พบผลลัพธ์ทั้งหมด 390 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: การกระทำที่อาจเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้กระสุนไม่ลั่น
ในกรณีที่จำเลยใช้ปืนซึ่งเคยรู้มาก่อนแล้วว่ากระสุนอาจจะลั่นได้ยิงผู้เสียหาย แต่กระสุนปืนไม่ลั่น ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 มิใช่ 288, 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 711/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่า: แม้ปืนไม่ลั่น ก็มีความผิดฐานพยายามฆ่า หากรู้ว่ากระสุนอาจลั่นได้
ในกรณีที่จำเลยใช้ปืนซึ่งเคยรู้มาก่อนแล้วว่ากระสุนอาจจะลั่นได้ยิงผู้เสียหาย แต่กระสุนปืนไม่ลั่น ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 มิใช่ 288, 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 684/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิจำนองหลังการขายทอดตลาด: คำร้องพ้นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย
การขอหักเงินที่ได้มาจากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อเอาเงินชำระต้นเงินและดอกเบี้ยอันเกิดจากการจำนองเป็นกรณีใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 ซึ่งวรรคสองกำหนดระยะเวลาให้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอเข้ามาภายหลังจากที่ได้ขายทอดตลาดทรัพย์นั้นไปเสร็จสิ้นแล้ว ชอบที่ศาลจะต้องยกคำร้องเพราะเป็นคำร้องขอที่ยื่นมาพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 684/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิจำนองหลังขายทอดตลาด: ผู้ร้องยื่นคำร้องพ้นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย
การขอหักเงินที่ได้มาจากการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อเอาเงินชำระต้นเงินและดอกเบี้ยอันเกิดจากการจำนองเป็นกรณีใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289ซึ่งวรรค 2 กำหนดระยะเวลาให้ผู้ร้องยื่นคำร้องขอก่อนเอาทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาด เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอเข้ามาภายหลังจากที่ได้ขายทอดตลาดทรัพย์นั้นไปเสร็จสิ้นแล้ว ชอบที่ศาลจะต้องยกคำร้องเพราะเป็นคำร้องขอที่ยื่นมาพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 289 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเทศบาลสั่งรื้ออาคารต้องพิจารณาตัวอาคารที่ชำรุดทรุดโทรมจริง มิใช่แค่บริเวณที่ดูไม่น่าดู
อำนาจของเทศบาลที่จะสั่งรื้อและดำเนินการรื้อถอนอาคารที่ชำรุดทรุดโทรมหรืออยู่ในสภาพอันเป็นที่น่ารังเกียจและไม่อาจแก้ไขได้ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองพ.ศ. 2503 นั้น หมายความถึงตัวอาคารชำรุดทรุดโทรมหรืออยู่ในสภาพอันเป็นที่น่ารังเกียจและไม่อาจแก้ไขได้ มิใช่หมายความถึงบริเวณ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าอาคารของโจทก์ยังไม่ชำรุดทรุดโทรม เป็นแต่ตั้งปะปนอยู่กับอาคารอื่นเมื่อรื้ออาคารอื่นแล้วทำให้เกิดที่ว่างคั่นอาคารของโจทก์ ทำให้มีสภาพไม่น่าดูเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นเหตุให้อาคารของโจทก์ตกเป็นอาคารที่อยู่ในสภาพอันเป็นที่น่ารังเกียจและไม่อาจแก้ไขได้ เช่นนี้ เทศบาลจึงจะใช้อำนาจตามมาตรา 12 แห่งกฎหมายดังกล่าวมาบังคับไม่ได้
เมื่ออาคารของโจทก์ไม่อยู่ในลักษณะที่เทศบาลจะใช้อำนาจตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2503 บังคับได้ การที่เทศบาลสั่งรื้อและดำเนินการรื้อถอนอาคารของโจทก์เอง โดยโจทก์ไม่ยินยอมจึงเป็นการละเมิด
เมื่ออาคารของโจทก์ไม่อยู่ในลักษณะที่เทศบาลจะใช้อำนาจตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2503 บังคับได้ การที่เทศบาลสั่งรื้อและดำเนินการรื้อถอนอาคารของโจทก์เอง โดยโจทก์ไม่ยินยอมจึงเป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 598/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เทศบาลใช้อำนาจสั่งรื้ออาคารชำรุดไม่ได้ หากอาคารยังมั่นคงแข็งแรง และสภาพแวดล้อมโดยรวมไม่น่ารังเกียจ
