พบผลลัพธ์ทั้งหมด 560 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากหม้อน้ำระเบิด ไม่ถือเป็นเพลิงไหม้ตามกรมธรรม์ประกันภัย
จำเลยทำสัญญารับประกันภัยทรัพย์สินของโจทก์ กรมธรรม์ประกันภัยระบุว่ารับประกันวินาศภัยเฉพาะเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่า ปรากฏว่าได้เกิดวินาศภัยแก่ทรัพย์สินของโจทก์ในระหว่างอายุสัญญาประกันภัยโดยหม้อน้ำระเบิด ทำให้ทรัพย์สินหลายอย่างต้องวินาศไปสาเหตุเกิดจากสายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับเครื่องมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับใช้กับเครื่องปั๊มน้ำเย็นได้รับความร้อนสูงเกินขนาดจนฉนวนชำรุดไหม้ละลาย สายลวดทองแดงกระทบกันเกิดการลัดวงจร เป็นเหตุให้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องปั๊มน้ำหยุดทำงาน ไม่ส่งน้ำเย็นเข้าหม้อต้มน้ำ ส่วนน้ำร้อนที่มีอยู่ในหม้อต้นน้ำก็จะไหลออกแต่อย่างเดียว ในขณะเดียวกันเตาเหล็กซึ่งใช้ระบบหัวฉีดก็ยังพ่นความร้อนเข้าไปในท่อให้ความร้อนเข้าไปในท่อให้ความร้อนภายในหม้อต้มน้ำอยู่ตลอดเวลา ไอน้ำในหม้อต้มน้ำได้รับความร้อนสูงเรื่อยๆ ก็ขยายตัว มีความดัน มีความดันเกินกว่าหม้อต้มน้ำร้อนจะทนทานได้ จึงเกิดระเบิดขึ้น ดังนี้ ความวินาศของโจทก์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ยังไม่พอฟังว่าเกิดเพราะเพลิงไหม้ อันจำเลยรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 229/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกันภัยวินาศภัย: เพลิงไหม้ต้องเป็นสาเหตุโดยตรงของความเสียหาย เพื่อให้ประกันภัยรับผิดชอบ
จำเลยทำสัญญารับประกันภัยทรัพย์สินของโจทก์ กรมธรรม์ประกันภัยระบุว่ารับประกันวินาศภัยเฉพาะเพลิงไหม้หรือฟ้าผ่า ปรากฏว่าได้เกิดวินาศภัยแก่ทรัพย์สินของโจทก์ ในระหว่างอายุสัญญาประกันภัยโดยหม้อน้ำระเบิด ทำให้ทรัพย์สินหลายอย่างต้องวินาศไป สาเหตุเกิดจากสายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับเครื่องมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับใช้กับเครื่องปั๊มน้ำเย็นได้ รับความร้อนสูงเกินขนาดจนฉนวนชำรุดไหม้ละลาย สายลวดทองแดงกระทบกันเกิดการลัดวงจร เป็นเหตุให้มอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องปั๊มน้ำหยุดทำงาน ไม่ส่งน้ำเย็นเข้าหม้อต้มน้ำส่วนน้ำร้อนที่มีอยู่ในหม้อต้มน้ำก็จะไหลออกแต่อย่างเดียว ในขณะเดียวกันเตาเหล็กซึ่งใช้ระบบหัวฉีดก็ยังพ่นความร้อนเข้าไปในท่อให้ความร้อนภายในหม้อต้มน้ำอยู่ตลอดเวลา ไอน้ำในหม้อต้มน้ำได้รับความร้อนสูงเรื่อย ๆ ก็ขยายตัว มีความดันเกินกว่าหม้อต้มน้ำร้อนจะทนทานได้ จึงเกิดระเบิดขึ้นดังนี้ ความวินาศของโจทก์ที่เกิดขึ้นเช่นนี้ยังไม่พอฟังว่าเกิดเพราะเพลิงไหม้อันจำเลยจำต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1971/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ไม่ถือว่าไม่มีใบอนุญาตตามกรมธรรม์ประกันภัย หากเคยมีใบอนุญาตมาก่อน
กรมธรรม์ประกันภัยซึ่งมีเงื่อนไขว่า ห้ามมิให้ขับรถยนต์คันที่เอาประกันโดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตขับขี่หรือตามกฎหมายนั้น ก็เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไม่เป็นหรือไม่ได้รับอนุญาตขับรถยนต์จากเจ้าพนักงานมาขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัย ฉะนั้น การที่ผู้ขับได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์จากเจ้าพนักงานแล้ว แต่ขาดต่ออายุใบอนุญาตในระหว่างที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุนั้น จึงถือไม่ได้ว่าไม่มีใบอนุญาตขับรถยนต์จากเจ้าพนักงานตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัย อันจะทำให้ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 764/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความความคุ้มครองประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลในกรณีความตายจากเหตุการณ์รุนแรงที่ไม่เจาะจง
จำเลยทำสัญญาประกันภัยรับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้กับ ส. ผู้ตาย โดยมีข้อสัญญาว่า ถ้า ส. ถึงแก่กรรม จำเลยจะต้องจ่ายเงินให้แก่บุตรของ ส. ทั้งสามคนตามกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งมีข้อยกเว้นว่า กรมธรรม์ประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความตายที่เกิดจากถูกฆาตกรรม แต่การที่คนร้ายขว้างลูกระเบิดไปยังโต๊ะอาหารโดยตั้งใจฆ่าคนอื่นที่นั่งอยู่กับ ส. แล้วสะเก็ดระเบิดถูก ส. ด้วยนั้น ความตายของ ส. ไม่ได้เกิดจากถูกฆาตกรรม แต่เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ จำเลยจึงต้องรับผิดจ่ายเงินให้แก่บุตรทั้งสามของ ส.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัยรถยนต์: “ถูกขโมยทั้งคัน” ครอบคลุมการปล้นทรัพย์ด้วย
สัญญาประกันภัยรถยนต์ซึ่งบริษัทจำเลยจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ผู้เอาประกันภัยมีข้อความ รวมถึงกรณีรถถูกขโมยทั้งคันด้วย คำว่า "ถูกขโมยทั้งคัน" ตามสัญญาประกันภัยดังกล่าวนอกจากมีความหมายถึงการที่รถถูกคนร้ายลักไปแล้ว ย่อมหมายความรวมถึงการที่รถถูกคนร้ายปล้นเอาไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 518/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตความหมาย 'ถูกขโมยทั้งคัน' ในสัญญาประกันภัย ครอบคลุมถึงการถูกปล้นด้วย
สัญญาประกันภัยรถยนต์ซึ่งบริษัทจำเลยจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ผู้เอาประกันภัยมีข้อความรวมถึงกรณีรถถูกขโมยทั้งคันด้วยคำว่า 'ถูกขโมยทั้งคัน' ตามสัญญาประกันภัยดังกล่าวนอกจากมีความหมายถึงการที่รถถูกคนร้ายลักไปแล้ว ย่อมหมายความรวมถึงการที่รถถูกคนร้ายปล้นเอาไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2513/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรมธรรม์ประกันภัยหมดอายุแล้วทำสัญญาใหม่ย้อนหลัง สัญญาใหม่ไม่ครอบคลุมเหตุการณ์ก่อนวันที่เริ่มมีผล
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์สิ้นอายุเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม วันที่ 24 กรกฎาคม เกิดอุบัติเหตุ ต่อมาผู้รับประกันภัยออกกรมธรรม์ประกันใหม่ย้อนหลังไปถึงวันที่ 22 กรกฎาคมผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2208/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันภัย: การทำสัญญาประนีประนอมยอมความ และการยกเว้นความรับผิดจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการฝ่าฝืนกฎจราจร
ข้อกำหนดตามธรรมธรรม์ประกันภัยที่ว่า "การตกลงยินยอมหรือการเสนอหรือการให้สัญญาว่าจะชดใช้เงินหรือชดใช้ค่าเสียหายประการใดก็ตามแก่บุคคลอื่น ผู้เอาประกันภัยหรือตัวแทนผู้เอาประกันภัยจะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร" นั้น เป็นการห้ามมิให้ผู้เอาประกันภัยทำความตกลงหรือทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับบุคคลภายนอก ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้รับประกันภัยเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยไม่ เมื่อผู้เอาประกันฟ้องเรียกร้องค่าซ่อมรถของตนที่เอาประกันภัยไว้ อันได้รับความเสียหายเนื่องจากชนกับรถของบุคคลอื่น มิได้เกี่ยวกับค่าเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยได้ทำสัญญาชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลอื่น ผู้เอาประกันภัยจึงมีสิทธิเรียกร้องจากผู้รับประกันภัยได้
กรมธรรม์ประกันภัยกำหนดว่า ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดเมื่อ "อุบัติเหตุหรือวินาศภัย อันเกิดขึ้นโดยผู้ขับขี่ยานยนต์คับเอาประกันภัยเจตนาจงใจฝ่าฝืนในข้อกำหนดกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจร" ย่อมหมายความว่า วินาศภัยที่ผู้รับประกันภัยจะต้องรับผิดในความเสียหายก็เฉพาะแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพราะเหตุที่ผู้ขับขี่จงใจฝ่าฝืนกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจรเท่านั้น การที่คนขับรถของผู้เอาประกันภัยขับรถคันที่เอาประกันภัยไปในทางที่ยังไม่เปิดใช้เป็นทางจราจรแม้จะมีเครื่องหมายของพนักงานจราจรห้ามมิให้รถเข้าไปแล่นก็ตามแต่เมื่อการขับรถเข้าไปใจทางนั้นไม่ใช่เหตุที่เกิดรถชนกันเพราะรถชนกันบนถนนส่วนที่เปิดใช้แล้วผู้รับประกันภัยก็จะยกเหตุดังกล่าวมามัดความรับผิดไม่ได้
กรมธรรม์ประกันภัยกำหนดว่า ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดเมื่อ "อุบัติเหตุหรือวินาศภัย อันเกิดขึ้นโดยผู้ขับขี่ยานยนต์คับเอาประกันภัยเจตนาจงใจฝ่าฝืนในข้อกำหนดกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจร" ย่อมหมายความว่า วินาศภัยที่ผู้รับประกันภัยจะต้องรับผิดในความเสียหายก็เฉพาะแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพราะเหตุที่ผู้ขับขี่จงใจฝ่าฝืนกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจรเท่านั้น การที่คนขับรถของผู้เอาประกันภัยขับรถคันที่เอาประกันภัยไปในทางที่ยังไม่เปิดใช้เป็นทางจราจรแม้จะมีเครื่องหมายของพนักงานจราจรห้ามมิให้รถเข้าไปแล่นก็ตามแต่เมื่อการขับรถเข้าไปใจทางนั้นไม่ใช่เหตุที่เกิดรถชนกันเพราะรถชนกันบนถนนส่วนที่เปิดใช้แล้วผู้รับประกันภัยก็จะยกเหตุดังกล่าวมามัดความรับผิดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2208/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้รับประกันภัย และการยกเว้นความรับผิดจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการฝ่าฝืนกฎจราจร
ข้อกำหนดตามกรมธรรม์ประะกันภัยที่ว่า "การตกลงยินยอมหรือการเสนอหรือการให้สัญญาว่าจะชดใช้เงินหรือชดใช้ค่าเสียหายประการใดก็ตามแก่บุคคลอื่น ผู้เอาประกันภัยหรือตัวแทนผู้เอาประกันภัยจะกระทำมิได้เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากบริษัทเป็นลายลักษณ์อักษร" นั้น เป็นการห้ามมิให้ผู้เอาประกันภัยทำความตกลงหรือทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับบุคคลภายนอก ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้รับประกันภัยไม่ให้ผู้เอาประกันภัยทำสัญญาให้เป็นที่เสียหายแก่ผู้รับประกันภัยเท่านั้น หาใช่เป็นข้อยกเว้นความรับผิดของผู้รับประกันภัยไม่เมื่อผู้เอาประกันภัยฟ้องเรียกร้องค่าซ่อมรถของตนที่เอาประกันภัยไว้ อันได้รับความเสียหายเนื่องจากชนกับรถของบุคคลอื่น มิได้เกี่ยวกับค่าเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยได้ทำสัญญาชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บุคคลอื่น ผู้เอาประกันภัยจึงมีสิทธิเรียกร้องจากผู้รับประะกันภัยได้
กรมธรรม์ประกันภัยกำหนดว่า ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดเมื่อ"อุบัติเหตุหรือวินาศภัย อันเกิดขึ้นโดยผู้ขับขี่ยานยนต์คันเอาประกันภัยเจตนาจงใจฝ่าฝืนข้อกำหนดกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจร"ย่อมหมายความว่า วินาศภัยที่ผู้รับประกันภัยจะไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย ก็เฉพาะแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพราะเหตุที่ผู้ขับขี่จงใจฝ่าฝืนกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจรเท่านั้น การที่คนขับรถของผู้เอาประกันภัยขับรถคันที่เอาประกันภัยไปในทางที่ยังไม่เปิดใช้เป็นทางจราจร แม้จะมีเครื่องหมายของพนักงานจราจรห้ามมิให้รถเข้าไปแล่นก็ตาม แต่เมื่อการขับรถเข้าไปในทางนั้นไม่ใช่เหตุให้เกิดรถชนกัน เพราะรถชนกันบนถนนส่วนที่เปิดใช้แล้ว ผูรับประกันภัยก็จะยกเหตุดังกล่าวมาปัดความรับผิดไม่ได้
กรมธรรม์ประกันภัยกำหนดว่า ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดเมื่อ"อุบัติเหตุหรือวินาศภัย อันเกิดขึ้นโดยผู้ขับขี่ยานยนต์คันเอาประกันภัยเจตนาจงใจฝ่าฝืนข้อกำหนดกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจร"ย่อมหมายความว่า วินาศภัยที่ผู้รับประกันภัยจะไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย ก็เฉพาะแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเพราะเหตุที่ผู้ขับขี่จงใจฝ่าฝืนกฎหมายหรือคำสั่งหรือเครื่องหมายจราจรเท่านั้น การที่คนขับรถของผู้เอาประกันภัยขับรถคันที่เอาประกันภัยไปในทางที่ยังไม่เปิดใช้เป็นทางจราจร แม้จะมีเครื่องหมายของพนักงานจราจรห้ามมิให้รถเข้าไปแล่นก็ตาม แต่เมื่อการขับรถเข้าไปในทางนั้นไม่ใช่เหตุให้เกิดรถชนกัน เพราะรถชนกันบนถนนส่วนที่เปิดใช้แล้ว ผูรับประกันภัยก็จะยกเหตุดังกล่าวมาปัดความรับผิดไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2098/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคุ้มครองประกันภัยโจรกรรมที่เกิดจากการบุกรุกโดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรง
ผู้เอาประกันได้ปิดร้านที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันไว้ มีประตูเหล็กปิดกั้นใส่กุญแจแล้วเอาโซ่ล่ามใส่กุญแจอีกชั้นหนึ่ง คนร้ายได้เปิดประตูเหล็กเข้าไปลักทรัพย์ดังกล่าวในร้านโดยโซ่และกุญแจหายไปด้วย ดังนี้ถือได้ว่าคนร้ายเข้าไปโดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรงตามกรมธรรม์ประกันภัยซึ่งระบุให้ความคุ้มครองทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยในกรณีที่คนร้ายบุกรุกเข้าไปลักทรัพย์สถานที่โดยใช้กำลังและวิธีการรุนแรงแล้ว ผู้รับประกันภัยจึงต้องรับผิดตามกรมธรรม์ดังกล่าว