พบผลลัพธ์ทั้งหมด 171 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเพื่อประกันค่าวัสดุ การขึ้นเงินก่อนแลกเงินสดไม่เป็นความผิด
จำเลยซื้อเชื่อวัสดุเครื่องก่อสร้างจากผู้เสียหาย และสั่งจ่ายเช็คให้ยึดถือไว้เป็นประกันค่าวัสดุก่อสร้างโดยตกลงว่าจะต้องนำเช็คมาแลกเงินสดเสียก่อน การที่ผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินธนาคารและแจ้งความจำเลยโดยมิได้นำเช็คไปแลกเงินจากจำเลยตามข้อตกลง จึงเป็นการว่ากล่าวเอากับเช็คของจำเลยโดยที่ตนยังไม่มีอำนาจจะทำได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดพระราชบัญญัติ ฯลฯ การใช้เช็ค พ.ศ. 2497.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเพื่อประกันค่าวัสดุ การขึ้นเงินก่อนแลกเงินสดไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยซื้อเชื่อวัสดุเครื่องก่อสร้างจากผู้เสียหาย และสั่งจ่ายเช็คให้ยึดถือไว้เป็นประกันค่าวัสดุก่อสร้างโดยตกลงว่าจะต้องนำเช็คมาแลกเงินสดเสียก่อน การที่ผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินธนาคารและแจ้งความจำเลยโดยมิได้นำเช็คไปแลกเงินจากจำเลยตามข้อตกลง จึงเป็นการว่ากล่าวเอากับเช็คของจำเลยโดยที่ตนยังไม่มีอำนาจจะทำได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดพระราชบัญญัติ ฯลฯ การใช้เช็ค พ.ศ. 2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเพื่อประกันการชำระหนี้ การนำเช็คไปขึ้นเงินก่อนถึงกำหนดถือเป็นการว่ากล่าวเอากับเช็ค
จำเลยซื้อเชื่อวัสดุเครื่องก่อสร้างจากผู้เสียหาย และสั่งจ่ายเช็คให้ยึดถือไว้เป็นประกันค่าวัสดุก่อสร้างโดยตกลงว่าจะต้องนำเช็คมาแลกเงินสดเสียก่อน การที่ผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินธนาคารและแจ้งความจำเลยโดยมิได้นำเช็คไปแลกเงินจากจำเลยตามข้อตกลง จึงเป็นการว่ากล่าวเอากับเช็คของจำเลยโดยที่ตนยังไม่มีอำนาจจะทำได้ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดพระราชบัญญัติ ฯลฯ การใช้เช็ค พ.ศ. 2497
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1006/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียะกรรมไม่จำเป็นต้องมีแบบพิธี หากมีเจตนาไม่ให้มีผลผูกพัน
การบอกล้างนิติกรรมนั้น กฎหมายมิได้กำหนดหรือบังคับไว้ว่าจะต้องทำอย่างไรด้วยแบบพิธีอย่างไร
แม้หนังสือของโจทก์ที่มีถึงจำเลยมีใจความว่าให้จำเลยถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด แล้วเอาที่ดินตามโฉนดนั้นมาแบ่งปันให้พี่น้องจำเลยก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ไม่ให้นิติกรรม คือการลงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมีผลใช้ได้ต่อไป ซึ่งจะบังเกิดผลอย่างเดียวกับการบอกล้างโมฆียะกรรม ดังนี้ จึงถือได้ว่าโจทก์ได้บอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว
แม้หนังสือของโจทก์ที่มีถึงจำเลยมีใจความว่าให้จำเลยถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด แล้วเอาที่ดินตามโฉนดนั้นมาแบ่งปันให้พี่น้องจำเลยก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ไม่ให้นิติกรรม คือการลงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมีผลใช้ได้ต่อไป ซึ่งจะบังเกิดผลอย่างเดียวกับการบอกล้างโมฆียะกรรม ดังนี้ จึงถือได้ว่าโจทก์ได้บอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียะกรรมไม่จำเป็นต้องมีแบบพิธีเฉพาะ โจทก์แสดงเจตนาไม่ให้เกิดผลผูกพัน ถือเป็นการบอกล้าง
การบอกล้างนิติกรรมนั้น กฎหมายมิได้กำหนดหรือบังคับไว้ว่าจะต้องทำอย่างไรด้วยแบบพิธีอย่างไร
แม้หนังสือของโจทก์ที่มีถึงจำเลยจะมีใจความว่าให้จำเลยถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด แล้วเอาที่ดินตามโฉนดนั้นมาแบ่งปันให้พี่น้องจำเลยก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ไม่ให้นิติกรรม คือการลงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมีผลใช้ได้ต่อไป ซึ่งจะบังเกิดผลอย่างเดียวกับการบอกล้างโมฆียะกรรม ดังนี้ จึงถือได้ว่าโจทก์ได้บอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว
แม้หนังสือของโจทก์ที่มีถึงจำเลยจะมีใจความว่าให้จำเลยถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด แล้วเอาที่ดินตามโฉนดนั้นมาแบ่งปันให้พี่น้องจำเลยก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ไม่ให้นิติกรรม คือการลงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมีผลใช้ได้ต่อไป ซึ่งจะบังเกิดผลอย่างเดียวกับการบอกล้างโมฆียะกรรม ดังนี้ จึงถือได้ว่าโจทก์ได้บอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียะกรรมไม่จำเป็นต้องมีแบบพิธี หากแสดงเจตนาชัดเจน
การบอกล้างนิติกรรมนั้น กฎหมายมิได้กำหนดหรือบังคับไว้ว่าจะต้องทำอย่างไรด้วยแบบพิธีอย่างไร
แม้หนังสือของโจทก์ที่มีถึงจำเลยจะมีใจความว่าให้จำเลยถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด แล้วเอาที่ดินตามโฉนดนั้นมาแบ่งปันให้พี่น้องจำเลยก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ไม่ให้นิติกรรม คือการลงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมีผลใช้ได้ต่อไป ซึ่งจะบังเกิดผลอย่างเดียวกับการบอกล้างโมฆียะกรรม ดังนี้ จึงถือได้ว่าโจทก์ได้บอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว
แม้หนังสือของโจทก์ที่มีถึงจำเลยจะมีใจความว่าให้จำเลยถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด แล้วเอาที่ดินตามโฉนดนั้นมาแบ่งปันให้พี่น้องจำเลยก็ตาม แต่ก็เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ไม่ให้นิติกรรม คือการลงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมีผลใช้ได้ต่อไป ซึ่งจะบังเกิดผลอย่างเดียวกับการบอกล้างโมฆียะกรรม ดังนี้ จึงถือได้ว่าโจทก์ได้บอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1005/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกล้างโมฆียะกรรมไม่จำกัดรูปแบบ หากแสดงเจตนาชัดเจน
การบอกล้างนิติกรรมนั้น กฎหมายมิได้กำหนดหรือบังคับไว้ว่าจะต้องทำอย่างไรด้วยแบบพิธีอย่างไร.
แม้หนังสือของโจทก์ที่มีถึงจำเลยจะมีใจความว่าให้จำเลยถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด แล้วเอาที่ดินตามโฉนดนั้นมาแบ่งปันให้พี่น้องจำเลยก็ตาม. แต่ก็เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ไม่ให้นิติกรรม คือการลงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมีผลใช้ได้ต่อไป. ซึ่งจะบังเกิดผลอย่างเดียวกับการบอกล้างโมฆียะกรรม. ดังนี้ จึงถือได้ว่าโจทก์ได้บอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว.
แม้หนังสือของโจทก์ที่มีถึงจำเลยจะมีใจความว่าให้จำเลยถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนด แล้วเอาที่ดินตามโฉนดนั้นมาแบ่งปันให้พี่น้องจำเลยก็ตาม. แต่ก็เห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ไม่ให้นิติกรรม คือการลงชื่อจำเลยเป็นเจ้าของที่ดินนั้นมีผลใช้ได้ต่อไป. ซึ่งจะบังเกิดผลอย่างเดียวกับการบอกล้างโมฆียะกรรม. ดังนี้ จึงถือได้ว่าโจทก์ได้บอกล้างโมฆียะกรรมแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาคดีแพ่งควบคู่คดีอาญา ศาลฎีกาต้องยึดข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในส่วนอาญา
ในคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เมื่อคดีส่วนอาญายุติเพียงชั้นศาลอุทธรณ์. ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาของศาลอุทธรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงคดีแพ่งต้องสอดคล้องกับคำพิพากษาคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง ศาลฎีกายึดถือข้อเท็จจริงจากศาลอุทธรณ์ในส่วนอาญา
ในคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เมื่อคดีส่วนอาญายุติเพียงชั้นศาลอุทธรณ์ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาของศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1001/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงคดีแพ่ง-อาญาเชื่อมโยงกัน ศาลฎีกาต้องยึดข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีอาญา
ในคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เมื่อคดีส่วนอาญายุติเพียงชั้นศาลอุทธรณ์ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาของศาลอุทธรณ์