พบผลลัพธ์ทั้งหมด 452 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกร้องหนี้จากสัญญาจะซื้อขายที่ดินที่ถูกเพิกถอนสิทธิ โดยการไม่อุทธรณ์ถือเป็นการยอมรับหนี้
กรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการไม่ยอมรับสิทธิตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินระหว่างลูกหนี้ผู้ล้มละลายกับผู้ขายตามอำนาจในมาตรา 122 และดำเนินการเรียกร้องเงินค่าที่ดินที่ผู้ขายได้รับไว้จากลูกหนี้คือตามอำนาจในมาตรา 119 เมื่อดำเนินการมาจนถึงขั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีหนังสือยืนยันหนี้ให้ผู้ขายคืนเงินค่าที่ดินและแจ้งให้ผู้ขายร้องคัดค้านต่อศาลภายในกำหนดเวลาสิบสี่วัน แต่ผู้ขายมิได้ร้องคัดค้านต่อศาลแต่อย่างใด ดังนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำขอต่อศาลขอให้บังคับผู้ขายชำระหนี้เงินค่าที่ดินดังกล่าว ศาลก็ต้องมีคำสั่งบังคับไปตามคำขอ ไม่มีปัญหาที่ศาลจะต้องวินิจฉัยว่า เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีสิทธิเรียกร้องเงินค่าที่ดินคืนจากผู้ขายหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายเพื่อตีใช้หนี้เงินกู้ การชำระหนี้บางส่วน และสิทธิในการอายัดทรัพย์
จำเลยกู้เงินโจทก์แล้วต่อมาจำเลยตกลงจะขายที่พิพาทให้โจทก์หักหนี้เงินกู้กับราคาที่พิพาท และให้ถือว่าเงินที่จำเลยกู้ไปเป็นเงินที่โจทก์จ่ายให้จำเลยเป็นค่าที่ดินล่วงหน้าบางส่วน และโจทก์จะจ่ายเงินค่าที่พิพาทให้จำเลยในวันที่ไปทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันที่อำเภออีก 500 บาทด้วย ดังนี้ เป็นสัญญาจะซื้อจะขายและมีการชำระค่าที่ดินบางส่วนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงซื้อขายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ โดยถือว่าเงินกู้เป็นค่าที่ดินล่วงหน้า ถือเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่มีการชำระหนี้บางส่วนแล้ว
จำเลยกู้เงินโจทก์แล้วต่อมาจำเลยตกลงจะขายที่พิพาทให้โจทก์หักหนี้เงินกู้กับราคาที่พิพาท และให้ถือว่าเงินที่จำเลยกู้ไปเป็นเงินที่โจทก์จ่ายให้จำเลยเป็นค่าที่ดินล่วงหน้าบางส่วน และโจทก์จะจ่ายเงินค่าที่พิพาทให้จำเลยในวันที่ไปทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันที่อำเภออีก 500 บาทด้วย ดังนี้ เป็นสัญญาจะซื้อจะขายและมีการชำระค่าที่ดินบางส่วนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความรุนแรงเพื่อป้องกันสิทธิและข่มเหงน้ำใจ: การป้องกันตัวที่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ขึ้นไปบนรถจำเลยและพยายามให้ผู้โดยสารซึ่งซื้อตั๋วรถจำเลยแล้วไปโดยสารรถโจทก์ จำเลยขัดขวางมิให้ผู้โดยสารไปกับรถโจทก์โจทก์ใช้มือผลักอกจำเลยและใช้มีดแทงจำเลยใช้มือปัดแขนโจทก์พร้อมกับเอี้ยวตัวหลบ มีดจึงไม่ถูกจำเลย แล้วจำเลยจึงใช้มีดแทงโจทก์ไป 1 ที ถูกที่สีข้างด้านขวาในขณะที่โจทก์เซเอี้ยวไปทางซ้ายการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการป้องกันสิทธิพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย: การแทงตอบโต้เพื่อป้องกันการถูกทำร้ายและการขัดขวางโดยมิชอบ
โจทก์ขึ้นไปบนรถจำเลยและพยายามให้ผู้โดยสารซึ่งซื้อตั๋วรถจำเลยแล้วไปโดยสารรถโจทก์ จำเลยขัดขวางมิให้ผู้โดยสารไปกับรถโจทก์โจทก์ใช้มือผลักอกจำเลยและใช้มีดแทงจำเลยใช้มือปัดแขนโจทก์พร้อมกับเอี้ยวตัวหลบ มีดจึงไม่ถูกจำเลย แล้วจำเลยจึงใช้มีดแทงโจทก์ไป 1 ที ถูกที่สีข้างด้านขวาในขณะที่โจทก์เซเอี้ยวไปทางซ้ายการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการป้องกันสิทธิพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยจึงไม่มีความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาไม่ขัดกับข้อห้ามอายัดซ้ำ หากมีการอายัดโดยเจ้าหนี้ตามคำพิพากษามาก่อน
กรณีอายัดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 ไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้อายัดทรัพย์ซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายัดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาไม่ขัดแย้งกับการอายัดทรัพย์ตามคำพิพากษา
กรณีอายัดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 254 ไม่ต้องด้วยข้อห้ามมิให้อายัดทรัพย์ซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1893-1894/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการเดินรถโดยสารทำให้เกิดความรับผิดร่วมกันในความเสียหายที่เกิดจากลูกจ้าง
รถคันเกิดเหตุเป็นรถที่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ใช้วิ่งร่วมกับจำเลยที่ 3 รับส่งคนโดยสาร โดยทาสีเป็นสีเดียวกับรถของจำเลยที่ 3 มีตราของจำเลยที่ 3 และอักษรย่อ บ.ข.ส. ติดที่ข้างรถและต้องเสียค่าขาหรือค่าออกรถให้จำเลยที่ 3 การออกรถจากสถานีมีนายสถานีคนของจำเลยที่ 3 กำหนดเวลาให้ออก ถือว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกิจการเดินรถกับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และถือได้ว่าเป็นกิจการของจำเลยที่ 3 ด้วย น. คนขับรถคันเกิดเหตุซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ย่อมจะต้องเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 ด้วย เมื่อ น. กระทำการละเมิด จำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1893-1894/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือเดินรถโดยสารทำให้บริษัทผู้ประกอบการต้องรับผิดร่วมกับผู้ขับขี่ในความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุ
รถคันเกิดเหตุเป็นของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งใช้วิ่งร่วมกับจำเลยที่ 3รับส่งคนโดยสาร โดยทาสีเป็นสีเดียวกับรถของจำเลยที่ 3 มีตราและอักษรย่อของจำเลยที่ 3 ติดที่ข้างรถ และต้องเสียเงินค่าขาหรือค่าออกรถให้จำเลยที่ 3 โดยมีนายสถานีซึ่งเป็นคนของจำเลยที่ 3 กำหนดเวลาให้ออกรถ ถือว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกิจการเดินรถกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 และเป็นกิจการของจำเลยที่ 3 ด้วย คนขับรถคันเกิดเหตุซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ย่อมจะต้องเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 3 ด้วย จำเลยที่ 3จึงต้องร่วมรับผิดในการละเมิดของคนขับรถนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1833/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการละเมิดอำนาจศาล: การเบิกความของพยานที่ตอบคำถามตามการนำสืบของคู่ความ ไม่ถือว่าก้าวร้าว เสียดสี ดูหมิ่นศาล
แม้คำเบิกความของพยานจะมีข้อความหมายให้เห็นไปในทำนองเสียดสีดูหมิ่นศาล แต่เมื่อข้อความตามคำเบิกความของพยานเกิดขึ้นจากการตอบคำถามของศาลหรือของโจทก์จำเลยอันเป็นประเด็นที่คู่ความนำสืบกันมาในคดี ดังนี้ จะถือว่าพยานถือโอกาสเบิกความก้าวร้าว เสียดสีดูหมิ่นศาลเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลยังไม่ได้พยานจึงยังไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล