พบผลลัพธ์ทั้งหมด 811 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของรวม - การใช้ประโยชน์ที่ดิน - ไม่เป็นละเมิด - ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย
ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นของโจทก์และจำเลยรวมกันคนละครึ่งโจทก์ย่อมมีสิทธิจะใช้ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นที่อยู่ในฐานะเจ้าของรวมคนหนึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1360 วรรคแรกจำเลยไม่มีสิทธิขับไล่โจทก์ ฉะนั้น แม้โจทก์จะไม่ออกไปจากที่ดินและเรือนพิพาท เมื่อจำเลยบอกกล่าวให้ออกไป จึงไม่เป็นละเมิดต่อจำเลย
จำเลยฟ้องแย้งว่า ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นของจำเลย จำเลยขอให้โจทก์ออกไปเพื่อจะให้ผู้อื่นเช่า แต่โจทก์ไม่ยอมออก ทำให้จำเลยเสียหายขาดค่าเช่าที่ควรจะได้ ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์แบ่งดอกผลของที่ดินและเรือนพิพาทที่โจทก์ได้มาให้แก่จำเลยตามส่วนที่จำเลยมีอยู่
จำเลยฟ้องแย้งว่า ที่ดินและเรือนพิพาทเป็นของจำเลย จำเลยขอให้โจทก์ออกไปเพื่อจะให้ผู้อื่นเช่า แต่โจทก์ไม่ยอมออก ทำให้จำเลยเสียหายขาดค่าเช่าที่ควรจะได้ ดังนี้ ฟ้องแย้งของจำเลยไม่มีประเด็นจะวินิจฉัยว่าจำเลยมีสิทธิเรียกร้องให้โจทก์แบ่งดอกผลของที่ดินและเรือนพิพาทที่โจทก์ได้มาให้แก่จำเลยตามส่วนที่จำเลยมีอยู่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงในคดีล้มละลายเมื่อทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท
ในคดีล้มละลายที่บุคคลคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ชำระเงินตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ หากทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองพันบาท ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงในคดีล้มละลายเมื่อทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท
ในคดีล้มละลายที่บุคคลคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ชำระเงินตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ หากทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองพันบาท ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 153
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1335/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกายจากการผลักผู้อื่นจนล้มบาดเจ็บ ผู้กระทำเล็งเห็นผลได้
จำเลยจะทำร้ายบุตรของผู้เสียหาย ผู้เสียหายเข้าไปขัดขวาง จำเลยผลักผู้เสียหาย ทำใหผู้เสียหายล้มลง ดังนี้ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่า เมื่อผู้เสียหายล้มลงแล้วผู้เสียหายจะได้รับผลอย่างไร ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บก็ย่อมเป็นผลแห่งการกระทำโดยเจตนาของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1334/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกายจากการผลักผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยจะทำร้ายบุตรของผู้เสียหาย ผู้เสียหายเข้าไปขัดขวาง จำเลยผลักผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายล้มลง ดังนี้ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่า เมื่อผู้เสียหายล้มลงแล้ว ผู้เสียหายจะได้รับผลอย่างไร ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บก็ย่อมเป็นผลแห่งการกระทำโดยเจตนาของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1334/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำร้ายร่างกายจากการผลักผู้อื่นล้ม: การเล็งเห็นผลกระทบ
จำเลยจะทำร้ายบุตรของผู้เสียหาย ผู้เสียหายเข้าไปขัดขวาง จำเลยผลักผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายล้มลง ดังนี้ จำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่า เมื่อผู้เสียหายล้มลงแล้วผู้เสียหายจะได้รับผลอย่างไร ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บก็ย่อมเป็นผลแห่งการกระทำโดยเจตนาของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 59 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งคำบังคับที่ภูมิลำเนาที่ไม่ถูกต้องและการขอพิจารณาคดีใหม่
คำขอของจำเลยกล่าวว่า เพราะโจทก์ส่งหมายเรียกหมายนัดตลอดจนคำบังคับ ณ ที่ดินซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาของจำเลย เป็นเหตุให้จำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีมาแต่ต้น ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้าอันเนื่องมาจากพฤติการณ์นอกเหนือ ซึ่งจำเลยไม่อาจรู้ได้ ทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันส่งคำบังคับให้จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีใหม่หลังขาดนัดฟ้อง: เหตุล่าช้าจากที่อยู่จัดส่งที่ไม่ถูกต้อง และการแสดงเหตุคัดค้านคำพิพากษา
คำขอของจำเลยกล่าวว่า เพราะโจทก์ส่งหมายเรียกหมายนัด ตลอดจนคำบังคับ ณ ที่ดินซึ่งมิใช่ภูมิลำเนาของจำเลย เป็นเหตุให้จำเลยไม่ทราบว่าถูกโจทก์ฟ้อง ไม่มีโอกาสต่อสู้คดีมาแต่ต้น ถือได้ว่าคำขอของจำเลยได้แสดงเหตุแห่งการล่าช้าอันเนื่องมาจากพฤติการณ์นอกเหนือ ซึ่งจำเลยไม่อาจรู้ได้ ทำให้จำเลยไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ภายใน 15 วันนับแต่วันส่งคำบังคับให้จำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีพิพาทที่ดินราคาประเมินต่ำกว่าเกณฑ์ฎีกา ศาลไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามมาตรา 248
คดีมีทุนทรัพย์เพียง 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีมีทุนทรัพย์น้อยกว่า 50,000 บาท ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามฎีกาตามมาตรา 248
คดีมีทุนทรัพย์เพียง 5,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248