คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 106

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 36 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2109/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ที่เกิดจากเจตนาพยุงฐานะลูกหนี้ล้มละลาย แม้สุจริต ก็ไม่อาจขอรับชำระหนี้ได้
เจ้าหนี้เจตนาจะพยุงฐานะของลูกหนี้แม้จะกระทำโดยสุจริตก็ตามเมื่อหนี้ที่ก่อขึ้นนี้เป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจึงเป็นหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ไม่ได้ตามมาตรา94(2)แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 แม้คำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไม่มีผู้ใดโต้แย้งแต่ถ้าตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปรากฎว่าเป็นหนี้ซึ่งเจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้กระทำขึ้นเมื่อเจ้าหนี้ได้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวศาลก็มีอำนาจยกคำขอรับชำระหนี้ได้ตามมาตรา94ประกอบด้วยมาตรา106แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: การคิดดอกเบี้ยตามข้อตกลง และการโอนลอยพันธบัตรโดยไม่ได้รับความยินยอม
ศาลชั้นต้นเห็นชอบด้วยกับความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็อนุญาตให้รับชำระหนี้ได้โดยไม่ต้องกล่าวแสดงเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยไว้ในคำสั่งอนุญาต เพราะข้อเท็จจริงและเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยปรากฏอยู่ในความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว และเป็นการสั่งตามมาตรา 106 แห่ง พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ซึ่งได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะไม่ต้องนำบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 141(4) ประกอบด้วยมาตรา 153 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาใช้บังคับโดยอนุโลม แม้จะมีประกาศธนาคารแห่งประเทศไทยให้คิดดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 19 ต่อปี แต่มีข้อตกลงว่าวงเงินกู้ไม่เกิน 10,000,000บาท ให้คิดดอกเบี้ยในอัตราไม่เกินร้อยละ 17.5 ต่อปี เมื่อเงินกู้ที่ค้างชำระเพียง 5,259,980.74 บาท เจ้าหนี้จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้เพียงไม่เกินร้อยละ 17.5 ต่อปี ตามข้อตกลงเท่านั้น ลูกหนี้โอนลอยพันธบัตรรัฐบาลแล้ว ส. นำไปวางเป็นประกันในการกู้เงินของบริษัท บ.ต่อเจ้าหนี้ โดยกรรมการบริษัทลูกหนี้มิได้รู้เห็นยินยอมด้วย และมิได้จดทะเบียนภาระผูกพันกับธนาคารแห่งประเทศไทย เจ้าหนี้จึงไม่มีมูลหนี้ใดที่จะกล่าวอ้างได้ต้องคืนพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าวให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1775/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลอนุญาตรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายที่ไม่ต้องแสดงเหตุผล หากไม่มีการโต้แย้ง
ในการตรวจคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคัดค้านคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้ ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นเห็นชอบด้วยกับความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ชอบที่จะอนุญาตให้รับชำระหนี้ได้โดยไม่ต้องกล่าวแสดงเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยไว้ในคำสั่งอนุญาต เพราะข้อเท็จจริงและเหตุผลแห่งคำวินิจฉัยปรากฏอยู่ในความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แล้ว และก็เป็นการสั่งตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 106 ซึ่งได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะไม่จำต้องนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 141(4) ประกอบด้วยมาตรา 153 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯมาใช้บังคับโดยอนุโลม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1684/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาระการพิสูจน์หนี้ในคดีล้มละลาย: เจ้าหนี้ต้องเสนอหลักฐาน, เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจสอบสวนแต่ไม่ผูกพัน
แม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจสอบสวนในเรื่องหนี้สินเมื่อยื่นคำขอรับชำระหนี้โดยกล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ของลูกหนี้หน้าที่ในการพิสูจน์ตามข้ออ้างย่อมตกเป็นของเจ้าหนี้ที่จะต้องนำพยานหลักฐานมาให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนเพื่อแสดงถึงมูลหนี้ตามที่กล่าวอ้าง เมื่อเจ้าหนี้มิได้ส่งหลักฐานการซื้อขายที่ดินตามที่อ้างโดยแถลงอ้างพยานบุคคลเพียงผู้เดียว ดังนี้ เป็นเรื่องอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหนี้ในการเสนอพยานหลักฐานมิใช่หน้าที่ของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะต้องมีหมายเรียกพยานหลักฐานดังกล่าวมาด้วยตนเอง การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เจ้าหนี้ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจสอบสวนในเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระ แล้วทำความเห็นเสนอศาลและศาลมีอำนาจพิจารณาสั่งตามกฎหมายต่อไป ดังนั้น แม้หนี้ที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จะเป็นหนี้ตามคำพิพากษาหรือหนี้ที่เป็นมูลให้ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด ก็ไม่ผูกพันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หรือศาลให้จำต้องถือตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1596/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตรวจสอบหนี้ในคดีล้มละลาย: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และศาลมีอำนาจพิจารณาอิสระ แม้เป็นหนี้เดิมที่ใช้ฟ้องล้มละลาย
หนี้ที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์นำมาขอรับชำระหนี้แม้จะเป็นหนี้รายเดียวกับที่เจ้าหนี้นำมาเป็นมูลฟ้องลูกหนี้ล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดแล้วก็ตาม แต่ก็หามีผลผูกพันให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และศาลจำต้องถือตามไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2007/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ที่เกิดจากการให้ลูกหนี้มีหนี้สินพ้นตัว ไม่อาจนำมาขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้
แม้ว่าหนี้ที่เจ้าหนี้นำมาขอรับชำระหนี้จะเป็นหนี้รายเดียวกับที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายที่เจ้าหนี้เป็นโจทก์ฟ้องคดีก็ตาม ก็หามีผลผูกพันให้ศาล จำต้องถือตามไม่ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่าหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ที่นำมาขอรับชำระในคดีล้มละลายไม่ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94(2) และยกคำขอรับชำระหนี้นั้นเสียได้
หมายเหตุ ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2528

