พบผลลัพธ์ทั้งหมด 560 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2540
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นความรับผิดในสัญญาประกันภัย การยกข้อยกเว้นต่อบุคคลภายนอกเมื่อผู้ขับขี่ไม่มีใบอนุญาต
ความรับผิดของจำเลยที่3ที่มีต่อโจทก์เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่2กับจำเลยที่3ตามกรมธรรม์ประกันภัยมีเงื่อนไขยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่3ว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใดๆและจำเลยที่1ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เมื่อความรับผิดของจำเลยที่3ผู้รับประกันภัยที่มีต่อโจทก์เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่2กับจำเลยที่3และโจทก์ฟ้องจำเลยที่3ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่1และที่2โดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าวดังนี้จำเลยที่3ย่อมยกเงื่อนไขข้อยกเว้นและข้อจำกัดความรับผิดของตนที่กำหนดไว้ในสัญญาขึ้นต่อสู้กับโจทก์ได้เว้นแต่เงื่อนไขข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมายแต่เมื่อข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่3ตามกรมธรรม์ประกันภัยไม่ขัดต่อกฎหมายและมีผลบังคับได้การที่จำเลยที่1ขับรถยนต์ค้นที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์อันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยจำเลยที่3จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นในสัญญาประกันภัย: การขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาต ทำให้ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิด
ความรับผิดของจำเลยที่ 3 ที่มีต่อโจทก์เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยมีเงื่อนไขยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ว่า การประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใด ๆและจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เมื่อความรับผิดของจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยที่มีต่อโจทก์เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 และโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าว ดังนี้จำเลยที่ 3 ย่อมยกเงื่อนไข ข้อยกเว้น และข้อจำกัดความรับผิดของตนที่กำหนดไว้ในสัญญาขึ้นต่อสู้กับโจทก์ได้ เว้นแต่เงื่อนไข ข้อยกเว้น หรือข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมาย แต่เมื่อข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยไม่ขัดต่อกฎหมายและมีผลบังคับได้ การที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์อันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นความรับผิดในสัญญาประกันภัย ผู้รับประกันภัยยกข้อยกเว้นได้หากไม่ขัดกฎหมายและมีผลบังคับใช้
ความรับผิดของจำเลยที่ 3 ที่มีต่อโจทก์เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่ 2กับจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยมีเงื่อนไขยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ว่า การประกันภัยไม่คุ้มครองถึงความรับผิดอันเกิดจากการขับขี่โดยบุคคลที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ใด ๆ และจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์เมื่อความรับผิดของจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยที่มีต่อโจทก์เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนระหว่างจำเลยที่ 2กับจำเลยที่ 3 และโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 3 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยอาศัยมูลหนี้ตามสัญญาดังกล่าวดังนี้จำเลยที่ 3 ย่อมยกเงื่อนไข ข้อยกเว้น และข้อจำกัดความรับผิดของตนที่กำหนดไว้ในสัญญาขึ้นต่อสู้กับโจทก์ได้เว้นแต่เงื่อนไข ข้อยกเว้น หรือข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจะขัดต่อกฎหมาย แต่เมื่อข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3ตามกรมธรรม์ประกันภัยไม่ขัดต่อกฎหมายและมีผลบังคับได้ การที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ค้นที่เอาประกันภัยในขณะเกิดเหตุโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์อันเป็นการผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6035/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นความรับผิดตามสัญญาประกันภัย: จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกเมื่อเกิดเหตุจากการลากจูงโดยไม่มีประกันภัย
สัญญาประกันภัยข้อ2.1ข้อ2.2และข้อ2.3กำหนดเกี่ยวกับการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกที่จำเลยจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยไว้แต่ในข้อ2.13.4ระบุว่าการประกันภัยตามข้อ2.1ข้อ2.2และข้อ2.3ไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจากการใช้ลากจูงหรือผลักดันเว้นแต่รถที่ถูกลากจูงหรือถูกผลักดันได้ประกันภัยไว้กับจำเลยด้วยเป็นข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยตามสัญญาประกันภัยเมื่อโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยรถยนต์โดยอาศัยสัญญาประกันภัยดังกล่าวและเหตุที่เกิดขึ้นเป็นกรณีที่จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อผู้เอาประกันภัยนั้นแล้วจำเลยก็ย่อมมีสิทธิยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6035/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นความรับผิดในสัญญาประกันภัย: การใช้ลากจูงหรือผลักดัน
สัญญาประกันภัย ข้อ 2.1 ข้อ 2.2 และข้อ 2.3 กำหนดเกี่ยวกับการคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกที่จำเลยจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนในนามของผู้เอาประกันภัยไว้ แต่ในข้อ 2.13.4 ระบุว่า การประกันภัยตามข้อ 2.1 ข้อ 2.2และข้อ 2.3 ไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจากการใช้ลากจูงหรือผลักดัน เว้นแต่รถที่ถูกลากจูงหรือถูกผลักดันได้ประกันภัยไว้กับจำเลยด้วย เป็นข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยตามสัญญาประกันภัย เมื่อโจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยรถยนต์โดยอาศัยสัญญาประกันภัยดังกล่าว และเหตุที่เกิดขึ้นเป็นกรณีที่จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อผู้เอาประกันภัยตามสัญญาประกันภัยนั้นแล้ว จำเลยก็ย่อมมีสิทธิยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ได้จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 309/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นความรับผิดประกันภัย: การลากจูงรถที่ไม่ได้ประกันภัย ทำให้ไม่อยู่ในขอบเขตความคุ้มครอง
ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยผู้รับประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุว่าการประกันภัยไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิดจากการใช้รถลากจูงหรือผลักดันเว้นแต่รถที่ถูกลากจูงหรือผลักดันได้ประกันภัยไว้กับจำเลยด้วยนั้นเมื่อโจทก์ผู้เอาประกันภัยได้กระทำผิดเงื่อนไขก็ไม่อยู่ในขอบเขตแห่งความคุ้มครองจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ไม่ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นผลโดยตรงมาจากการกระทำผิดเงื่อนไขหรือไม่ โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยโดยไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้สละเงื่อนไขตามข้อยกเว้นความรับผิดจำเลยให้การว่าไม่ต้องรับผิดเพราะโจทก์กระทำผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยจึงมี ประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์กระทำผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่เท่านั้นไม่มีประเด็นว่าจำเลยได้สละเงื่อนไขแล้วหรือไม่แม้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ก็มิชอบฎีกาของโจทก์ในข้อนี้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 309/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นกรมธรรม์ประกันภัย: การใช้รถลากจูงและความรับผิดของผู้รับประกัน
ตามกรมธรรม์ประกันภัย จำเลยไม่ประสงค์จะคุ้มครองถึงกรณีที่มีการใช้รถยนต์คันที่เอาประกันภัยไปลากจูงหรือผลักดันอันทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นเมื่อโจทก์ผู้เอาประกันใช้รถยนต์คันที่เอาประกันภัยกับจำเลยลากจูงรถคันอื่นและเกิดเหตุคดีนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุโดยตรงจากการลากจูงหรือไม่ ก็ไม่อยู่ในขอบเขตแห่งความคุ้มครอง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัย แต่ตามกรมธรรม์ประกันภัยท้ายฟ้องปรากฏเงื่อนไขข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลย โดยโจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้สละเงื่อนไขดังกล่าวแต่อย่างใด จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดเพราะโจทก์กระทำผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวจึงมีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์กระทำผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่เท่านั้นไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้สละเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยแล้วหรือไม่แม้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหานี้มาก็เป็นการวินิจฉัยที่มิชอบ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา249 วรรคแรก
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัย แต่ตามกรมธรรม์ประกันภัยท้ายฟ้องปรากฏเงื่อนไขข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลย โดยโจทก์ไม่ได้กล่าวในฟ้องว่าจำเลยได้สละเงื่อนไขดังกล่าวแต่อย่างใด จำเลยให้การต่อสู้ว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดเพราะโจทก์กระทำผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวจึงมีประเด็นข้อพิพาทว่าโจทก์กระทำผิดเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่เท่านั้นไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยได้สละเงื่อนไขตามกรมธรรม์ประกันภัยแล้วหรือไม่แม้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหานี้มาก็เป็นการวินิจฉัยที่มิชอบ ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา249 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย: การเฉลี่ยความรับผิดเมื่อเกินวงเงินประกัน
ตามกรมธรรม์ประกันภัยระบุให้จำเลยที่ 4 รับผิดในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่เกินจำนวน 500,000 บาทต่ออุบัติเหตุ 1 ครั้ง แต่ในมูลคดีเดียวกันนี้จำเลยที่ 4 ถูกองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยฟ้องเรียกค่าเสียหาย ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยทั้งสองต้องรับผิดต่อองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยเป็นเงิน 144,580.48 บาท ซึ่งจำเลยที่ 2 ในคดีดังกล่าวคือจำเลยที่ 4 คดีนี้จำเลยที่ 4 ได้ชำระเงิน 195,183 บาท ไปแล้ว เมื่อรวมกับความรับผิดของจำเลยทั้งสองที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในคดีนี้ จำนวน 2,620,210.80 บาท รวมยอดความรับผิดทั้งสิ้น 2,764,791.28 บาท จึงเกินวงเงินที่จำเลยที่ 4 จะต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จำกัดความรับผิดไว้เพียง 500,000 บาท ดังนั้นจำเลยที่ 4 จึงต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์คดีนี้เฉลี่ยตามส่วนที่ได้รับความเสียหายโดยต้องรับผิดเพียง 473,853.27 บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัย กรณีอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ศาลคำนวณความรับผิดตามสัดส่วนความเสียหาย
ตามกรมธรรม์ประกันภัยระบุให้จำเลยที่4รับผิดในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่เกินจำนวน500,000บาทต่ออุบัติเหตุ1ครั้งแต่ในมูลคดีเดียวกันนี้จำเลยที่4ถูกองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยฟ้องเรียกค่าเสียหายศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยทั้งสองต้องรับผิดต่อองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยเป็นเงิน144,580.48บาทซึ่งจำเลยที่2ในคดีดังกล่าวคือจำเลยที่4คดีนี้จำเลยที่4ได้ชำระเงิน195,183บาทไปแล้วเมื่อรวมกับความรับผิดของจำเลยทั้งสองที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ในคดีนี้จำนวน2,620,210.80บาทรวมยอดความรับผิดทั้งสิ้น2,764,791.28บาทจึงเกินวงเงินที่จำเลยที่4จะต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยที่จำกัดความรับผิดไว้เพียง500,000บาทดังนั้นจำเลยที่4จึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์คดีนี้เฉลี่ยตามส่วนที่ได้รับความเสียหายโดยต้องรับผิดเพียง473,853.27บาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7283/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อยกเว้นความรับผิดประกันภัย: การใช้รถโดยอู่ซ่อม ไม่ครอบคลุมการล้างทำความสะอาด
ข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยว่า "การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองการใช้โดยบุคคลของอู่เมื่อรถยนต์ได้มอบให้อู่ทำการซ่อม เว้นแต่การซ่อมนั้นบริษัทเป็นผู้สั่งหรือให้ความยินยอม" ดังนี้ การที่โจทก์นำรถยนต์ไปมอบให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ล้างทำความสะอาด มิใช่เป็นการมอบให้อู่ซ่อม และการที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างล้างรถขับรถของโจทก์ไปชนท้ายรถคันอื่นซึ่งจอดอยู่ในบริเวณเดียวกันโดยประมาท ก็มิใช่เป็นการใช้รถโดยบุคคลของอู่ซ่อมกรณีจึงไม่เข้าข้อยกเว้นความรับผิดของจำเลยที่ 3 ตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวจำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยจึงไม่อาจยกข้อยกเว้นความรับผิดดังกล่าวขึ้นปฏิเสธความรับผิดต่อโจทก์ผู้เอาประกันภัยได้