พบผลลัพธ์ทั้งหมด 641 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คำพิพากษาคดีเดิมผูกพันคู่ความ การฟ้องกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ใหม่จึงเป็นการเถียงรื้อฟื้นคดี
เดิมจำเลยฟ้องขอให้ถอนชื่อโจทก์จากโฉนดโดยอ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าบุคคลภายนอกยกที่ดินให้แก่โจทก์ ศาลคดีเดิมพิพากษา คดีถึงที่สุดว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย คำพิพากษาของศาลคดีเดิมย่อมผูกพันโจทก์จำเลย ดังนั้น การที่โจทก์กลับมาฟ้องกล่าวอ้างว่า จำเลยแบ่งขายที่พิพาทให้โจทก์ครึ่งหนึ่งจึงเท่ากับเป็นการเถียงรื้อฟื้นคดีเดิมว่า ที่พิพาทไม่ใช่เป็นของจำเลยทั้งหมด แต่เป็นของโจทก์ครึ่งหนึ่ง กรณีจึงเป็นการฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ: คำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคู่ความ ห้ามเถียงรื้อฟื้นประเด็นเดิม
เดิมจำเลยฟ้องขอให้ถอนชื่อโจทก์จากโฉนดโดยอ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลย โจทก์ต่อสู้ว่าบุคคลภายนอกยกที่ดินให้แก่โจทก์ ศาลคดีเดิมพิพากษาคดีถึงที่สุดว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย คำพิพากษาของศาลคดีเดิมย่อมผูกพันโจทก์จำเลย ดังนั้น การที่โจทก์กลับมาฟ้องกล่าวอ้างว่า จำเลยแบ่งขายที่พิพาทให้โจทก์ครึ่งหนึ่งจึงเท่ากับเป็นการเถียงรื้อฟื้นคดีเดิมว่าที่พิพาทไม่ใช่เป็นของจำเลยทั้งหมด แต่เป็นของโจทก์ครึ่งหนึ่ง กรณีจึงเป็นการฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของเจ้าหนี้ในการร้องสอดคดีแบ่งมรดก แม้จำเลยตกลงจะขายที่ดินเพื่อชำระหนี้ ก็ไม่ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกจากจำเลย ผู้ร้องสอดอ้างว่าที่แปลงนี้เป็นของจำเลยแล้ว จำเลยกู้เงินผู้ร้องสอดไปแล้วตกลงยอมขายที่แปลงนี้ทั้งหมดแก่ผู้ร้องสอดเพื่อเป็นการชำระหนี้ ถ้าจำเลยแพ้คดีผู้ร้องสอดจะได้รับความเสียหายขอเข้ามาเป็นคู่ความร่วม ข้ออ้างดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องสอดมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของเจ้าหนี้ในการร้องสอดคดีแบ่งมรดก: ผู้ร้องสอดต้องมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีจึงจะร้องสอดได้
โจทก์ฟ้องขอแบ่งที่ดินมรดกจากจำเลย ผู้ร้องสอดอ้างว่าที่แปลงนี้เป็นของจำเลยแล้ว จำเลยกู้เงินผู้ร้องสอดไปแล้วตกลงยอมขายที่แปลงนี้ทั้งหมดแก่ผู้ร้องสอดเพื่อเป็นการชำระหนี้ ถ้าจำเลยแพ้คดีผู้ร้องสอดจะได้รับความเสียหายขอเข้ามาเป็นคู่ความร่วม ข้ออ้างดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องสอดมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อและพิพากษาคดีแพ่งผิดพลาด ถือเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ
ธนาคารฟ้องขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน โจทก์ได้ให้การต่อสู้คดีว่า นายมานิตย์ได้ชำระเงินตามตั๋วแลกเงินให้ธนาคารฯ แทนโจทก์ตามเช็คเลขที่ เค.0343109 แล้ว ข้อที่ว่าธนาคารได้รับเช็คชำระเงินตามตั๋วแลกเงินแล้วหรือไม่ จึงเป็นข้อสำคัญในคดี ฉะนั้น ที่จำเลยเบิกความในฐานะผู้จัดการธนาคารฯ ว่าได้รับแต่ตั๋วแลกเงินจากโจทก์ ไม่มีเช็คกำกับด้วย อันเป็นความเท็จ ถือได้ว่าจำเลยได้เบิกความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีการกระทำของจำเลยจึงมีมูลเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องหาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 93/2513)
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องหาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 93/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบิกความเท็จเป็นเหตุให้ศาลหลงเชื่อและพิพากษาคดีแพ่งผิดพลาด ถือเป็นข้อสำคัญในคดีอาญา
ธนาคารฟ้องขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินตามตั๋วแลกเงิน โจทก์ได้ให้การต่อสู้คดีว่า นายมานิตย์ได้ชำระเงินตามตั๋วแลกเงินให้ธนาคารฯ แทนโจทก์ ตามเช็คเลขที่ เค.0343109 แล้ว ข้อที่ว่าธนาคารได้รับเช็คชำระเงินตามตั๋วแลกเงินแล้วหรือไม่ จึงเป็นข้อสำคัญในคดี ฉะนั้น ที่จำเลยเบิกความในฐานะผู้จัดการธนาคารฯ ว่าได้รับแต่ตั๋วแลกเงินจากโจทก์ไม่มีเช็คกำกับด้วย อันเป็นความเท็จ ถือได้ว่าจำเลยได้เบิกความเท็จอันเป็นข้อสำคัญในคดีการกระทำของจำเลยจึงมีมูลเป็นความผิดฐานเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 93/2512)
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องคดีอาญาเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ และเมื่อการพิจารณาเป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้องซึ่งจำเลยยังมิได้ให้การ ยังไม่ปรากฏว่าจำเลยหลงข้อต่อสู้จึงยกเอาเหตุข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องขึ้น ยกฟ้องในชั้นนี้ยังไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 93/2512)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองหลายสิ่งประกันหนี้เดียว: แบ่งภาระตามจำนวนเงินจำนอง, คืนส่วนเกิน, ห้ามรวมหนี้
