พบผลลัพธ์ทั้งหมด 545 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1445/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเกินสมควรแก่เหตุ: การใช้มีดแทงสวนกลับเมื่อถูกทำร้ายด้วยเท้า แม้จะหลบหลีกไปแล้ว
จำเลยถูกผู้ตายใช้กลองยาวตีศีรษะแต่ไม่ถูกเพราะจำเลยหลบถอยห่างออกไปแล้ว ผู้ตายยังตามเข้าไปใช้เท้าถีบจำเลยเอาอีกการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาว 1 คืบแทงสวนไปในขณะที่ผู้ตายใช้เท้าถีบจำเลย โดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไรจนผู้ตายเกิดบาดแผลที่อุ้งขาขวาใต้ลูกอัณฑะลึกตัดเส้นโลหิตใหญ่ขาดถึงแก่ความตาย ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1445/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตนเกินสมควรแก่เหตุ: จำเลยถูกทำร้ายด้วยกลองและเท้า จึงใช้มีดแทงสวนกลับจนเสียชีวิต ศาลฎีกายืนตามอุทธรณ์
จำเลยถูกผู้ตายใช้กลองยาวตีศีรษะ แต่ไม่ถูก เพราะจำเลยหลบถอยห่างออกไปแล้ว ผู้ตายยังตามเข้าไปใช้เท้าถีบจำเลยเอาอีกการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมยาว 1 คืบแทงสวนไปในขณะที่ผู้ตายใช้เท้าถีบจำเลย โดยผู้ตายไม่มีอาวุธอะไร จนผู้ตายเกิดบาดแผลที่อุ้งขาขวาใต้ลูกอัณฑะลึกตัดเส้นโลหิตใหญ่ขาด ถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงและการวินิจฉัยของศาลฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในประเด็นต้องห้าม
จำเลยอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยให้ ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ตามมาตรา 249 ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้และพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสีย ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อุทธรณ์ข้อเท็จจริงต้องห้าม – ศาลฎีกายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยให้ ก็ไม่ถือว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ตามมาตรา 249 ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้ และพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสีย ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการขาดอายุความฟ้องแย่งการครอบครองที่ดิน
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญของจำเลยถูกศาลยึดมาขายทอดตลาดโจทก์เป็นผู้ซื้อได้และได้รับมอบที่ดินแล้ว จำเลยขัดขวางไม่ให้โจทก์เข้าครอบครองแสดงออกซึ่งการแย่งการครอบครองตลอดมา โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองได้ภายหลังที่จำเลยแย่งการครอบครองมาเกิน 1 ปีแล้ว แม้ศาลจะได้มีหนังสือสั่งให้อำเภอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนที่ดินนี้ให้โจทก์ และนับแต่วันที่อำเภอจดทะเบียนโอนให้จนถึงวันฟ้องจะยังไม่เกิน 1 ปีก็ตาม
การครอบครองของจำเลยหลังจากจำเลยได้สิทธิครอบครองมาโดยการแย่งครอบครองจากโจทก์นั้น ไม่นับว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์โจทก์เรียกค่าเสียหายสำหรับระยะเวลานี้ไม่ได้
การครอบครองของจำเลยหลังจากจำเลยได้สิทธิครอบครองมาโดยการแย่งครอบครองจากโจทก์นั้น ไม่นับว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์โจทก์เรียกค่าเสียหายสำหรับระยะเวลานี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์และการขาดอายุความฟ้องคดีแย่งการครอบครองที่ดินจากการขายทอดตลาด
ที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญของจำเลยถูกศาลยึดมาขายทอดตลาดโจทก์เป็นผู้ซื้อได้และได้รับมอบที่ดินแล้ว จำเลยขัดขวางไม่ให้โจทก์เข้าครอบครองแสดงออกซึ่งการแย่งการครอบครองตลอดมา โจทก์ย่อมหมดสิทธิที่จะฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองได้ภายหลังที่จำเลยแย่งการครอบครองมาเกิน 1 ปีแล้ว แม้ศาลจะได้มีหนังสือสั่งให้อำเภอทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนที่ดินนี้ให้โจทก์ และนับแต่วันที่อำเภอจดทะเบียนโอนให้จนถึงวันฟ้องจะยังไม่เกิน 1 ปีก็ตาม
การครอบครองของจำเลยหลังจากจำเลยได้สิทธิครอบครองมาโดยการแย่งครอบครองจากโจทก์นั้น ไม่นับว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์โจทก์เรียกค่าเสียหายสำหรับระยะเวลานี้ไม่ได้
