คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จำรูญ โชติรัต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 452 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีเนื่องจากจำเลยอยู่ในต่างประเทศ และการพิจารณาเหตุสุดวิสัยในการยื่นคำขอพิจารณาใหม่
จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียก่อนโจทก์ฟ้อง. โจทก์นำเจ้าพนักงานศาลไปส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องแก่จำเลยที่บ้านโจทก์ซึ่งเป็นสำนักทำการห้างหุ้นส่วนระหว่างโจทก์จำเลย. และคนของโจทก์เป็นผู้รับหมายไว้แทน ตลอดจนมีการปิดหมายนัดพิจารณาที่บ้านดังกล่าว. ยังไม่พอฟังว่าจำเลยได้ทราบฟ้องและการพิจารณาของศาล.
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่า จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียยังมิได้กลับประเทศไทย. จึงไม่ทราบการถูกฟ้องและการพิจารณาของศาล. ถือว่าได้กล่าวถึงเหตุที่ขาดนัดโดยละเอียดชัดแจ้งแล้ว.
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวว่าตามคำให้การที่จำเลยยื่นควรชนะโจทก์ได้ เพราะความจริงเป็นเรื่องโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกันยังไม่เลิก. โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินค่าหุ้นคืน. ถือว่าได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลแล้ว.
พฤติการณ์ที่จำเลยไปอยู่ที่ประเทศอินเดียก่อนโจทก์ฟ้องจนถึงวันที่ผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่จำเลยก็ยังมิได้กลับ. เมื่อจำเลยทราบว่าถูกฟ้อง ก็ทำใบมอบอำนาจต่อกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา ให้ผู้รับมอบอำนาจมายื่นคำขอให้พิจารณาใหม่. ถือได้ว่ากรณีมีพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้.(อ้างฎีกาที่ 42/2506).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายป่วย: ศาลต้องพิจารณาเหตุจำเป็นและไม่ถือว่าประวิงคดีหากมีเหตุผล
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนมายื่นคำร้องขอเลื่อนการนั่งพิจารณา โดยไม่มีพยานมาศาล จำเลยคัดค้านว่า โจทก์ขอเลื่อนเพื่อประวิงคดี แต่ไม่ได้คัดค้านว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง แม้ทนายโจทก์จะส่งใบรับรองแพทย์ภายหลัง ก็ถือไม่ได้ว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง ความเจ็บป่วยของทนายความถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ ศาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 โดยสั่งเลื่อนคดีต่อไปได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น มีกำหนดไม่เกินหนึ่งเดือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 859/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายป่วย: ศาลต้องพิจารณาเหตุจำเป็นและไม่ถือว่าประวิงคดีทันที
วันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์ครั้งแรก ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนมายื่นคำร้องขอเลื่อนการนั่งพิจารณา โดยไม่มีพยานมาศาลจำเลยคัดค้านว่า โจทก์ขอเลื่อนเพื่อประวิงคดี แต่ไม่ได้คัดค้านว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง แม้ทนายโจทก์จะส่งใบรับรองแพทย์ภายหลัง ก็ถือไม่ได้ว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยเจ็บจริง ความเจ็บป่วยของทนายความถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ ศาลต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 โดยสั่งเลื่อนคดีต่อไปได้อีกครั้งเดียวเท่านั้น มีกำหนดไม่เกินหนึ่งเดือน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผ่อนผันสัญญาเช่าทำให้ผู้เช่าไม่ผิดสัญญา แม้จะค้างชำระค่าเช่าบางส่วน ผู้ให้เช่ายังไม่มีสิทธิขับไล่
แม้จะมีข้อความปรากฏในสัญญาเช่าให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าล่วงหน้าทุก ๆ เดือนและหากว่าผู้เช่าผิดสัญญา ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ทันที โดยผู้เช่าจะไม่ฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายแต่อย่างใดก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่ารวมชำระค่าเช่าหลายๆ เดือนต่อครั้ง ดังนั้น เมื่อผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า 2 เดือน จะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาเช่าไม่ได้ และเมื่อผู้เช่าไม่ผิดสัญญา ผู้ให้เช่าจึงยังไม่มีสิทธิที่จะขับไล่หรือยึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ตามข้อความในสัญญาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผ่อนผันการชำระค่าเช่าทำให้ผู้เช่าไม่ผิดสัญญา แม้มีข้อตกลงให้ชำระรายเดือน