อำนาจของเทศบาลที่จะสั่งรื้อและดำเนินการรื้อถอนอาคารที่ชำรุดทรุดโทรมหรืออยู่ในสภาพอันเป็นที่น่ารังเกียจ และไม่อาจแก้ไขได้ ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองพ.ศ. 2503 นั้น หมายความถึงตัวอาคารชำรุดทรุดโทรมหรืออยู่ในสภาพอันเป็นที่น่ารังเกียจและไม่อาจแก้ไขได้ มิใช่หมายความถึงบริเวณ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า อาคารของโจทก์ยังไม่ชำรุดทรุดโทรม เป็นแต่ตั้งปะปนอยู่กับอาคารอื่นเมื่อรื้ออาคารอื่นแล้วทำให้เกิดที่ว่างคั่นอาคารของโจทก์ ทำให้มีสภาพไม่น่าดูเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นเหตุให้อาคารของโจทก์ตกเป็นอาคารที่อยู่ในสภาพอันเป็นที่น่ารังเกียจและไม่อาจแก้ไขได้ เช่นนี้ เทศบาลจึงจะใช้อำนาจตามมาตรา 12 แห่งกฎหมายดังกล่าวมาบังคับไม่ได้
เมื่ออาคารของโจทก์ไม่อยู่ในลักษณะที่เทศบาลจะใช้อำนาจตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2503 บังคับได้ การที่เทศบาลสั่งรื้อและดำเนินการรื้อถอนอาคารของโจทก์เอง โดยโจทก์ไม่ยินยอมจึงเป็นการละเมิด
เมื่ออาคารของโจทก์ไม่อยู่ในลักษณะที่เทศบาลจะใช้อำนาจตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2503 บังคับได้ การที่เทศบาลสั่งรื้อและดำเนินการรื้อถอนอาคารของโจทก์เอง โดยโจทก์ไม่ยินยอมจึงเป็นการละเมิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแย้งของตัวแทนที่ไม่ได้รับมอบอำนาจ: ตัวแทนย่อมไม่มีอำนาจฟ้องแย้งแทนตัวการหากไม่มีใบมอบอำนาจ
จำเลยเป็นเพียงตัวแทนของบริษัทยิบอินซอย จำกัด และฟ้องแย้งโดยไม่ปรากฏว่ามีใบมอบอำนาจจากบริษัทดังกล่าว จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องแย้งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องแย้งของตัวแทนที่ไม่มีใบมอบอำนาจ: ตัวแทนย่อมไม่มีอำนาจฟ้องแย้งแทนตัวการ
จำเลยเป็นเพียงตัวแทนของบริษัทยิบอินซอย จำกัด และฟ้องแย้งโดยไม่ปรากฏว่ามีใบมอบอำนาจจากบริษัทดังกล่าว จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องแย้งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทที่ดิน: การฟ้องร้องไม่ชัดเจนและราคาที่ดินต่ำกว่าเกณฑ์อุทธรณ์
ที่ดินที่โจทก์จำเลยพิพาทกันมิใช่ทั้งแปลงดังที่โจทก์ฟ้อง คงพิพาทกันเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อที่ทั้งหมด และส่วนนี้แม้จะไม่ได้ความตามท้องสำนวนว่าเป็นเนื้อที่เท่าไร และศาลชั้นต้นไม่ได้ให้คู่ความตีราคาที่พิพาทใหม่ก็ตามก็คำนวณเอาจากมาตราส่วนในแผนที่วิวาทได้ว่าที่ดินที่พิพาทกันเนื้อที่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของที่ที่โจทก์ฟ้องทั้งหมด ส่วนราคาของที่พิพาทนั้นเมื่อรวมค่าเสียหายอีก 300 บาท ก็ไม่เกินห้าพันบาท เพราะที่ของโจทก์ 10 ไร่1 งาน โจทก์ตีราคามาเพียง 5,125 บาท คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นก็เพียงแก้ไขเล็กน้อย โจทก์จึงฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดิน: เนื้อที่พิพาทน้อยกว่าที่ฟ้อง และราคาไม่เกินเกณฑ์ ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ที่ดินที่โจทก์จำเลยพิพาทกันมิใช่ทั้งแปลงดังที่โจทก์ฟ้อง คงพิพาทกันเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อที่ทั้งหมด และส่วนนี้แม้จะไม่ได้ความตามท้องสำนวนว่าเป็นเนื้อที่เท่าไร และศาลชั้นต้นไม่ได้ให้คู่ความตีราคาที่พิพาทใหม่ก็ตามก็คำนวณเอาจากมาตราส่วนในแผนที่วิวาทได้ว่าที่ดินที่พิพาทกันเนื้อที่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของที่ที่โจทก์ฟ้องทั้งหมด ส่วนราคาของที่พิพาทนั้นเมื่อรวมค่าเสียหายอีก 300 บาท ก็ไม่เกินห้าพันบาทเพราะที่ของโจทก์ 10 ไร่1 งาน โจทก์ตีราคามาเพียง 5,125 บาท คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นนั้นก็เพียงแก้ไขเล็กน้อย โจทก์จึงฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้