การจำนองทรัพย์สินหลายสิ่งเพื่อประกันหนี้รายหนึ่งรายเดียวโดยมิได้ระบุอันดับไว้ แต่ระบุจำนวนเงินจำนองไว้เฉพาะทรัพย์สินแต่ละสิ่ง หากผู้รับจำนองใช้สิทธิบังคับทรัพย์สินทั้งหมดพร้อมกันเช่นนี้ต้องแบ่งภาระแห่งหนี้นั้นกระจายไปตามจำนวนเงินจำนองที่ระบุไว้เฉพาะทรัพย์สิ่งนั้นๆ ซึ่งผลก็คือ หากขายทอดตลาดทรัพย์สิ่งใดได้เงินเกินกว่าจำนวนที่ระบุในสัญญาจำนอง ก็ต้องคืนส่วนที่เกินให้ผู้จำนองไป และทรัพย์สิ่งใดขายได้ไม่คุ้มจำนวนที่ระบุในสัญญาจำนองส่วนที่ขาดก็เป็นอันพับไป จะเอาหนี้จำนองแต่ละรายมารวมกันตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนองหลายสิ่งประกันหนี้เดียว การบังคับชำระหนี้แบ่งตามจำนวนเงินจำนองแต่ละทรัพย์
การจำนองทรัพย์สินหลายสิ่งเพื่อประกันหนี้รายหนึ่งรายเดียวโดยมิได้ระบุอันดับไว้ แต่ระบุจำนวนเงินจำนองไว้เฉพาะทรัพย์สินแต่ละสิ่ง หากผู้รับจำนองใช้สิทธิบังคับทรัพย์สินทั้งหมดพร้อมกันเช่นนี้ ต้องแบ่งภาระแห่งหนี้นั้นกระจายไปตามจำนวนเงินจำนองที่ระบุไว้เฉพาะทรัพย์สิ่งนั้นๆ ซึ่งผลก็คือ หากขายทอดตลาดทรัพย์สิ่งใดได้เงินเกินกว่าจำนวนที่ระบุในสัญญาจำนอง ก็ต้องคืนส่วนที่เกินให้ผู้จำนองไป และทรัพย์สิ่งใดขายได้ไม่คุ้มจำนวนที่ระบุในสัญญาจำนองส่วนที่ขาดก็เป็นอันพับไป จะเอาหนี้จำนองแต่ละรายมารวมกันตั้งเป็นเกณฑ์คำนวณมิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแต่ด้วยเหตุผลอื่น และผลคำพิพากษาไม่ตัดสิทธิโจทก์ในการฟ้องคดีใหม่
แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้จำเลยชนะคดี แต่ถ้าจำเลยเห็นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ถูกต้องตรงตามประเด็นและผลของคำพิพากษาทำให้เสียสิทธิของจำเลย จำเลยก็มีสิทธิฎีกาได้
คดีมีประเด็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์อ้างว่าเข้าหุ้นส่วนกับจำเลยคืนได้หรือไม่ ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับจำเลยจึงยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการนำสืบของโจทก์นอกฟ้องนอกประเด็น จึงพิพากษายืน ผลก็คือโจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาตรงตามประเด็นแล้ว
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ภายในอายุความนั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยสั่งได้
คดีมีประเด็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์อ้างว่าเข้าหุ้นส่วนกับจำเลยคืนได้หรือไม่ ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับจำเลยจึงยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการนำสืบของโจทก์นอกฟ้องนอกประเด็น จึงพิพากษายืน ผลก็คือโจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาตรงตามประเด็นแล้ว
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ภายในอายุความนั้น เป็นดุลพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยสั่งได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 524/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาแม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ชนะคดี หากวินิจฉัยไม่ตรงประเด็นและกระทบสิทธิ
แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้จำเลยชนะคดี แต่ถ้าจำเลยเห็นว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยไม่ถูกต้องตรงตามประเด็น และผลของคำพิพากษาทำให้เสียสิทธิของจำเลย จำเลยก็มีสิทธิฎีกาได้
คดีมีประเด็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์อ้างว่าเข้าหุ้นส่วนกับจำเลยคืนได้หรือไม่ ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับจำเลยจึงยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการนำสืบของโจทก์นอกฟ้องนอกประเด็นจึงพิพากษายืน ผลก็คือโจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาตรงตามประเด็นแล้ว
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ภายในอายุความนั้น เป็นดุลยพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยสั่งได้
คดีมีประเด็นว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินที่โจทก์อ้างว่าเข้าหุ้นส่วนกับจำเลยคืนได้หรือไม่ ศาลชั้นต้นฟังว่าโจทก์ไม่ได้เข้าหุ้นส่วนกับจำเลยจึงยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการนำสืบของโจทก์นอกฟ้องนอกประเด็นจึงพิพากษายืน ผลก็คือโจทก์ฟ้องเรียกเงินคืนจากจำเลยไม่ได้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษาตรงตามประเด็นแล้ว
การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะนำคดีมาฟ้องใหม่ภายในอายุความนั้น เป็นดุลยพินิจของศาลที่จะวินิจฉัยสั่งได้