คืนเกิดเหตุจำเลยจอดเรือไว้ที่ท่าทะเลสาบ 2 ลำและมีเป็ดอีก 800 ตัว ผู้เสียหายและพวกได้เดินผ่านประตูเข้าไปในรั้วบ้านชั้นนอกของจำเลยเมื่อ 01.00 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาดึกดื่นโดยมิได้บอกกล่าวขออนุญาตเสียก่อน เมื่อจำเลยร้องถามว่าใคร ผู้เสียหายก็ร้องตอบแต่เพียงว่า ผม ไม่บอกชื่อให้ชัดเจน จำเลยจึงยิงผู้เสียหายเพราะสำคัญผิดว่าเป็นคนร้าย แต่การที่จำเลยยิงผู้เสียหายไปในพฤติการณ์เช่นนี้ ย่อมเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80, 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สำคัญผิดในสถานการณ์ป้องกัน: การกระทำเกินกว่าเหตุเพื่อป้องกันทรัพย์สิน
เมื่อข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบรับกันว่าบริเวณหมู่บ้านจำเลย มีโจรผู้ร้ายชุกชุม จำเลยเคยถูกคนร้ายลักเป็ดและลักเรือไปแล้ว 4 ครั้ง จำเลยจึงได้ล้อมรั้วชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง เมื่อก่อนที่จะเกิดเหตุคดีนี้เพียงเดือนเดียว คืนเกิดเหตุจำเลยจอดเรือไว้ที่ท่าทะเลสาบ 2 ลำและมีเป็ดอีก 800 ตัว ผู้เสียหายและพวกได้เดินผ่านประตูเข้าไปในรั้วบ้านชั้นนอกของจำเลยเมื่อ 01.00 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาดึกดื่นโดยมิได้บอกกล่าวขออนุญาตเสียก่อน เมื่อจำเลยร้องถามว่าใคร ผู้เสียหายก็ร้องตอบแต่เพียงว่า ผม ไม่บอกชื่อให้ชัดเจน จำเลย จึงยิงผู้เสียหายเพราะสำคัญผิดว่าเป็นคนร้าย แต่การที่จำเลยยิงผู้เสียหายไปในพฤติการณ์เช่นนี้ ย่อมเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 69

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 829/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากขัดแย้งกัน ศาลต้องสืบพยานเพื่อหาเจตนาจริงของคู่สัญญา
เอกสารสัญญาขายฝากข้อแรกมีว่า ตกลงขายฝากมีกำหนดสองปี แต่ข้ออื่นถัดไปมีว่า กำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี ข้อความทั้งสองข้อนี้จึงขัดแย้งกันเพราะมีข้อความไม่ชัดเจนพอที่จะพิจารณาถึงเจตนาอันแท้จริงของคู่สัญญาได้ ทั้งข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ฟ้อง และจำเลยให้การตลอดจนคำแถลงรับของโจทก์จำเลยนั้นก็ยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ไม่ชัดแจ้งพอที่จะให้ศาลตีความตามเอกสารนั้นได้ กรณีจึงชอบที่จะให้มีการสืบพยานเพื่อฟังข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่าเป็นเช่นใดเสียก่อน
of 27