พบผลลัพธ์ทั้งหมด 811 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเป็นสามีภริยาและสิทธิบุตรก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง: การบังคับใช้กฎหมายลักษณะผัวเมีย
ได้เสียเป็นสามีภริยากันก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 และบรรพ 6 ความเป็นสามีภริยาและบุตรต้องบังคับตามกฎหมายลักษณะผัวเมียซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้น เมื่อได้ความว่าชายหญิงได้อยู่กินเป็นสามีภริยาโดยเปิดเผยเป็นที่รู้กันทั่วๆไปว่าเป็นสามีภริยากัน ก็ถือได้ว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรที่เกิดมาจึงเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของสามี ย่อมมีสิทธิรับมรดกของสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเป็นสามีภริยาและสิทธิในมรดกก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง - กฎหมายลักษณะผัวเมีย
ได้เสียเป็นสามีภริยากันก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 5 และบรรพ 6 ความเป็นสามีภริยาและบุตรต้องบังคับตามกฎหมายลักษณะผัวเมีย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้อยู่ในขณะนั้น เมื่อได้ความว่าชายหญิงได้อยู่กินเป็นสามีภริยาโดยเปิดเผยเป็นที่รู้กันทั่ว ๆ ไปว่าเป็นสามีภริยากัน ก็ถือได้ว่าเป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรที่เกิดมาจึงเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของสามี ย่อมมีสิทธิรับมรดกของสามี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1169/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ากำหนดชำระค่าเช่ารายปีเมื่อสิ้นปี การฟ้องเลิกสัญญาต้องอาศัยเหตุที่กล่าวอ้างในฟ้อง
สัญญาเช่ากำหนดอัตราค่าเช่าเป็นรายปี และได้กำหนดเวลาชำระค่าเช่าไว้ว่า "ผู้เช่ายอมชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าปีละ 1 ครั้ง ฯลฯ" มิได้กำหนดว่าผู้เช่าจะต้องชำระค่าเช่าล่วงหน้าจึงต้องถือว่าผู้เช่ามีหน้าที่ชำระค่าเช่ารายปีแต่ละปีให้แก่ผู้ให้เช่าเมื่อสิ้นปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 559
โจทก์ตั้งประเด็นฟ้องเลิกสัญญาโดยอาศัยเหตุจำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ ศาลจะหยิบยกสัญญาเช่าข้ออื่นมาเป็นเหตุวินิจฉัยขับไล่จำเลยไม่ได้ เป็นการนอกประเด็นที่โจทก์กล่าวในฟ้อง
โจทก์ตั้งประเด็นฟ้องเลิกสัญญาโดยอาศัยเหตุจำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ ศาลจะหยิบยกสัญญาเช่าข้ออื่นมาเป็นเหตุวินิจฉัยขับไล่จำเลยไม่ได้ เป็นการนอกประเด็นที่โจทก์กล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1169/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ารายปี การชำระค่าเช่าเมื่อสิ้นปี และขอบเขตประเด็นฟ้อง
สัญญาเช่ากำหนดอัตราค่าเช่าเป็นรายปี และได้กำหนดเวลาชำระค่าเช่าไว้ว่า 'ผู้เช่ายอมชำระค่าเช่าให้แก่ ผู้ให้เช่าปีละ 1 ครั้ง ฯลฯ'มิได้กำหนดว่าผู้เช่าจะต้องชำระค่าเช่าล่วงหน้า จึงต้องถือว่าผู้เช่ามีหน้าที่ชำระค่าเช่ารายปีแต่ละปีให้แก่ผู้ให้เช่าเมื่อสิ้นปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 559
โจทก์ตั้งประเด็นฟ้องเลิกสัญญาโดยอาศัยเหตุจำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ ศาลจะหยิบยกสัญญาเช่าข้ออื่นมาเป็นเหตุวินิจฉัยขับไล่จำเลยไม่ได้ เป็นการนอกประเด็นที่โจทก์กล่าวในฟ้อง
โจทก์ตั้งประเด็นฟ้องเลิกสัญญาโดยอาศัยเหตุจำเลยผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าให้โจทก์ ศาลจะหยิบยกสัญญาเช่าข้ออื่นมาเป็นเหตุวินิจฉัยขับไล่จำเลยไม่ได้ เป็นการนอกประเด็นที่โจทก์กล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดพิจารณาคดี – ศาลต้องไต่สวนเหตุผลก่อนมีคำสั่ง – การพิจารณาใหม่
