พบผลลัพธ์ทั้งหมด 10 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าถือเป็นการให้สัตยาบันสิทธิ โจทก์มีสิทธิฟ้องผู้เลียนแบบได้
บริษัทเจ้าของเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในภายหลัง แสดงว่าบริษัทดังกล่าวได้ให้สัตยาบันการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ในประเทศไทยแล้ว โจทก์จึงเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย มีอำนาจฟ้องผู้เลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ได้ เครื่องหมายการค้าของโจทก์เป็นอักษรโรมันว่า FRITOS อ่านว่าไฟรทอสหรือฟรีโดส์หรือฟรีโตส์ ส่วนเครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นอักษรโรมันว่า FREEDOS อ่านว่า ฟรีโดส์ เครื่องหมายการค้าของโจทก์ประกอบด้วยตัวอักษรโรมัน 6 ตัว ส่วนของจำเลยมี 7 ตัวแต่ซ้ำกันกับของโจทก์ถึง 4 ตัว คือ F,R,O,S, ตัวอักษรเครื่องหมายการค้าของจำเลย จึงมีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกับตัวอักษรในเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ส่วนการออกเสียงนั้นแม้คำของโจทก์จะสามารถอ่านออกเสียงได้หลายอย่าง ส่วนของจำเลยอ่านออกเสียงได้อย่างเดียว แต่ก็มีเสียงเพียง 2 พยางค์เกือบเหมือนหรือคล้ายกับของโจทก์ ทำให้สาธารณชนหลงผิดสับสนได้ว่า เครื่องหมายการค้าของจำเลยเป็นเครื่องหมายการค้าของโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดีกว่าจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและการคุ้มครองสิทธิในเครื่องหมายการค้าที่คล้ายคลึงกัน
บริษัทฟ.เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า FRITOS จดทะเบียนไว้ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2476 โจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายนี้ในประเทศไทย เมื่อปี 2524 นายทะเบียนเครื่องหมายการค้า ได้ออกคู่มือรับจดทะเบียนให้โจทก์ในปี 2525 ต่อมาปี 2530 บริษัทฟ. ได้ทำหนังสือมอบฉันทะให้โจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในประเทศไทย และประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกแสดงว่า บริษัทฟ. ได้ให้สัตยาบันการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์แล้ว โจทก์จึงเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าดังกล่าวในประเทศไทยมีอำนาจฟ้องผู้เลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ได้ เครื่องหมายการค้าคำว่า FREEDOS ของจำเลยและเครื่องหมายการค้าคำว่า FRITOS ของโจทก์ ต่างก็เป็นคำอักษรโรมัน อ่านออกเสียงสองพยางค์เหมือนกัน แม้เครื่องหมายการค้าของจำเลย จะมีรูปประดิษฐ์เป็นตัวอักษร F สองตัว หันหลังชนกันในกรอบสี่เหลี่ยมและมีภาษาไทยกำกับว่า ฟรีโดส์ แต่เครื่องหมายการค้าทั้งสองคำน่าจะมีสาระสำคัญอยู่ที่การอ่านออกเสียง หรือสำเนียงเรียกขานมากกว่าอย่างอื่น เครื่องหมายการค้าของจำเลยอ่านว่า ฟรีโดส์ มีสำเนียงใกล้เคียง หรือเกือบเหมือนกับเสียงอ่านเครื่องหมายการค้าของโจทก์คือคำว่า ฟรีโดส์หรือฟรีโตส์ อีกทั้งเครื่องหมายการค้าของโจทก์ประกอบด้วยตัวอักษรโรมัน 6 ตัว ส่วนของจำเลยมี 7 ตัว แต่ปรากฏว่ามีซ้ำกันถึง 4 ตัว จึงถือได้ว่าเครื่องหมายการค้า คำว่า FREEDOS ของจำเลยมีลักษณะตัวอักษรและการอ่านออกเสียง เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้า คำว่า FRITOS ของโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิดีกว่าจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1122/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: ความเหมือน/คล้ายคลึงกัน, สิทธิเจ้าของเครื่องหมาย, การใช้ก่อน, และการลอกเลียนแบบ
โจทก์จำเลยต่างยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในสินค้าจำพวกที่ 5ซึ่งเป็นคำประดิษฐ์อักษรโรมันออกเสียงเหมือนกันว่า นิโคล ต่างกันแต่เพียงว่าของโจทก์เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ว่า NICOLE ของจำเลยเป็นตัวพิมพ์เล็กว่า nicole เช่นนี้ ถือได้ว่าเครื่องหมายการค้าทั้งสองมีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกันอันอาจทำให้ประชาชนหรือผู้ซื้อผิดหลงได้ เมื่อจำเลยได้ใช้เครื่องหมายการค้ามาก่อน รวมทั้งได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้วกับสินค้าจำพวก 38รวมทั้งโฆษณาสินค้าดังกล่าวทางเอกสารสิ่งตีพิมพ์มาตลอด ในขณะที่โจทก์มิได้กระทำเลย อีกทั้งโจทก์อ้างว่าได้ลอกเลียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวจากนิตยสารญี่ปุ่น เครื่องหมายการค้าดังกล่าวจึงมิใช่เครื่องหมายการค้าที่โจทก์ประดิษฐ์ขึ้นอันจะถือว่าโจทก์เป็นเจ้าของได้ กรีณีจึงถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของและมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดีกว่าโจทก์ ดังนั้น เมื่อโจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวสำหรับใช้กับสินค้าของโจทก์ อันอาจทำให้ประชาชนหรือผู้ซื้อหลงเข้าใจว่าสินค้าของโจทก์เป็นของจำเลย แม้จะเป็นสินค้าต่างจำพวกกันก็ตาม ก็ย่อมทำให้จำเลยเสียหายได้ จำเลยย่อมมีสิทธิห้ามโจทก์ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1122/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เครื่องหมายการค้าเหมือน/คล้ายกัน ผู้ใช้ก่อนมีสิทธิมากกว่า แม้สินค้าต่างจำพวก
โจทก์จำเลยต่างยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในสินค้าจำพวกที่ 5 ซึ่งเป็นคำประดิษฐ์อักษรโรมันออกเสียงเหมือนกันว่านิโคล ต่างกันแต่เพียงว่าของโจทก์เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ว่า NICOLEของจำเลยเป็นตัวพิมพ์เล็กว่า nicole เช่นนี้ ถือได้ว่าเครื่องหมายการค้าทั้งสองมีลักษณะเหมือนหรือคล้ายกันอันอาจทำให้ประชาชนหรือผู้ซื้อผิดหลงได้ เมื่อจำเลยได้ใช้เครื่องหมายการค้ามาก่อน รวมทั้งได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าไว้แล้วกับสินค้าจำพวก 38 รวมทั้งโฆษณาสินค้าดังกล่าวทางเอกสารสิ่งตีพิมพ์มาตลอดในขณะที่โจทก์มิได้กระทำเลย อีกทั้งโจทก์อ้างว่าได้ลอกเลียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวจากนิตยสารญี่ปุ่น เครื่องหมายการค้าดังกล่าวจึงมิใช่เครื่องหมายการค้าที่โจทก์ประดิษฐ์ขึ้นอันจะถือว่าโจทก์เป็นเจ้าของได้ กรณีจึงถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของและมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าดีกว่าโจทก์ ดังนั้น เมื่อโจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวสำหรับใช้กับสินค้าของโจทก์อันอาจทำให้ประชาชนหรือผู้ซื้อหลงเข้าใจว่าสินค้าของโจทก์เป็นของจำเลย แม้จะเป็นสินค้าต่างจำพวกกันก็ตาม ก็ย่อมทำให้จำเลยเสียหายได้ จำเลยย่อมมีสิทธิห้ามโจทก์ใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4615/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: การใช้ก่อนยื่นจดทะเบียน & การโต้แย้งสิทธิโดยลูกจ้างเดิม
โจทก์ใช้เครื่องหมายการค้ารูปตัวอักษรโรมันคำ 'พี คิว' ซึ่งเป็นของบริษัทในสหรัฐอเมริกากับสินค้าน้ำมันเครื่องและผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ขณะนั้นจำเลยยังเป็นลูกจ้างของโจทก์ จำเลยยังไม่เคยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวเลย เช่นนี้ ในระหว่างโจทก์กับจำเลย โจทก์จึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าพิพาทดีกว่าจำเลย การที่จำเลยนำเครื่องหมายการค้าพิพาทไปยื่นขอจดทะเบียนโดยรู้ถึงสิทธิของโจทก์ จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย และการที่บริษัทต่างประเทศผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีนี้หาได้กระทบกระเทือนถึงสิทธิของโจทก์ไม่ เพราะโจทก์ฟ้องคดีตามสิทธิและในนามของตนเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4615/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: ผู้ใช้ก่อนมีสิทธิเหนือกว่า แม้ไม่ใช่เจ้าของสิทธิ
โจทก์ใช้เครื่องหมายการค้ารูปตัวอักษรโรมันคำ 'พีคิว'ซึ่งเป็นของบริษัทในสหรัฐอเมริกากับสินค้าน้ำมันเครื่องและผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำมันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ขณะนั้นจำเลยยังเป็นลูกจ้างของโจทก์ จำเลยยังไม่เคยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวเลย เช่นนี้ ในระหว่างโจทก์กับจำเลย โจทก์จึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าพิพาทดีกว่าจำเลย การที่จำเลยนำเครื่องหมายการค้าพิพาทไปยื่นขอจดทะเบียนโดยรู้ถึงสิทธิของโจทก์ จึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย และการที่บริษัทต่างประเทศผู้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีนี้หาได้กระทบกระเทือนถึงสิทธิของโจทก์ไม่ เพราะโจทก์ฟ้องคดีตามสิทธิและในนามของตนเอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4615/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: ผู้ใช้ก่อนมีสิทธิมากกว่า แม้ไม่ใช่เจ้าของ หากผู้ขอจดทะเบียนรู้ถึงสิทธิและกระทำไม่สุจริต