การครอบครองของจำเลยหลังจากจำเลยได้สิทธิครอบครองมาโดยการแย่งครอบครองจากโจทก์นั้น ไม่นับว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์โจทก์เรียกค่าเสียหายสำหรับระยะเวลานี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้รับโอนที่ดินตามคำพิพากษาเหนือกว่าเจ้าหนี้ที่ยึดทรัพย์ แม้ยังไม่ได้จดทะเบียน
ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้จำเลยโอนขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมี น.ส.3 ให้ผู้ร้องแล้ว แม้จำเลยจะยังครอบครองที่พิพาทอยู่และยังไม่ได้แก้ทะเบียนโอนให้แก่ผู้ร้อง โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เงินกู้และเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมก็ไม่อาจบังคับคดียึดที่ดินพิพาทอันเป็นการกระทบกระทั่งสิทธิของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 287 เพราะผู้ร้องอยู่ในฐานะที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนตามคำพิพากษาได้อยู่ก่อนแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1300 และโจทก์ไม่อาจอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยนั้นมาลบล้างสิทธิของผู้ร้องเกี่ยวกับที่ดินพิพาทนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่จำต้องฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเสียก่อนมาร้องขอให้ปล่อยที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 993/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการบังคับคดีหลังคำพิพากษาถึงที่สุด แม้ยังไม่ได้จดทะเบียน โจทก์ไม่อาจยึดทรัพย์ได้ หากกระทบสิทธิผู้รับโอน
ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดให้จำเลยโอนขายที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมี น.ส. 3 ให้ผู้ร้องแล้ว แม้จำเลยจะยังครอบครองที่พิพาทอยู่และยังไม่ได้แก้ทะเบียนโอนให้แก่ผู้ร้อง โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เงินกู้และเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตามยอมก็ไม่อาจบังคับคดียึดที่ดินพิพาทอันเป็นการกระทบกระทั่งสิทธิของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 เพราะผู้ร้องอยู่ในฐานะที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนตามคำพิพากษาได้อยู่ก่อนแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 และโจทก์ไม่อาจอ้างสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยนั้นมาลบล้างสิทธิของผู้ร้องเกี่ยวกับที่ดินพิพาทนี้ได้ ผู้ร้องจึงไม่จำต้องฟ้องขอให้เพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเสียก่อนมาร้องขอให้ปล่อยที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องชัดแจ้ง จำเลยเข้าใจข้อหา ศาลต้องพิจารณา ไม่ใช่ยกฟ้องเพราะฟ้องไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่า อ. ซึ่งเป็นลูกจ้างที่โจทก์ไล่ออกจากงานได้ยื่นคำร้องต่อกรมแรงงานกระทรวงมหาดไทย จำเลยทั้งสามจึงมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายเงินค่าจ้างทำงานล่วงเวลาจำนวนหนึ่งแก่ อ. โจทก์เห็นว่าคำสั่งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามตัวบทกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ทั้งจำเลยฟังข้อเท็จจริงผิดจากที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของจำเลย คำฟ้องเช่นนี้เป็นคำฟ้องที่ชัดแจ้งพอ ทั้งจำเลยให้การต่อสู้ไว้โดยละเอียดเกี่ยวกับสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ย่อมแสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้อง: คำฟ้องที่บรรยายประเด็นข้อพิพาทชัดเจนเพียงพอต่อการพิจารณา
โจทก์ฟ้องว่า อ. ซึ่งเป็นลูกจ้างที่โจทก์ไล่ออกจากงานได้ยื่นคำร้อง ต่อกรมแรงงานกระทรวงมหาดไทย จำเลยทั้งสามจึงมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายเงินค่าจ้างทำงานล่วงเวลาจำนวนหนึ่งแก่ อ. โจทก์เห็นว่าคำสั่งนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่เป็นไปตามตัวบทกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ทั้งจำเลยฟังข้อเท็จจริงผิดจากที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของจำเลยคำฟ้องเช่นนี้เป็นคำฟ้องที่ชัดแจ้งพอ ทั้งจำเลยให้การต่อสู้ไว้โดยละเอียดเกี่ยวกับสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ย่อมแสดงว่าจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี