พบผลลัพธ์ทั้งหมด 641 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งต้องมีสิทธิและหน้าที่ทางแพ่งพร้อมบริบูรณ์ การฟ้องเรียกค่าซ่อมแซมยังไม่เป็นหนี้ที่พร้อมบังคับได้
ฟ้องแย้งก็เป็นฟ้องอย่างหนึ่งที่จะต้องเข้าลักษณะทั่วไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 คือตามฟ้องนั้นได้มีสิทธิและหน้าที่ทางแพ่งโต้แย้งกันอยู่พร้อมบริบูรณ์แล้ว จึงจะฟ้องกันได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าตึกแถวโจทก์ โจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว ขอให้ศาลบังคับขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายจำเลยฟ้องแย้งว่าจำเลยซ่อมแซมห้องเช่า หากจำเลยต้องออกจากห้องเช่า โจทก์ต้องใช้เงินค่าซ่อมให้โจทก์จึงขอฟ้องแย้งดังนี้ จำเลยหาได้มีสิทธิเป็นเจ้าหนี้อยู่พร้อมบริบูรณ์ในขณะที่ยื่นฟ้องแย้งเข้ามาไม่ เป็นหนี้ที่หากจะถือว่ามีได้ก็เป็นหนี้ที่อาจมีในภายหน้าเท่านั้นยังไม่ใช่หนี้ที่พร้อมบริบูรณ์แล้วสำหรับยื่นฟ้องต่อศาลขอให้บังคับคดีได้ ศาลย่อมไม่รับฟ้องแย้งจำเลย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าตึกแถวโจทก์ โจทก์บอกเลิกสัญญาแล้ว ขอให้ศาลบังคับขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายจำเลยฟ้องแย้งว่าจำเลยซ่อมแซมห้องเช่า หากจำเลยต้องออกจากห้องเช่า โจทก์ต้องใช้เงินค่าซ่อมให้โจทก์จึงขอฟ้องแย้งดังนี้ จำเลยหาได้มีสิทธิเป็นเจ้าหนี้อยู่พร้อมบริบูรณ์ในขณะที่ยื่นฟ้องแย้งเข้ามาไม่ เป็นหนี้ที่หากจะถือว่ามีได้ก็เป็นหนี้ที่อาจมีในภายหน้าเท่านั้นยังไม่ใช่หนี้ที่พร้อมบริบูรณ์แล้วสำหรับยื่นฟ้องต่อศาลขอให้บังคับคดีได้ ศาลย่อมไม่รับฟ้องแย้งจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้อง ไม่ใช่สาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องยังใช้ได้
วันเวลาเกิดเหตุในคำฟ้องเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่. ฉะนั้น แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าเหตุเกิดคนละวันกับที่ระบุมาในฟ้อง. และจำเลยก็มิได้หลงข้อต่อสู้. ย่อมเป็นฟ้องที่ใช้ได้ (เทียบฎีกาที่ 926/2510 ในที่ประชุมใหญ่).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้องไม่เป็นสาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงข้อต่อสู้ ฟ้องยังใช้ได้
วันเวลาเกิดเหตุในคำฟ้องเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ ฉะนั้น แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าเหตุเกิดคนละวันกับที่ระบุมาในฟ้อง และจำเลยก็มิได้หลงข้อต่อสู้ ย่อมเป็นฟ้องที่ใช้ได้ (เทียบฎีกาที่ 926/2510 ในที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 93/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วันเวลาเกิดเหตุในฟ้อง ไม่ใช่สาระสำคัญ หากจำเลยไม่หลงต่อสู้ ศาลยังสามารถลงโทษได้
วันเวลาเกิดเหตุในคำฟ้องเป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง หาใช่ข้อสารสำคัญไม่ ฉะนั้น แม้ทางพิจารณาจะฟังว่าเหตุเกิดคนละวันกับที่ระบุมาในฟ้องและจำเลยก็มิได้หลงข้อต่อสู้ย่อมเป็นฟ้องที่ใช้ได้ (เทียบฎีกาที่ 926/2510 ในที่ประชุมใหญ่)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำเหมืองแร่กับการขัดขวางการทำเหมือง ประทานบัตรไม่ได้ให้สิทธิครอบครองที่ดิน
ตามมาตรา 50, 73 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้น ไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินอยู่ในเขตประทานบัตรด้วย แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำเหมืองแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้ว ผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิทำเหมืองแร่และการขัดขวางการทำเหมือง ผู้รับประทานบัตรมีอำนาจฟ้องได้ แม้ประทานบัตรจะหมดอายุและอยู่ระหว่างต่ออายุ
ตามมาตรา 50,73 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้น. ไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินอยู่ในเขตประทานบัตรด้วย. แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำเหมืองแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้ว. ผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิประทานบัตรทำเหมืองแร่กับการขัดขวางการทำเหมือง ผู้รับประทานบัตรมีสิทธิฟ้อง แม้ประทานบัตรจะหมดอายุแต่ยังอยู่ในระหว่างต่ออายุ
ตามมาตรา 50,73 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 การได้รับประทานบัตรให้ทำเหมืองแร่นั้น ไม่ทำให้ผู้นั้นได้สิทธิครอบครองที่ดินอยู่ในเขตประทานบัตรด้วย แต่เมื่อมีผู้ใดเข้าไปขัดขวางในการทำเหมืองแร่ในเขตประทานบัตรโดยไม่มีอำนาจโดยชอบแล้ว ผู้ได้รับประทานบัตรก็ย่อมมีอำนาจฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2094/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องถอนอายัดที่ดินตามคำพิพากษาศาลฎีกา โดยไม่ตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติม แม้มีบุริมสิทธิ
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสองให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ถอนการอายัดที่ดินซึ่งศาลได้พิพากษาบังคับให้จำเลยลูกหนี้โอนขายให้แก่ผู้ร้องตามสัญญาจะซื้อขาย แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องถอนการอายัดเพื่อให้คำพิพากษามีผลบังคับตามกฎหมาย การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะตั้งข้อกำหนดเป็นเงื่อนไขในการถอนอายัดโดยให้ต้องจดทะเบียนจำนวนเงินค่าซื้อที่ดินที่ยังค้างชำระอันเป็นบุริมสิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์ ตลอดทั้งห้ามผู้รับโอนนำที่ดินนี้ไปทำนิติกรรมใดๆ มิได้ นอกจากจะนำไปจัดสรรเพื่อนำเงินที่ค้างมาชำระแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาอันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีสิทธิจะกระทำได้
ส่วนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อ้างว่ามีสิทธิที่จะขอให้จดทะเบียนบุริมสิทธิในมูลซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 273,276 ซึ่งหากไม่จดทะเบียนก็ไม่มีผลตามมาตรา 288นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อคู่สัญญามิได้ระบุให้จดทะเบียนไว้ ศาลก็มิอาจพิพากษาให้ครอบคลุมไปถึงได้
ส่วนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อ้างว่ามีสิทธิที่จะขอให้จดทะเบียนบุริมสิทธิในมูลซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 273,276 ซึ่งหากไม่จดทะเบียนก็ไม่มีผลตามมาตรา 288นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อคู่สัญญามิได้ระบุให้จดทะเบียนไว้ ศาลก็มิอาจพิพากษาให้ครอบคลุมไปถึงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2094/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการถอนอายัดที่ดิน: เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาโดยไม่มีเงื่อนไข
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสองให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ถอนการอายัดที่ดินซึ่งศาลได้พิพากษาบังคับให้จำเลยลูกหนี้โอนขายให้แก่ผู้ร้องตามสัญญาจะซื้อขาย แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องถอนการอายัดเพื่อให้คำพิพากษามีผลบังคับตามกฎหมาย การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะตั้งข้อกำหนดเป็นเงื่อนไขในการถอนอายัดโดยให้ต้องจดทะเบียนจำนวนเงินค่าซื้อที่ดินที่ยังค้างชำระอันเป็นบุริมสิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์ ตลอดทั้งห้ามผู้รับโอนนำที่ดินนี้ไปทำนิติกรรมใด ๆ มิได้ นอกจากจะนำไปจัดสรรเพื่อนำเงินที่ค้างมาชำระแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาอันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีสิทธิจะกระทำได้
ส่วนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อ้างว่ามีสิทธิที่จะขอให้จดทะเบียนบุริมสิทธิในมูลซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 273,276 ซึ่งหากไม่จดทะเบียนก็ไม่มีผลตามมาตรา 288นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อคู่สัญญามิได้ระบุให้จดทะเบียนไว้ ศาลก็มิอาจพิพากษาให้ครอบคลุมไปถึงได้
ส่วนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อ้างว่ามีสิทธิที่จะขอให้จดทะเบียนบุริมสิทธิในมูลซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 273,276 ซึ่งหากไม่จดทะเบียนก็ไม่มีผลตามมาตรา 288นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อคู่สัญญามิได้ระบุให้จดทะเบียนไว้ ศาลก็มิอาจพิพากษาให้ครอบคลุมไปถึงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2094/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนอายัดที่ดินตามคำพิพากษาศาลฎีกา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่อาจตั้งเงื่อนไขเพิ่มเติมได้
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลล่างทั้งสองให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ถอนการอายัดที่ดินซึ่งศาลได้พิพากษาบังคับให้จำเลยลูกหนี้โอนขายให้แก่ผู้ร้องตามสัญญาจะซื้อขาย. แต่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะต้องถอนการอายัดเพื่อให้คำพิพากษามีผลบังคับตามกฎหมาย. การที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะตั้งข้อกำหนดเป็นเงื่อนไขในการถอนอายัดโดยให้ต้องจดทะเบียนจำนวนเงินค่าซื้อที่ดินที่ยังค้างชำระอันเป็นบุริมสิทธิเหนืออสังหาริมทรัพย์. ตลอดทั้งห้ามผู้รับโอนนำที่ดินนี้ไปทำนิติกรรมใดๆ มิได้. นอกจากจะนำไปจัดสรรเพื่อนำเงินที่ค้างมาชำระแก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาอันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีสิทธิจะกระทำได้.
ส่วนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อ้างว่ามีสิทธิที่จะขอให้จดทะเบียนบุริมสิทธิในมูลซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 273,276. ซึ่งหากไม่จดทะเบียนก็ไม่มีผลตามมาตรา 288นั้น. ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อคู่สัญญามิได้ระบุให้จดทะเบียนไว้. ศาลก็มิอาจพิพากษาให้ครอบคลุมไปถึงได้.
ส่วนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อ้างว่ามีสิทธิที่จะขอให้จดทะเบียนบุริมสิทธิในมูลซื้ออสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีอยู่เหนืออสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 273,276. ซึ่งหากไม่จดทะเบียนก็ไม่มีผลตามมาตรา 288นั้น. ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อคู่สัญญามิได้ระบุให้จดทะเบียนไว้. ศาลก็มิอาจพิพากษาให้ครอบคลุมไปถึงได้.