คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จินตา บุณยอาคม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 811 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในละเมิด: ครูระมัดระวังแล้วไม่ต้องรับผิด, มารดาปล่อยปละละเลยต้องรับผิด
เช้าวันเกิดเหตุ ครูได้เก็บเอาไม้กระบอกพลุที่เด็กนักเรียนเล่นมาทำลายและห้ามไม่ให้เล่นต่อไป ตอนหยุดพักกลางวันนักเรียนคนหนึ่งได้เล่นกระบอกพลุที่นอกห้องเรียนไปโดนนัยน์ตานักเรียนอีกคนหนึ่งบอด พฤติการณ์เช่นนี้ครูได้ใช้ระมัดระวังตามสมควรแล้ว เหตุที่เกิดละเมิดเป็นการนอกเหนืออำนาจและวิสัยที่ครูจะดูแลให้ปลอดภัยได้ ครูจึงไม่ต้องรับผิด
มารดาปล่อยให้บุตรเล่นไม้กระบอกพลุที่บ้านและนำไปเล่นที่โรงเรียน จนบุตรมีความชำนาญทำไม้กระบอกพลุให้คนอื่นเล่นได้ แสดงว่ามารดาปล่อยปละละเลยไม่ได้ดูแลหรือห้ามปราม แม้เหตุจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนลับหลังมารดาก็ตาม ก็หาทำให้มารดาพ้นความผิดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดต่อความเสียหายจากสิ่งของอันตราย: ครูใช้ความระมัดระวังแล้วไม่ต้องรับผิด, มารดาละเลยการดูแลบุตรต้องรับผิด
เช้าวันเกิดเหตุ ครูได้เก็บเอาไม้กระบอกพลุที่เด็กนักเรียนเล่นมาทำลายและห้ามไม่ให้เล่นต่อไป. ตอนหยุดพักกลางวันนักเรียนคนหนึ่งได้เล่นกระบอกพลุที่นอกห้องเรียนไปโดนนัยน์ตานักเรียนอีกคนหนึ่งบอด. พฤติการณ์เช่นนี้ครูได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว.เหตุที่เกิดละเมิดเป็นการนอกเหนืออำนาจและวิสัยที่ครูจะดูแลให้ปลอดภัยได้. ครูจึงไม่ต้องรับผิด.
มารดาปล่อยให้บุตรเล่นไม้กระบอกพลุที่บ้านและนำไปเล่นที่โรงเรียนจนบุตรมีความชำนาญทำไม้กระบอกพลุให้คนอื่นเล่นได้. แสดงว่ามารดาปล่อยปละละเลยไม่ได้ดูแลหรือห้ามปราม. แม้เหตุจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนลับหลังมารดาก็ตาม ก็หาทำให้มารดาพ้นความรับผิดไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 356/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของครูและมารดาต่อเหตุละเมิดจากการเล่นพลุของเด็กนักเรียน
เช้าวันเกิดเหตุ ครูได้เก็บเอาไม้กระบอกพลุที่เด็กนักเรียนเล่นมาทำลายและห้ามไม่ให้เล่นต่อไปตอนหยุดพักกลางวันนักเรียนคนหนึ่งได้เล่นกระบอกพลุที่นอกห้องเรียนไปโดนนัยน์ตานักเรียนอีกคนหนึ่งบอดพฤติการณ์เช่นนี้ครูได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้วเหตุที่เกิดละเมิดเป็นการนอกเหนืออำนาจและวิสัยที่ครูจะดูแลให้ปลอดภัยได้ครูจึงไม่ต้องรับผิด
มารดาปล่อยให้บุตรเล่นไม้กระบอกพลุที่บ้านและนำไปเล่นที่โรงเรียนจนบุตรมีความชำนาญทำไม้กระบอกพลุให้คนอื่นเล่นได้แสดงว่ามารดาปล่อยปละละเลยไม่ได้ดูแลหรือห้ามปราม แม้เหตุจะเกิดขึ้นที่โรงเรียนลับหลังมารดาก็ตาม ก็หาทำให้มารดาพ้นความรับผิดไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมซื้อขายโมฆะและการโอนทรัพย์สินโดยไม่สุจริต ผู้รับโอนไม่ได้รับความคุ้มครอง
สามีมิได้รู้เห็นและให้ความยินยอมภริยาทำนิติกรรมซื้อขายสินบริคณห์เมื่อได้บอกล้างนิติกรรมนั้นแล้ว. นิติกรรมนั้นย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138.
