พบผลลัพธ์ทั้งหมด 452 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1286/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครอง และผลของการเป็นสามีภรรยาไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อการอ้างอายุความ
ที่พิพาทเป็นที่ดินมีโฉนด แม้สามีโจทก์ซึ่งตายไปแล้วและโจทก์จะได้รับมรดกและครอบครองมาเกิน 1 ปี แต่เมื่อยังครอบครองไม่ถึง 10 ปี โจทก์ก็ยังไม่ได้กรรมสิทธิ์และเมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้เป็นภรรยาโดยชอยด้วยกฎหมายด้วย โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะยกอายุความมรดก 1 ปีอ้างยันต่อจำเลยซึ่งเป็นทายาทของเจ้ามรดกได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลีกเลี่ยงการรับราชการทหาร: ฟ้องไม่สมบูรณ์หากไม่แสดงการออกหมายนัดและจำเลยรับทราบ
ความผิดฐานหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้ารับราชากรทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 45 นั้น ต้องเป็นการหลีกเลี่ยงขัดขืนหมายนัดของนายอำเภอตามมาตรา 34 ฉะนั้นองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 45 จึงประกอบด้วยนายอำเภอออกหมายนัด จำเลยรับหมายแล้ว กับการขัดขืนหมายนั้น
โจทย์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นทหารกองเกินซึ่งได้รับการตรวจเลือกจากคณะกรรมการเพื่อเข้ารับราชการทหาร โดยถูกกำหนดตัวเป็นรุ่นที่ 6 ที่จะต้องมารายงานตัวเพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ แต่ไม่ได้มารายงานตนตามวันเวลาที่กำหนด ดังนี้คำบรรยายฟ้องไม่แสดงว่า การกำหนดได้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย เพราะไม่ปรากฏว่านายอำเภอได้ออกหมายนัดและจำเลยได้รับแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
โจทย์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นทหารกองเกินซึ่งได้รับการตรวจเลือกจากคณะกรรมการเพื่อเข้ารับราชการทหาร โดยถูกกำหนดตัวเป็นรุ่นที่ 6 ที่จะต้องมารายงานตัวเพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ แต่ไม่ได้มารายงานตนตามวันเวลาที่กำหนด ดังนี้คำบรรยายฟ้องไม่แสดงว่า การกำหนดได้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย เพราะไม่ปรากฏว่านายอำเภอได้ออกหมายนัดและจำเลยได้รับแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1220/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหลีกเลี่ยงขัดขืนการเข้ารับราชการทหารต้องมีหมายนัดของนายอำเภอและจำเลยต้องได้รับหมายนัดแล้ว
ความผิดฐานหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้ารับราชการทหารกองประจำการตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตรา 45 นั้นต้องเป็นการหลีกเลี่ยงขัดขืนหมายนัดของนายอำเภอตามมาตรา 34 ฉะนั้นองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 45 จึงประกอบด้วยนายอำเภอออกหมายนัด จำเลยรับหมายแล้ว กับการขัดขืนหมายนั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นทหารกองเกินซึ่งได้รับการตรวจเลือกจากคณะกรรมการเพื่อเข้ารับราชการทหาร โดยถูกกำหนดตัวเป็นรุ่นที่ 6 ที่จะต้องมารายงานตัวเพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ แต่ไม่ได้มารายงานตนตามวันเวลาที่กำหนด ดังนี้คำบรรยายฟ้องไม่แสดงว่า การกำหนดได้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายเพราะไม่ปรากฏว่านายอำเภอได้ออกหมายนัดและจำเลยได้รับแล้วไม่เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยเป็นทหารกองเกินซึ่งได้รับการตรวจเลือกจากคณะกรรมการเพื่อเข้ารับราชการทหาร โดยถูกกำหนดตัวเป็นรุ่นที่ 6 ที่จะต้องมารายงานตัวเพื่อเข้ารับราชการทหารกองประจำการ แต่ไม่ได้มารายงานตนตามวันเวลาที่กำหนด ดังนี้คำบรรยายฟ้องไม่แสดงว่า การกำหนดได้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายเพราะไม่ปรากฏว่านายอำเภอได้ออกหมายนัดและจำเลยได้รับแล้วไม่เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้เงินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แม้มีข้อตกลงดอกเบี้ยเกินอัตราก็ไม่ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญากู้เงินตามสำเนาสัญญากู้ท้ายฟ้องจำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์จริง เป็นแต่ต่อสู้ว่าคู่สัญญาตกลงกันให้ชำระเป็นข้าวเปลือก ได้ความเช่นนี้คดีจึงฟังได้ว่าจำเลยกู้เงินโจทก์โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือจริงตามฟ้อง ไม่จำต้องอาศัยฟังเอกสาร
การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แม้จะเป็นโมฆะแต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเป็นส่วนที่แยกออกจากการที่จำเลยกู้เงินโจทก์ซึ่งเป็นส่วนที่สมบูรณ์แล้วนั้นได้ การกู้เงินหาตกเป็นโมฆะด้วยไม่
การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แม้จะเป็นโมฆะแต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่าเป็นส่วนที่แยกออกจากการที่จำเลยกู้เงินโจทก์ซึ่งเป็นส่วนที่สมบูรณ์แล้วนั้นได้ การกู้เงินหาตกเป็นโมฆะด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1188/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้เงินสมบูรณ์ แม้มีข้อตกลงดอกเบี้ยเกินอัตรา และจำเลยไม่ได้ชำระหนี้ด้วยข้าวเปลือก
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญากู้เงินตามสำเนาสัญญากู้ท้ายฟ้อง จำเลยให้การรับว่าได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์จริง เป็นแต่ต่อสู้ว่าคู่สัญญาตกลงกันให้ชำระเป็นข้าวเปลือกได้ความเช่นนี้คดีจึงฟังได้ว่าจำเลยกู้เงินโจทก์โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือจริงตามฟ้อง ไม่จำต้องอาศัยฟังเอกสาร
การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แม้จะเป็นโมฆะแต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่า เป็นส่วนที่แยกออกจากการที่จำเลยกู้เงินโจทก์ ซึ่งเป็นส่วนที่สมบูรณ์แล้วนั้นได้ การกู้เงินหาตกเป็นโมฆะด้วยไม่
การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา แม้จะเป็นโมฆะแต่ก็เป็นที่เห็นได้ว่า เป็นส่วนที่แยกออกจากการที่จำเลยกู้เงินโจทก์ ซึ่งเป็นส่วนที่สมบูรณ์แล้วนั้นได้ การกู้เงินหาตกเป็นโมฆะด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากความประมาทเลินเล่อ: การเปิดน้ำทิ้งไว้ทำให้น้ำท่วมและเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่น
เปิดก๊อกน้ำในห้องของตนแล้วลืมปิด เป็นเหตุให้น้ำท่วมพื้นห้องแล้วซึมไหลเข้าไปในห้องของบุคคลอื่นซึ่งติดต่อกันและใช้ผนังห้องร่วมกันทำให้ข้าวของของเขาและผนังห้องเสียหาย ถือว่าเป็นผลเกิดจากความประมาทจึงเป็นการละเมิดที่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1177/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากความประมาทเลินเล่อ การเปิดน้ำท่วมห้องผู้อื่นทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ผู้เปิดน้ำต้องรับผิด
เปิดก๊อกน้ำในห้องตนแล้วลืมปิด เป็นเหตุให้น้ำท่วมพื้นห้องแล้วซึมไหลเข้าไปในห้องของบุคคลอื่นซึ่งติดต่อกันและใช้ผนังห้องร่วมกันทำให้ข้าวของของเขาและผนังห้องเสียหาย ถือว่าเป็นผลเกิดจากความประมาท จึงเป็นการละเมิดที่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1167/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือแจ้งข้อเท็จจริงของเจ้าพนักงาน ไม่ใช่การข่มขู่หรือละเมิดสิทธิ แม้จะส่งผลให้ใบอนุญาตสิ้นสุด
ฟ้องว่าเจ้าพนักงานการพิมพ์มีหนังสือถึงโจทก์ใจความว่า หนังสือพิมพ์ของโจทก์ไม่ได้พิมพ์ออกโฆษณาและจำหน่ายติดต่อกันเป็นระยะเวลา 30 วัน ใบอนุญาตของโจทก์สิ้นสุดลงตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 จึงเรียนมาเพื่อทราบ เป็นการข่มขู่โจทก์มิให้พิมพ์โฆษณาหนังสือพิมพ์ของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนหนังสือดังกล่าวของโจทก์ดังนี้ หนังสือที่จำเลยมีถึงโจทก์เพียงแต่แจ้งข้อเท็จจริงตามความเข้าใจของจำเลยให้โจทก์ทราบ เพื่อจะได้ไม่ปฏิบัติผิดกฎหมายขึ้น ไม่เป็นการข่มขู่หรือกระทบกระเทือนสิทธิของโจทก์ศาลย่อมไม่รับฟัองของโจทก์ไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1167/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือแจ้งข้อเท็จจริงจากเจ้าพนักงานการพิมพ์ ไม่ถือเป็นการข่มขู่หรือละเมิดสิทธิ โจทก์ยังสามารถใช้สิทธิได้
ฟ้องว่าเจ้าพนักงานการพิมพ์มีหนังสือถึงโจทก์ใจความว่าหนังสือพิมพ์ของโจทก์ไม่ได้พิมพ์ออกโฆษณาและจำหน่ายติดต่อกัน เป็นระยะเวลา 30 วันใบอนุญาตของโจทก์สิ้นสุดลงตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 จึงเรียนมาเพื่อทราบเป็นการข่มขู่โจทก์มิให้พิมพ์โฆษณาหนังสือพิมพ์ของโจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนหนังสือดังกล่าวของโจทก์ ดังนี้หนังสือที่จำเลยมีถึงโจทก์ เพียงแต่แจ้งข้อเท็จจริงตามความเข้าใจของจำเลยให้โจทก์ทราบ เพื่อจะได้ไม่ปฏิบัติผิดกฎหมายขึ้น ไม่เป็นการข่มขู่หรือกระทบกระเทือนสิทธิของโจทก์ ศาลย่อมไม่รับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1145/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเอาที่ดินใช้หนี้เงินกู้ที่จำนองเป็นประกัน ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 656 วรรคสอง โจทก์ไม่อาจบังคับให้โอนกรรมสิทธิ์ได้
หนังสือสัญญามีข้อความกล่าวเท้าถึงการจำนองที่โจทก์จำเลยทำกันไว้แต่เดิม จึงเห็นได้ว่า คู่กรณียังรับรองสัญญาจำนองที่ทำไว้เดิมแม้สัญญาจำนองจะมีกำหนดไถ่ถอนคืนกันภายใน 3 ปี เมื่อครบกำหนดโจทก์ยังมิได้ใช้สิทธิบังคับจำนอง ข้อความตามสัญญาฉบับหลังมีความว่าข้าพเจ้านายเวสขอทำสัญญารับเงินเพิ่มให้นายขาวซึ่งเป็นผู้รับจำนองที่ดินนาและสวนไว้ และมีข้อความยืนยันเพิ่มต่อไปในข้อ 1 แห่งสัญญาว่า'ขอรับเงินเพิ่มอีก 3,768 บาท' และยังมีข้อสัญญาต่อไปอีกว่า ยอมให้จำเลยนำเงินที่จำนองเดิมกับเงินที่รับเพิ่มไปใหม่อีก 3,768 บาท มาใช้คืนแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับจำนองได้ต่อไปอีกภายใน 2 ปี แสดงว่าโจทก์ยินยอมให้จำเลยซึ่งเป็นผู้จำนองเอาเงินมาไถ่คืนไปได้ หาใช่ว่าจำเลยยอมตกลงจะขายที่ดินที่จำนองให้แก่โจทก์แต่อย่างเดียวไม่และข้อ 2 แห่งสัญญายังมีข้อความอีกว่า ให้ท่าน(โจทก์) เข้าครอบครองเก็บผลไม้ในสวนและทำนาแทนดอกเบี้ยและเงินเพิ่มต่อไป อันเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเลยมอบที่ดินให้ไว้เพื่อเป็นประกันเงิน ที่รับไปโดยการจำนอง
การเอาที่ดินใช้หนี้เงินกู้ที่จำนองเป็นประกัน ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง ผู้รับจำนองจึงไม่อาจขอให้บังคับผู้จำนองให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่จำนองไว้นั้นได้
การเอาที่ดินใช้หนี้เงินกู้ที่จำนองเป็นประกัน ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 656 วรรคสอง ผู้รับจำนองจึงไม่อาจขอให้บังคับผู้จำนองให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่จำนองไว้นั้นได้