พบผลลัพธ์ทั้งหมด 223 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอการลงโทษโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหาและการกลับตัวเป็นคนดี
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริง แต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบ แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจรอการลงโทษโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหา และการรับฟังพยานหลักฐานที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริงแต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบแต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2)
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้นจะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้นจะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ดุลพินิจศาลในการรอการลงโทษ โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมที่ดีของผู้ต้องหาและการกลับตัวเป็นคนดี
ใบรับรองของโรงเรียนที่จำเลยส่งพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์. แม้จะไม่มีพยานบุคคลรับรองความถูกต้องแท้จริง. แต่โจทก์ก็มิได้แก้อุทธรณ์หรือคัดค้านในชั้นนั้น. และแม้จะเป็นการอ้างพยานเอกสารโดยผิดระเบียบ. แต่เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม. ศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ได้ในเมื่อจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2).
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี. เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว. การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น. จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า. การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร.
การที่จำเลยกำลังศึกษาเล่าเรียนอยู่ นับว่ากำลังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี. เมื่อเปรียบเทียบการให้จำคุกจำเลยไปทีเดียว. การรอการลงโทษเพื่อให้โอกาสจำเลยกลับไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดีเช่นนั้น. จะเป็นผลดีแก่จำเลยในทางกลับตัวได้ยิ่งกว่า. การรอการลงโทษจำเลยไว้จึงเป็นการสมควร.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฟ้องเท็จ (มาตรา 175) ต้องมีเจตนาและกล่าวหาผู้อื่นกระทำความผิด การบรรยายฟ้องเพื่อแสดงอำนาจฟ้อง ไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 175 ต้องเป็นการเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา และผู้กระทำจะต้องรู้ว่าความที่นำไปฟ้องนั้นเป็นเท็จด้วย เพียงแต่จำเลยบรรยายฟ้อง เพื่อให้เห็นว่ามีอำนาจฟ้องในคดีนั้น โดยไม่ใช่ข้อกล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิด หรือจำเลยไม่รู้ว่าความที่นำไปฟ้องนั้นเป็นเท็จ จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามมาตรา 175
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา ถ้าคดีไม่มีมูลให้พิพากษายกฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 167 นั้น จะทำเป็นรูปคำพิพากษาหรือคำสั่งก็ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 186 โดยต้องมีข้อเท็จจริงซึ่งพิจารณาได้ความและเหตุผลในการตัดสิน ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามควรแก่รูปคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา ถ้าคดีไม่มีมูลให้พิพากษายกฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 167 นั้น จะทำเป็นรูปคำพิพากษาหรือคำสั่งก็ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 186 โดยต้องมีข้อเท็จจริงซึ่งพิจารณาได้ความและเหตุผลในการตัดสิน ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามควรแก่รูปคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานฟ้องเท็จต้องมีเจตนาและข้อกล่าวหาว่าผู้อื่นกระทำความผิดอาญา การบรรยายฟ้องเพื่อแสดงอำนาจฟ้องไม่เป็นความผิด
ความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 175. ต้องเป็นการเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา. และผู้กระทำจะต้องรู้ว่าความที่นำไปฟ้องนั้นเป็นเท็จด้วย. เพียงแต่จำเลยบรรยายฟ้อง. เพื่อให้เห็นว่ามีอำนาจฟ้องในคดีนั้นโดยไม่ใช่ข้อกล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิด. หรือจำเลยไม่รู้ว่าความที่นำไปฟ้องนั้นเป็นเท็จ.จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามมาตรา 175.
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา ถ้าคดีไม่มีมูลให้พิพากษายกฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 167 นั้น. จะทำเป็นรูปคำพิพากษาหรือคำสั่งก็ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 186. โดยต้องมีข้อเท็จจริงซึ่งพิจารณาได้ความและเหตุผลในการตัดสิน ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามควรแก่รูปคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง.
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา ถ้าคดีไม่มีมูลให้พิพากษายกฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 167 นั้น. จะทำเป็นรูปคำพิพากษาหรือคำสั่งก็ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 186. โดยต้องมีข้อเท็จจริงซึ่งพิจารณาได้ความและเหตุผลในการตัดสิน ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามควรแก่รูปคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 243/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฟ้องเท็จตามมาตรา 175 ต้องมีเจตนาและข้อกล่าวหาความผิดอาญาชัดเจน การบรรยายฟ้องเพื่อแสดงอำนาจฟ้องไม่ถือเป็นความผิด
ความผิดฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 175ต้องเป็นการเอาความอันเป็นเท็จฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำความผิดอาญา และผู้กระทำจะต้องรู้ว่าความที่นำไปฟ้องนั้นเป็นเท็จด้วยเพียงแต่จำเลยบรรยายฟ้อง เพื่อให้เห็นว่ามีอำนาจฟ้องในคดีนั้นโดยไม่ใช่ข้อกล่าวหาว่าโจทก์กระทำผิด หรือจำเลยไม่รู้ว่าความที่นำไปฟ้องนั้นเป็นเท็จจำเลยย่อมไม่มีความผิดตามมาตรา 175
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา ถ้าคดีไม่มีมูลให้พิพากษายกฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 167 นั้น จะทำเป็นรูปคำพิพากษาหรือคำสั่งก็ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 186โดยต้องมีข้อเท็จจริงซึ่งพิจารณาได้ความและเหตุผลในการตัดสิน ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามควรแก่รูปคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
ชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา ถ้าคดีไม่มีมูลให้พิพากษายกฟ้อง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 167 นั้น จะทำเป็นรูปคำพิพากษาหรือคำสั่งก็ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งมาตรา 186โดยต้องมีข้อเท็จจริงซึ่งพิจารณาได้ความและเหตุผลในการตัดสิน ทั้งในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามควรแก่รูปคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ถูกต้องตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) ศาลฎีกายกฟ้อง
ฟ้องโจทก์ที่มิได้ลงชื่อ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(7) เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องคดีอาญาไม่ถูกต้องตามรูปแบบ ฟ้องไม่ลงชื่อโจทก์ ศาลฎีกายกฟ้อง
ฟ้องโจทก์ที่มิได้ลงชื่อ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (7) เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 228/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่ถูกต้องตามรูปแบบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ศาลฎีกายกฟ้อง
ฟ้องโจทก์ที่มิได้ลงชื่อ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้อง. เมื่อคดีขึ้นสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมพิพากษายกฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 198/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องคดีอาญา: อำนาจโจทก์และผลกระทบต่อจำเลย – สถานที่เกิดเหตุเป็นรายละเอียดที่แก้ไขได้
คดีที่โจทก์ระบุสถานที่เกิดเหตุมาในฟ้องผิดตำบล. ต่อมาก่อนที่จะเสร็จการสืบพยานจำเลย โจทก์จึงยื่นคำร้องขอแก้ไขฟ้องให้ตรงกับความเป็นจริง. ดังนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจกระทำได้เพราะสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำความผิดเป็นรายละเอียดซึ่งจะต้องแถลงในฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158. ฉะนั้น จึงไม่ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 164.