บุคคลที่รับโอนทรัพย์สินมาโดยไม่สุจริตจากผู้โอนที่ได้ทรัพย์สินมาโดยนิติกรรมอันเป็นโมฆียะ. เมื่อนิติกรรมนั้นถูกบอกล้าง บุคคลที่รับโอนนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1329.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติกรรมซื้อขายโมฆะเมื่อสามีมิได้ยินยอมและได้บอกล้างแล้ว ผู้รับโอนย่อมไม่ได้รับความคุ้มครอง
สามีมิได้รู้เห็นและให้ความยินยอมภริยาทำนิติกรรมซื้อขายสินบริคณห์เมื่อได้บอกล้างนิติกรรมนั้นแล้วนิติกรรมนั้นย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138
บุคคลที่รับโอนทรัพย์สินมาโดยไม่สุจริตจากผู้โอนที่ได้ทรัพย์สินมาโดยนิติกรรมอันเป็นโมฆียะเมื่อนิติกรรมนั้นถูกบอกล้าง บุคคลที่รับโอนนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1329

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างนิติกรรมซื้อขายที่สามีมิได้ยินยอม และผลกระทบต่อผู้รับโอนที่รู้ถึงข้อบกพร่อง
สามีมิได้รู้เห็นและให้ความยินยอมภริยาทำนิติกรรมซื้อขายสินบริคณห์ เมื่อได้บอกล้างนิติกรรมนั้นแล้ว นิติกรรมนั้นย่อมเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 138
บุคคลที่รับโอนทรัพย์สินมาโดยไม่สุจริตจากผู้โอนที่ได้ทรัพย์สินมาโดยนิติกรรมอันเป็นโมฆียะ เมื่อนิติกรรมนั้นถูกบอกล้าง บุคคลที่รับโอนนั้นไม่ได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย ์ มาตรา 1329

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เหตุหย่า: การเป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยาและละทิ้งกัน สิทธิฟ้องร้องระงับใน 2 ปี
การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยานั้น. เมื่อพ้นกำหนด 2 ปีแล้วสิทธิการฟ้องร้องย่อมระงับไป.
โจทก์จำเลยทะเลาะกันด่ากัน. โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เพื่อยกเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องหย่าจากเหตุปฏิปักษ์ และการใช้เหตุหมิ่นประมาทเป็นเหตุหย่า
การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยานั้น เมื่อพ้นกำหนด 2 ปีแล้วสิทธิการฟ้องร้องย่อมระงับไป
โจทก์จำเลยทะเลาะกันด่ากัน โจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เพื่อยกเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 329/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องหย่าจากความผิดเชิงปฏิปักษ์ & เหตุหย่าจากทะเลาะวิวาท
การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการเป็นสามีภริยานั้น เมื่อพ้นกำหนด2 ปีแล้วสิทธิการฟ้องร้องย่อมระงับไป
โจทก์จำเลยทะเลาะกันด่ากันโจทก์จะกล่าวอ้างว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์เพื่อยกเป็นเหตุฟ้องหย่าหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความชัดเจนของวันเวลาทำผิด และการพิจารณาการกระทำทารุณโหดร้ายในการฆ่า
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดเมื่อวันเวลาใดไม่ปรากฏชัด. ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม 2508เวลากลางคืนหลังเที่ยงติดต่อกับวันที่ 28 ตุลาคม 2508เวลากลางคืนก่อนเที่ยง. ซึ่งหมายถึงเวลากลางคืนของวันที่27 ตุลาคม 2508 ตลอดคืน. และจำเลยก็นำสืบต่อสู้คดีว่า ในวันที่ 27 ตุลาคม 2508 ตั้งแต่เวลา 17 นาฬิกา.จำเลยไปเยี่ยมญาติซึ่งป่วยจนถึงเที่ยงคืนจึงกลับไปอยู่บ้าน. แสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีว่ากล่าวหาจำเลยกระทำผิดในวันเวลาใด. ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม.
จำเลยขึ้นไปบนเรือนและใช้ขวานฟันผู้ตายที่คอ ผู้ตายยังไม่ตายทันที. เมื่อจำเลยลงจากเรือนผู้ตายไปแล้ว.ผู้ตายร้องครางขึ้น จำเลยจึงย้อนขึ้นไปฟันที่คอผู้ตายอีกครั้งหนึ่ง. เป็นการฟันซ้ำที่แผลเดิมเพื่อจะให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย. ยังไม่เข้าลักษณะที่เป็นการฆ่าโดยทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5).
of 82