พบผลลัพธ์ทั้งหมด 390 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องการรับฝากข้าวเปลือก จำเลยนำไปขายเอง โจทก์มีสิทธิเรียกร้องราคาข้าวเปลือกที่ยังขาดอยู่ อายุความ 10 ปี
คำฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม.
จำเลยรับฝากข้าวเปลือกของโจทก์ไว้เพื่อโจทก์จะได้เป็นผู้ขายตามราคาที่กำหนด. แต่จำเลยเอาข้าวเปลือกไปขายเสีย. จำเลยจึงต้องใช้ราคาข้าวเปลือกให้แก่โจทก์ อายุความที่จะใช้สิทธิเรียกร้องมีกำหนด 10 ปี.
จำเลยรับฝากข้าวเปลือกของโจทก์ไว้เพื่อโจทก์จะได้เป็นผู้ขายตามราคาที่กำหนด. แต่จำเลยเอาข้าวเปลือกไปขายเสีย. จำเลยจึงต้องใช้ราคาข้าวเปลือกให้แก่โจทก์ อายุความที่จะใช้สิทธิเรียกร้องมีกำหนด 10 ปี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องไม่เคลือบคลุม – การรับฝากข้าวเปลือก – อายุความ 10 ปี – จำเลยขายข้าวแทนโจทก์
คำฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
จำเลยรับฝากข้าวเปลือกของโจทก์ไว้เพื่อโจทก์จะได้เป็นผู้ขายตามราคาที่กำหนด แต่จำเลยเอาข้าวเปลือกไปขายเสีย จำเลยจึงต้องใช้ราคาข้าวเปลือกให้แก่โจทก์ อายุความที่จะใช้สิทธิเรียกร้องมีกำหนด 10 ปี
จำเลยรับฝากข้าวเปลือกของโจทก์ไว้เพื่อโจทก์จะได้เป็นผู้ขายตามราคาที่กำหนด แต่จำเลยเอาข้าวเปลือกไปขายเสีย จำเลยจึงต้องใช้ราคาข้าวเปลือกให้แก่โจทก์ อายุความที่จะใช้สิทธิเรียกร้องมีกำหนด 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่ม แม้ศาลเลื่อนนัดสืบพยาน
ศาลชั้นต้นได้กำหนดให้โจทก็นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระก่อนวันที่ 26 มกราคม 2509 และให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 16 มีนาคม 2509 วันที่ 1 มีนาคม 2509 โจทก์ขอเลื่อนสืบพยานและศาลอนุญาต การที่ศาลอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานไปก็ดี เลื่อนนัดพร้อมไปก็ดี เลื่อนนัดพร้อมไปก็ดี มิได้หมายถึงให้เลื่อนการชำระเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มด้วย เมื่อโจทก์เพิกเฉยไม่นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระค่าขึ้นศาลขึ้นด้วย เมื่อโจทก์เพิกเฉยไม่นำเงินขึ้นศาลเพิ่มมาชำระต่อศาลภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้ โดยโจทก์ทราบคำสั่งแล้ว จึงถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลให้ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มเติมถือเป็นการทิ้งฟ้องตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นได้กำหนดให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระก่อนวันที่ 26 มกราคม 2509 และให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 16 มีนาคม 2509 วันที่ 1 มีนาคม 2509 โจทก์ขอเลื่อนสืบพยานและศาลอนุญาตการที่ศาลอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานไปก็ดี เลื่อนนัดพร้อมไปก็ดี มิได้หมายถึงให้เลื่อนการชำระเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มด้วยเมื่อโจทก์เพิกเฉยไม่นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระต่อศาลภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้โดยโจทก์ทราบคำสั่งแล้ว จึงถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกเฉยต่อคำสั่งศาลให้ชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มเติม ทำให้ถือว่าทิ้งฟ้องตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นได้กำหนดให้โจทก์นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระก่อนวันที่ 26 มกราคม 2509 และให้นัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 16 มีนาคม 2509. วันที่ 1 มีนาคม 2509 โจทก์ขอเลื่อนสืบพยานและศาลอนุญาต. การที่ศาลอนุญาตให้เลื่อนสืบพยานไปก็ดี. เลื่อนนัดพร้อมไปก็ดี มิได้หมายถึงให้เลื่อนการชำระเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มด้วย. เมื่อโจทก์เพิกเฉยไม่นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาชำระต่อศาลภายในเวลาที่ศาลได้กำหนดไว้. โดยโจทก์ทราบคำสั่งแล้ว จึงถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับพยานหลักฐานทางอ้อมและการเพิ่มโทษอาชญากรจากประวัติอาชญากรรม
แม้จำเลยจะมิได้ให้การรับในข้อต้องโทษ และพ้นโทษในวันที่ศาลสอบคำให้การจำเลย แต่ก็ได้ปรากฏจากคำเบิกความของจำเลยซึ่งได้อ้างตัวเองเป็นพยานต่อศาลว่าจำเลยเคยต้องโทษตามฟ้องจริง คำว่า ตามฟ้อง นั้นต้องหมายความถึงวันพ้นโทษของจำเลยด้วย เพราะโจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องแล้วว่า จำเลยพ้นโทษมา และยังได้ท้าวถึงประวัติอาชญากรซึ่งโจทก์ส่งมาเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องอีก ฉะนั้น เมื่อจำเลยรับว่าเคยต้องโทษต้องฟ้องจริง ก็เท่ากับจำเลยรับให้ข้อพ้นโทษในคดีก่อนด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในคดีอาญา: ผลกระทบต่อการเพิ่มโทษจากประวัติอาชญากร
แม้จำเลยจะมิได้ให้การรับในข้อต้องโทษ และพ้นโทษในวันที่ศาลสอบคำให้การจำเลย แต่ก็ได้ปรากฏจากคำเบิกความของจำเลยซึ่งได้อ้างตัวเองเป็นพยานต่อศาลว่าจำเลยเคยต้องโทษตามฟ้องจริง. คำว่า ตามฟ้อง นั้นต้องหมายความถึงวันพ้นโทษของจำเลยด้วย. เพราะโจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องแล้วว่าจำเลยพ้นโทษมา และยังได้ท้าวถึงประวัติอาชญากรซึ่งโจทก์ส่งมาเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องอีก. ฉะนั้น เมื่อจำเลยรับว่าเคยต้องโทษตามฟ้องจริง ก็เท่ากับจำเลยรับในข้อพ้นโทษในคดีก่อนด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับคำให้การที่ขยายความถึงประวัติอาชญากรรมของจำเลย ศาลพิจารณาเพิ่มโทษได้ตามกฎหมาย
แม้จำเลยจะมิได้ให้การรับในข้อต้องโทษ และพ้นโทษในวันที่ศาลสอบคำให้การจำเลย แต่ก็ได้ปรากฏจากคำเบิกความของจำเลยซึ่งได้อ้างตัวเองเป็นพยานต่อศาลว่าจำเลยเคยต้องโทษตามฟ้องจริงคำว่า ตามฟ้อง นั้นต้องหมายความถึงวันพ้นโทษของจำเลยด้วยเพราะโจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องแล้วว่าจำเลยพ้นโทษมา และยังได้ท้าวถึงประวัติอาชญากรซึ่งโจทก์ส่งมาเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องอีกฉะนั้น เมื่อจำเลยรับว่าเคยต้องโทษตามฟ้องจริง ก็เท่ากับจำเลยรับในข้อพ้นโทษในคดีก่อนด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเสียหายต่อทรัพย์สินจากการจัดการทรัพย์ของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ไม่จำกัดเฉพาะประโยชน์ที่ได้จากการจัดการ
การมอบหมายให้จัดการทรัพย์ของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 353 นั้น. หาจำต้องเป็นการมอบหมายให้จัดการเพื่อหาหรือให้ได้ประโยชน์อย่างใดเสมอไปไม่. ฉะนั้น ประโยชน์ที่เกิดการเสียหายจึงมิใช่เพียงประโยชน์อันได้จากการจัดการทรัพย์เท่านั้น. แต่อาจเป็นประโยชน์อื่นใดก็ได้.ซึ่งข้อสำคัญมีเพียงว่า ประโยชน์ที่เกิดการเสียหายนั้นจะต้องเป็นประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของเจ้าของทรัพย์เท่านั้น. โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่า ยางรถโจทก์เสียหาย เพลาเครื่องยนต์ ตัวถัง จะต้องซ่อมแซมรวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 35,000 บาท. เป็นการแสดงให้เห็นได้ว่าความเสียหายในตัวทรัพย์ของโจทก์ที่ได้รับล้วนเป็นประโยชน์ของโจทก์ที่เป็นเงินอันอยู่ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของโจทก์ทั้งสิ้น. หาใช่เป็นเพียงการทำให้ทรัพย์ของโจทก์เสียหายเท่านั้นไม่. เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยครบถ้วนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 แล้ว. ศาลชั้นต้นก็ต้องทำการไต่สวนมูลฟ้อง แล้วสั่งไปตามกระบวนความ.(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1-2/2511).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 196/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายจัดการทรัพย์สิน การเสียหายต้องเป็นประโยชน์ในลักษณะทรัพย์สิน ศาลต้องไต่สวนมูลฟ้อง
การมอบหมายให้จัดการทรัพย์ของผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 353 นั้น หาจำต้องเป็นการมอบหมายให้จัดการเพื่อหาหรือให้ได้ประโยชน์อย่างใดเสมอไปไม่ฉะนั้น ประโยชน์ที่เกิดการเสียหายจึงมิใช่เพียงประโยชน์อันได้จากการจัดการทรัพย์เท่านั้นแต่อาจเป็นประโยชน์อื่นใดก็ได้ซึ่งข้อสำคัญมีเพียงว่า ประโยชน์ที่เกิดการเสียหายนั้นจะต้องเป็นประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของเจ้าของทรัพย์เท่านั้น โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่า ยางรถโจทก์เสียหาย เพลาเครื่องยนต์ ตัวถังจะต้องซ่อมแซมรวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 35,000 บาท เป็นการแสดงให้เห็นได้ว่าความเสียหายในตัวทรัพย์ของโจทก์ที่ได้รับล้วนเป็นประโยชน์ของโจทก์ที่เป็นเงินอันอยู่ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของโจทก์ทั้งสิ้นหาใช่เป็นเพียงการทำให้ทรัพย์ของโจทก์เสียหายเท่านั้นไม่เมื่อโจทก์บรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยครบถ้วนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 แล้ว ศาลชั้นต้นก็ต้องทำการไต่สวนมูลฟ้อง แล้วสั่งไปตามกระบวนความ(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1-2/2511)