แม้จะมีข้อความปรากฏในสัญญาเช่าให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าล่วงหน้าทุกๆ เดือนและหากว่าผู้เช่าผิดสัญญา. ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ทันที. โดยผู้เช่าจะไม่ฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายแต่อย่างใดก็ตาม. แต่ในทางปฏิบัติ ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่ารวมชำระค่าเช่าหลายๆ. เดือนต่อครั้ง.ดังนั้น. เมื่อผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า 2 เดือน จะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาเช่าไม่ได้. และเมื่อผู้เช่าไม่ผิดสัญญา.ผู้ให้เช่าจึงยังไม่มีสิทธิที่จะขับไล่หรือยึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ตามข้อความในสัญญาดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 856/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผ่อนผันการชำระค่าเช่าทำให้ผู้เช่าไม่ผิดสัญญา แม้สัญญาจะกำหนดให้ชำระรายเดือน ผู้ให้เช่าจึงไม่มีสิทธิขับไล่
แม้จะมีข้อความปรากฏในสัญญาเช่าให้ผู้เช่าชำระค่าเช่าล่วงหน้าทุกๆ เดือนและหากว่าผู้เช่าผิดสัญญา ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่ามีอำนาจฟ้องขับไล่หรือเข้ายึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ทันที โดยผู้เช่าจะไม่ฟ้องหรือเรียกค่าเสียหายแต่อย่างใดก็ตามแต่ในทางปฏิบัติ ผู้ให้เช่ายอมให้ผู้เช่ารวมชำระค่าเช่าหลายๆ เดือนต่อครั้งดังนั้นเมื่อผู้เช่าค้างชำระค่าเช่า 2 เดือน จะถือว่าผู้เช่าผิดสัญญาเช่าไม่ได้และเมื่อผู้เช่าไม่ผิดสัญญาผู้ให้เช่าจึงยังไม่มีสิทธิที่จะขับไล่หรือยึดถือปกครองสถานที่เช่าได้ตามข้อความในสัญญาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษจากคำรับสารภาพและเหตุบรรเทาโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288 ให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ส่วนมีดของกลางไม่ริบโจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษตามศาลชั้นต้น แต่พิพากษาแก้ให้ริบมีดของกลางด้วย ดังนี้ ไม่ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 คดียังไม่ถึงที่สุด ฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและป้องกันตัว: ศาลลดโทษจำเลยจากคำรับสารภาพ แม้ต่อสู้ว่าทำเพื่อป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288 ให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต. ส่วนมีดของกลางไม่ริบ.โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์. ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245. ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษตามศาลชั้นต้น. แต่พิพากษาแก้ให้ริบมีดของกลางด้วย. ดังนี้ ไม่ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 คดียังไม่ถึงที่สุด. ฎีกาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลลดโทษจำเลยจากคำรับสารภาพแต่ยังคงลงโทษจำคุก
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้จำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต ส่วนมีดของกลางไม่ริบโจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษตามศาลชั้นต้นแต่พิพากษาแก้ให้ริบมีดของกลางด้วยดังนี้ ไม่ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 คดียังไม่ถึงที่สุดฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีขับไล่ผู้เช่าที่มีค่าเช่าต่ำกว่าเกณฑ์ พ.ร.บ.ควบคุมเคหะฯ และการแก้ไขคำฟ้องที่พิมพ์ผิดพลาด
คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าในขณะยื่นฟ้องไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท. และโจทก์ตั้งทุนทรัพย์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยเพียง 1,500 บาท จำเลยมิได้กล่าวแก้เป็นข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ และมิได้ยกข้อโต้เถียงในเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่า คดีจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
ขอแก้คำฟ้องที่ว่า จำเลยได้เช่าตึกแถว เลขที่ 493/9เป็นจำเลยได้เช่าตึกแถวเลขที่ 493/12 ดังนี้ เป็นกรณีที่โจทก์พิมพ์เลขผิดพลาด เพราะสัญญาเช่าระหว่างโจทก์จำเลยในคดีนี้ระบุไว้ชัดว่าจำเลยตกลงรับเช่าตึกแถว 2 ชั้นห้องหมายเลขทะเบียนที่ 493/12 การขอแก้ไขคำฟ้องที่พิมพ์ผิดพลาด ย่อมไม่อยู่ในบังคับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 180 ที่โจทก์จะต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขก่อนวันชี้สองสถานหรือก่อนวันสืบพยาน
หลังจากครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญาแล้ว โจทก์ได้บอกเลิกการเช่ากับจำเลย การที่จำเลยอยู่ต่อมาอีก ศาลชั้นต้นถือว่าจำเลยอยู่โดยละเมิด และถือว่าเงินค่าเช่าที่โจทก์รับไปเดือนละ 200 บาทนั้น เป็นค่าเสียหาย ฉะนั้นเมื่อจำเลยอยู่ต่อมา ฟังไม่ได้ว่าเป็นการเช่าแล้วพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ซึ่งใช้อยู่ในขณะนั้นย่อมไม่คุ้มครองจำเลย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ไม่ได้คุ้มครองถึงการเรียกร้องค่าเสียหายไว้แต่ประการใด
of 46