โจทก์สั่งสินค้าจากบริษัทต่างประเทศซึ่งมีเครื่องหมายการค้ารูปตัวอักษรโรมันคำ "พีคิว" เข้ามาจำหน่ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523ขณะนั้นจำเลยยังเป็นลูกจ้างของโจทก์ ยังไม่เคยใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าว ดังนี้โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าพิพาทดีกว่าจำเลยการที่จำเลยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าพิพาทโดยรู้ถึงสิทธิของโจทก์เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องเพิกถอนการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย และการที่บริษัทเจ้าของเครื่องหมายการค้าไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ฟ้องคดีหา กระทบกระเทือนถึงสิทธิของโจทก์ไม่ เพราะโจทก์ฟ้องคดีตามสิทธิและในนามของตนเอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การละเมิดเครื่องหมายการค้า: ผู้สั่งซื้อสินค้าติดเครื่องหมายการค้าไม่ใช่เจ้าของสิทธิ ไม่ถือว่าละเมิด
โจทก์จำเลยสั่งสินค้าชนิดเดียวกันจากบริษัทในต่างประเทศแห่งเดียวกันและบริษัทติดเครื่องหมาย "ฮิท"(HIT) ในสินค้านั้นมา แต่เครื่องหมายไม่เหมือนกับที่จำเลยจดทะเบียนไว้ในประเทศไทยและสินค้าที่จำเลยสั่งมา จำเลยให้บริษัททำเครื่องหมายแตกต่างจากเดิมเล็กน้อย ดังนี้การที่โจทก์สั่งสินค้าเครื่องหมาย "ฮิท"(HIT) ตามธรรมดา (ซึ่งไม่เหมือนกับที่จำเลยสั่ง) เข้ามาจำหน่ายไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1744/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: การสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศที่มีเครื่องหมายคล้ายกัน ไม่ถือเป็นการละเมิด หากไม่ใช่เจ้าของเครื่องหมาย
โจทก์จำเลยสั่งสินค้าชนิดเดียวกันจากบริษัทในต่างประเทศแห่งเดียวกันและบริษัทติดเครื่องหมาย "ฮิท" (Hit) ในสินค้านั้นมา แต่เครื่องหมายไม่เหมือนกับที่จำเลยจดทะเบียนไว้ในประเทศไทยและสินค้าที่จำเลยสั่งมา จำเลยให้บริษัททำเครื่องหมายแตกต่างจากเดิมเล็กน้อย ดังนี้ การที่โจทก์สั่งสินค้าเครื่องหมาย "ฮิท" (Hit) ตามธรรมดา (ซึ่งไม่เหมือนกับที่จำเลยสั่ง) เข้ามาจำหน่ายไม่เป็นการละเมิดต่อกิจการจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 366/2500
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในเครื่องหมายการค้า: ผู้ขอจดทะเบียนต้องเป็นเจ้าของหรือได้รับมอบฉันทะ การจำหน่ายสินค้าไม่ถือเป็นการละเมิด
ผู้ที่จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้ จะต้องเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นๆแต่ไม่จำต้องเป็นผู้ทำสินค้านั้นขึ้นเองก็ได้และถ้าบุคคลผู้ขอจดทะเบียนไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นแล้วผู้ขอจดทะเบียนจะต้องได้รับมอบฉันทะจากเจ้าของเสียก่อน
เครื่องหมายการค้า'SIMILAC'ที่โจทก์ฟ้องนี้ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทเอมแอนด์อาร์ใดเอทเตติกลาบอแรตตอรี่ สำหรับใช้กับแป้งนมซึ่งบริษัทเป็นผู้ผลิตขึ้นจำหน่าย หาใช่เครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่ โจทก์เป็นแต่ผู้จำหน่ายแป้งนมนี้เท่านั้นและบริษัทผู้ผลิตมิได้มอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ไปขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ต่อเจ้าพนักงานที่โจทก์ไปขอทะเบียนเครื่องหมายการค้า'SIMILAC'จึงเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ตามนัยของมาตรา37 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าจำเลยเป็นแต่ผู้สั่งแป้งนมSIMILACเข้ามาจำหน่าย มิใช่เป็นผู้ใช้เครื่องหมายการค้านี้เอง จำเลยจึงมิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้
เครื่องหมายการค้า'SIMILAC'ที่โจทก์ฟ้องนี้ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัทเอมแอนด์อาร์ใดเอทเตติกลาบอแรตตอรี่ สำหรับใช้กับแป้งนมซึ่งบริษัทเป็นผู้ผลิตขึ้นจำหน่าย หาใช่เครื่องหมายการค้าของโจทก์ไม่ โจทก์เป็นแต่ผู้จำหน่ายแป้งนมนี้เท่านั้นและบริษัทผู้ผลิตมิได้มอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ไปขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ต่อเจ้าพนักงานที่โจทก์ไปขอทะเบียนเครื่องหมายการค้า'SIMILAC'จึงเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ตามนัยของมาตรา37 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าจำเลยเป็นแต่ผู้สั่งแป้งนมSIMILACเข้ามาจำหน่าย มิใช่เป็นผู้ใช้เครื่องหมายการค้านี้เอง จำเลยจึงมิได้ละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยไม่ได้