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2007/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ที่เกิดจากความรู้เห็นชอบของเจ้าหนี้ แม้เป็นหนี้เดิม ศาลล้มละลายยกคำขอรับชำระได้
แม้ว่าหนี้ที่เจ้าหนี้นำมาขอรับชำระหนี้จะเป็นหนี้รายเดียวกับที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในคดีล้มละลายที่เจ้าหนี้เป็นโจทก์ฟ้องคดีก็ตามก็หามีผลผูกพันให้ศาล จำต้องถือตามไม่ ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่าหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ที่นำมาขอรับชำระในคดีล้มละลายไม่ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94 (2) และยกคำขอรับชำระหนี้นั้นเสียได้
หมายเหตุ ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 4/2528

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1877/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์ฎีกาของลูกหนี้แม้ไม่โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ และอำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการงดสอบพยาน
แม้ลูกหนี้จะมิได้โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของผู้ขอรับชำระหนี้ ลูกหนี้ก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม
(วรรคนี้วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2526)
การที่ศาลจะมีคำสั่งคำขอรับชำระหนี้นั้นมิได้มีกฎหมายกำหนดให้ศาลจะต้องรอจนกว่าการอุทธรณ์ฎีกาในเรื่องที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจะถึงที่สุดเสียก่อน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจที่จะให้งดสอบพยานของลูกหนี้ได้ถ้าเห็นว่าประเด็นที่จะขอให้สอบไม่ใช่ประเด็นสำคัญ และได้ส่งหมายเรียกไปตามภูมิลำเนาแล้วแต่ส่งไม่ได้
การที่จะนำพยานหลักฐานใดมาพิจารณาในการทำความเห็นเสนอต่อศาลนั้นเป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1877/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งอนุญาตรับชำระหนี้ แม้มิได้โต้แย้ง & ดุลพินิจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
แม้ลูกหนี้จะมิได้โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของผู้ขอรับชำระหนี้ ลูกหนี้ก็มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ เพราะไม่มีกฎหมายห้าม (วรรคนี้วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 6/2526)
การที่ศาลจะมีคำสั่งคำขอรับชำระหนี้นั้นมิได้มีกฎหมายกำหนดให้ศาลจะต้องรอจนกว่าการอุทธรณ์ฎีกาในเรื่องที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจะถึงที่สุดเสียก่อน
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจที่จะให้งดสอบพยานของลูกหนี้ได้ถ้าเห็นว่าประเด็นที่จะขอให้สอบไม่ใช่ประเด็นสำคัญ และได้ส่งหมายเรียกไปตามภูมิลำเนาแล้วแต่ส่งไม่ได้
การที่จะนำพยานหลักฐานใดมาพิจารณาในการทำความเห็นเสนอต่อศาลนั้นเป็นดุลพินิจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2730/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายคดีเนื่องจากจำเลยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการตามกฎหมายล้มละลาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาจ้างแรงงานและเรียกค่าเสียหายปรากฏว่าศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในอีกคดีหนึ่งขณะที่คดีนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยได้ขอเข้าว่าคดีนี้แทนจำเลย และได้มีคำขอโดยทำเป็นคำร้องเพื่อให้ศาลสั่งจำหน่ายคดีทั้งโจทก์คดีนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่จะตรวจและสอบสวนแล้วทำความเห็นต่อศาลเพื่อมีคำสั่งตามนัยที่บัญญัติไว้ในมาตรา 105 และมาตรา 106 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯแม้ศาลฎีกาจะดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำพิพากษาไปในคดีนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ยังจะต้องทำการสอบสวนเพื่อเสนอความเห็นต่อศาลอีกชั้นหนึ่ง ดังนั้น การที่จะพิจารณาคดีนี้ต่อไปจึงไม่เป็นประโยชน์แต่อย่างไรศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเสียได้ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายฯ
of 4