คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประสม เภกะสุต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 678 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ: การยิงผู้ที่วิ่งหนีโดยไม่มีท่าทีจะหันกลับมาต่อสู้
จำเลยติดตามคนร้ายที่ลักเหล้าไปพบผู้ตายนั่งกินเหล้าอยู่ผู้ตายลุกขึ้นก้าวถอยหลังหนีแล้วควักปืนยิงจำเลย 1 นัด แล้วหันหลังวิ่ง แม้ขณะผู้ตายวิ่งไปได้ราว 3 วาเศษ ผู้ตายจะหักลำกล้องปืนและเอามือล้วงกระเป๋า ซึ่งปรากฏภายหลังว่ามีกระสุนปืนอยู่ในกระเป๋ากางเกงผู้ตาย 4 ลูก แต่ผู้ตายก็มิได้แสดงกิริยาว่าจะหันกลับมาต่อสู้ พอห่างจำเลย 16 - 17 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายขณะผู้ตายกำลังวิ่งหันหลังให้ กระสุนปืนถูกผู้ตายด้านหลังถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: จำเลยยิงผู้ตายขณะวิ่งหนีหลังชักปืน แต่ไม่มีท่าทีหันกลับมาต่อสู้
จำเลยติดตามคนร้ายที่ลักเหล้าไปพบผู้ตายนั่งกินเหล้าอยู่ผู้ตายลุกขึ้นก้าวถอยหลังหนีแล้วควักปืนยิงจำเลย 1 นัด แล้วหันหลังวิ่ง แม้ขณะผู้ตายวิ่งไปได้ราว 3 วาเศษ ผู้ตายจะหักลำกล้องปืนและเอามือล้วงกระเป๋า ซึ่งปรากฏภายหลังว่ามีกระสุนปืนอยู่ในกระเป๋ากางเกงผู้ตาย 4 ลูก แต่ผู้ตายก็มิได้แสดงกิริยาว่าจะหันกลับมาต่อสู้ พอห่างจำเลย 16-17 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายขณะผู้ตายกำลังวิ่งหันหลังให้ กระสุนปืนถูกผู้ตายด้านหลังถึงแก่ความตายดังนี้ เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1921/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ประกันตัวเมื่อไม่สามารถส่งตัวผู้ต้องหาตามสัญญา แม้ผู้เสียหายถอนฟ้อง
ในระหว่างประกัน ผู้ประกันมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาเมื่อไม่ปฏิบัติก็ได้ชื่อว่าผิดสัญญา การที่ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์คดีระงับไปแล้วนั้น ผู้ประกันไม่พ้นความรับผิดผู้ประกันจะพ้นความรับผิดได้ก็ต่อเมื่อได้นำตัวผู้ต้องหามาส่งศาลตามสัญญาและศาลสั่งถอนประกันหรือปล่อยตัวไปโดยไม่มีเงื่อนไข

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1921/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัว: ผู้ประกันมีหน้าที่ส่งตัวผู้ต้องหาตามสัญญา แม้คดีระงับแล้วก็ยังต้องรับผิดหากไม่ปฏิบัติตาม
ในระหว่างประกัน ผู้ประกันมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาเมื่อไม่ปฏิบัติก็ได้ชื่อว่าผิดสัญญา การที่ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์คดีระงับไปแล้วนั้น ผู้ประกันไม่พ้นความรับผิดผู้ประกันจะพ้นความรับผิดได้ก็ต่อเมื่อได้นำตัวผู้ต้องหามาส่งศาลตามสัญญาและศาลสั่งถอนประกันหรือปล่อยตัวไปโดยไม่มีเงื่อนไข

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77: แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ ไม่ถือเป็นสินค้าสำเร็จรูป
การใช้สอยแป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ตามสภาพปกตินั้นใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นของสิ่งอื่น มิใช่สิ่งที่ตามปกติย่อมนำไปใช้ได้ในสภาพเดิม โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมสิ่งอื่นด้วยเหตุนี้ แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ และเชื้ออากาดี้ จึงไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปดังที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 77

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1917/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์ ไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77 เพราะเป็นวัตถุดิบต้องนำไปผสมปรุงก่อน
การใช้สอยแป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์และเชื้ออากาดี้ตามสภาพปกตินั้นใช้สำหรับเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตเป็นของสิ่งอื่น มิใช่สิ่งที่ตามปกติย่อมนำไปใช้ได้ในสภาพเดิม โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือผสมสิ่งอื่นด้วยเหตุนี้ แป้งข้าวโพด ผงฟู เชื้อยีสต์และเชื้ออากาดี้ จึงไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูปดังที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 77

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1913/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพและการลดโทษในคดีอาญา: การพิจารณาประโยชน์ของการรับสารภาพต่อการพิจารณาคดี
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพตามฟ้อง แต่ปรากฏจากพยานหลักฐานของโจทก์ที่สืบประกอบคำรับสารภาพว่า เจ้าพนักงานได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ถูกปล้นไปจากจำเลยที่ 1 และที่ 2 หัวกระสุนปืนที่ขุดได้ที่พื้นดินใต้ศพผู้ตายเป็นหัวกระสุนปืนที่ใช้ยิงจากปืนของกลางที่จับได้จากจำเลยที่ 1 ผู้เสียหายแจ้งถึงรูปร่าง ผิวเนื้อลักษณะหน้าตา ตลอดจนอายุและเครื่องแต่งกายของจำเลยได้ละเอียดและชี้ตัวได้ถูกต้อง และพยานโจทก์อีก 2 ปาก ก็จำจำเลยได้ เมื่อพยานหลักฐานของโจทก์ซึ่งมีทั้งพยานบุคคลและพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีของคดีแน่นหนามั่นคงเช่นนี้ คำรับสารภาพของจำเลยที่ 1 และ 2 จึงไม่พอจะถือได้ว่าให้ความรู้แก่ศาลอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี จึงไม่เป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
ส่วนจำเลยที่ 3 นั้น เจ้าพนักงานตำรวจจับได้เพราะคำซัดทอดของจำเลยที่ 1 และ 2 คำซัดทอดของจำเลยด้วยกันย่อมฟังเป็นหลักฐานยันจำเลยไม่ได้ และพนักงานสอบสวนไม่ได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายซึ่งถูกปล้นไปจากจำเลยที่ 3 เลย ดังนั้น การที่จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพตั้งแต่ชั้นสอบสวนตลอดมาถึงชั้นศาลจึงพอถือได้ว่าเป็นการให้ความรู้แก่ศาล เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่มากเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1913/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพและการลดโทษในคดีอาญา: ศาลพิจารณาพยานหลักฐานและบทบาทของจำเลยแต่ละคน
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพตามฟ้อง แต่ปรากฏจากพยานหลักฐานของโจทก์ที่สืบประกอบคำรับสารภาพว่า เจ้าพนักงานได้ทรัพย์สินของผู้เสียหาย ที่ถูกปล้นไปจากจำเลยที่ 1 และที่ 2 หัวกระสุนปืนที่ขุดได้ที่พื้นดินใต้ศพผู้ตาย เป็นหัวกระสุนปืนที่ใช้ยิงจากปืนของกลางที่จับได้จาก จำเลยที่ 1 ผู้เสียหายแจ้งถึงรูปร่าง ผิวเนื้อลักษณะหน้าตา ตลอดจนอายุและเครื่องแต่งกายของจำเลยได้ละเอียดและชี้ตัวได้ถูกต้อง และพยานโจทก์อีก 2 ปาก ก็จำจำเลยได้ เมื่อพยานหลักฐานของโจทก์ซึ่งมีทั้งพยานบุคคลและพยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณีของคดีแน่นหนามั่นคงเช่นนี้ คำรับสารภาพของจำเลยที่ 1 และ 2 จึงไม่พอจะถือได้ว่าให้ความรู้แก่ศาลอันจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี จึงไม่เป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78
ส่วนจำเลยที่ 3 นั้น เจ้าพนักงานตำรวจจับได้เพราะคำซัดทอดของจำเลยที่ 1 และ 2 คำซัดทอดของจำเลยด้วยกันย่อมฟังเป็นหลักฐานยันจำเลยไม่ได้ และพนักงานสอบสวนไม่ได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายซึ่งถูกปล้นไปจากจำเลยที่ 3 เลย ดังนั้น การที่จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพตั้งแต่ชั้นสอบสวนตลอดมาถึงชั้นศาลจึงพอถือได้ว่าเป็นการให้ความรู้แก่ศาล เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีอยู่มากเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์สินที่มีตำหนิ การรอนสิทธิ และผลกระทบต่อการเรียกร้องค่าเช็ค
มีผู้ลักปากกามาขายให้โจทก์ โจทก์ซื้อไว้แล้วนำมาขายให้กับจำเลย โดยจำเลยไม่รู้ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจยึดปากกาไปจากจำเลยและคืนให้เจ้าของไป ถือว่าเป็นการรอนสิทธิจำเลย โจทก์ซึ่งเป็นผู้ขายต้องรับผิด จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเป็นค่าปากกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1895/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์สินที่ถูกลักมา ผู้ขายต้องรับผิดชอบการรอนสิทธิ ผู้ซื้อไม่ต้องชำระเงิน
มีผู้ลักปากกามาขายให้โจทก์ โจทก์ซื้อไว้แล้วนำมาขายให้กับจำเลยโดยจำเลยไม่รู้ ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจยึดปากกาไปจากจำเลยและคืนให้เจ้าของไป ถือว่าเป็นการรอนสิทธิจำเลยโจทก์ซึ่งเป็นผู้ขายต้องรับผิด จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คที่จำเลยสั่งจ่ายเป็นค่าปากกา
of 68