โจทก์ไม่ไปศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ และศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา แล้วโจทก์มาร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่อ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณา กรณีต้องดำเนินไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรค 2 ซึ่งศาลชอบที่จะไต่สวนให้ทราบข้อเท็จจริงเพื่อมีคำสั่งต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการพิจารณาใหม่ ศาลต้องไต่สวนเหตุผลก่อนมีคำสั่ง
โจทก์ไม่ไปศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ และศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา แล้วโจทก์มาร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่อ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดพิจารณากรณีต้องดำเนินไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 205 วรรคสอง ซึ่งศาลชอบที่จะไต่สวนให้ทราบข้อเท็จจริงเพื่อมีคำสั่งต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานหลักฐานที่มิได้ยื่นต่อศาลในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย และหนังสือรับรองหนี้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงสัญญาค้ำประกัน
เอกสารของคู่ความที่แนบท้ายคำแถลงการณ์ซึ่งยื่นในชั้นอุทธรณ์ มิใช่พยานหลักฐานที่ได้อ้างและยื่นต่อศาลโดยถูกต้องตามกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
ลูกหนี้ทำหนังสือรับรองต่อเจ้าหนี้ว่าจะชำระหนี้ให้ภายในกำหนด 1 เดือนดังนี้ เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ทำขึ้นฝ่ายเดียวให้แก่เจ้าหนี้เพื่อเป็นหลักฐานการรับสภาพหนี้ของลูกหนี้ ไม่ใช่ลูกหนี้และเจ้าหน้ตกลงกันใหม่ที่จะให้ผู้ค้ำประกันพ้นจากฐานะผู้ค้ำประกัน
ลูกหนี้ทำหนังสือรับรองต่อเจ้าหนี้ว่าจะชำระหนี้ให้ภายในกำหนด 1 เดือนดังนี้ เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ทำขึ้นฝ่ายเดียวให้แก่เจ้าหนี้เพื่อเป็นหลักฐานการรับสภาพหนี้ของลูกหนี้ ไม่ใช่ลูกหนี้และเจ้าหน้ตกลงกันใหม่ที่จะให้ผู้ค้ำประกันพ้นจากฐานะผู้ค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารที่ยื่นเพิ่มเติมหลังศาลอุทธรณ์ไม่เป็นพยานหลักฐาน สัญญาค้ำประกันยังผูกพัน
เอกสารของคู่ความที่แนบท้ายคำแถลงการณ์ซึ่งยื่นในชั้นศาลอุทธรณ์มิใช่พยานหลักฐานที่ได้อ้างและยื่นต่อศาลโดยถูกต้องตามกระบวนพิจารณาศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย
ลูกหนี้ทำหนังสือรับรองต่อเจ้าหนี้ว่าจะชำระหนี้ให้ภายในกำหนด 1 เดือน ดังนี้ เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ทำขึ้นฝ่ายเดียวให้แก่เจ้าหนี้เพื่อเป็นหลักฐานการรับสภาพหนี้ของลูกหนี้ ไม่ใช่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ตกลงกันใหม่ที่จะให้ผู้ค้ำประกันพ้นจากฐานะผู้ค้ำประกัน
ลูกหนี้ทำหนังสือรับรองต่อเจ้าหนี้ว่าจะชำระหนี้ให้ภายในกำหนด 1 เดือน ดังนี้ เป็นหนังสือที่ลูกหนี้ทำขึ้นฝ่ายเดียวให้แก่เจ้าหนี้เพื่อเป็นหลักฐานการรับสภาพหนี้ของลูกหนี้ ไม่ใช่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ตกลงกันใหม่ที่จะให้ผู้ค้ำประกันพ้นจากฐานะผู้ค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องเบิกความเท็จ: จำเลยยังไม่มีสิทธิฎีกาจนกว่าศาลชั้นต้นจะประทับฟ้อง
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนและพิจารณาพิพากษาต่อไปตามมูลคดี ดังนี้ จำเลยจะฎีกาหาได้ไม่เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรค 3 ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะประทับฟ้อง มิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1082/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องและการดำเนินการไต่สวนมูลฟ้อง: จำเลยยังไม่มีสิทธิฎีกา
ชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนและพิจารณาพิพากษาต่อไปตามมูลคดี ดังนี้ จำเลยจะฎีกาหาได้ไม่เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 165 วรรคสาม ก่อนที่ศาลชั้นต้นจะประทับฟ้อง มิให้ถือว่าจำเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น ฉะนั้น จึงเป็นเรื่องระหว่างศาลกับโจทก์