คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เฉลิม ทัตภิรมย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 641 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ในหน้าที่ vs. ความผิดฐานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ทุจริต ศาลฎีกาชี้ว่าความผิดฐานยักยอกทรัพย์เป็นบทเฉพาะที่ต้องพิจารณาก่อน
จำเลยเป็นเสมียนตราจังหวัดมีหน้าที่รับจ่ายและเก็บรักษาเงินของราชการส่วนจังหวัดและราชการส่วนอื่นๆ. โดยเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกเงินที่ตนรับไว้ในตำแหน่งหน้าที่เป็นประโยชน์ส่วนตน ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147. ไม่ใช่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151.และเมื่อเป็นความผิดตามมาตรา 147 แล้ว. ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 157 อีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานยักยอกเงินของข้าราชการ: พิจารณาบทมาตรา 147, 151, และ 157
จำเลยเป็นเสมียนตราจังหวัดมีหน้าที่รับจ่ายและเก็บรักษาเงินของราชการส่วนจังหวัดและราชการส่วนอื่น ๆ โดยเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกเงินที่ตนรับไว้ในตำแหน่งหน้าที่เป็นประโยชน์ส่วนตน ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ไม่ใช่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และเมื่อเป็นความผิดตามมาตรา 147 แล้ว ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 157 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้าราชการทุจริตยักยอกเงิน เบียดบังทรัพย์ในหน้าที่ ความผิดตามมาตรา 147 ไม่ใช่ 151 หรือ 157
จำเลยเป็นเสมียนตราจังหวัดมีหน้าที่รับจ่ายและเก็บรักษาเงินของราชการส่วนจังหวัดและราชการส่วนอื่นๆ โดยเจตนาทุจริตเบียดบังยักยอกเงินที่ตนรับไว้ในตำแหน่งหน้าที่เป็นประโยชน์ส่วนตน ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา147 ไม่ใช่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และเมื่อเป็นความผิดตามมาตรา 147 แล้ว ก็ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 157 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาหลังขอผัดฟ้องโดยเข้าใจผิด ไม่ขัดต่อข้อห้ามตามกฎหมาย
เมื่อไม่มีเหตุที่จะต้องขอผัดฟ้องแล้ว หากเผอิญไปขอผัดฟ้องเข้าเพราะความเข้าใจผิด กรณีจึงไม่เข้าข้อห้ามตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 ที่ห้ามไว้ไม่ให้ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาหลังขอผัดฟ้องไปแล้ว แม้จะเกินกำหนด ไม่ถือเป็นเหตุต้องห้ามฟ้อง
เมื่อไม่มีเหตุที่จะต้องขอผัดฟ้องแล้ว. หากเผอิญไปขอผัดฟ้องเข้าเพราะความเข้าใจผิด. กรณีจึงไม่เข้าข้อห้ามตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499. ที่ห้ามไว้ไม่ให้ฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 586/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอผัดฟ้องโดยไม่จำเป็นและการฟ้องคดีอาญาภายหลัง กรณีไม่เข้าข้อห้ามตามกฎหมาย
เมื่อไม่มีเหตุที่จะต้องขอผัดฟ้องแล้วหากเผอิญไปขอผัดฟ้องเข้าเพราะความเข้าใจผิด กรณีจึงไม่เข้าข้อห้ามตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ.2499. ที่ห้ามไว้ไม่ให้ฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงข้อความเท็จเพื่อทำประกันภัยและการเรียกร้องค่าเสียหายจากค่าสืบหาความจริง
ผู้เอาประกันภัยแสดงข้อความเท็จเพื่อให้ผู้รับประกันภัยทำสัญญาประกันภัยด้วย แล้วผู้เอาประกันภัยเอาเรื่องอุบัติเหตุเท็จไปแจ้งเพื่อขอรับเงินซึ่งเอาประกันภัย ผู้รับประกันภัยไม่จ่าย แต่จ้างผู้มีชื่อสืบหาความจริง เสียค่าจ้าง 7,771.10 บาท การที่ผู้เอาประกันภัยแสดงข้อความเท็จอันเป็นเหตุให้ผู้รับประกันภัยทำสัญญาประกันภัยด้วย ไม่ใช่การกระทำละเมิดเป็นแต่เรื่องกลฉ้อฉลเท่านั้น ส่วนเงิน7,771.10 บาทนั้น ก็ไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงของการกระทำของผู้เอาประกันภัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กลฉ้อฉลการประกันภัยและการเรียกร้องค่าเสียหายจากการสืบหาความจริง
ผู้เอาประกันภัยแสดงข้อความเท็จเพื่อให้ผู้รับประกันภัยทำสัญญาประกันภัยด้วย. แล้วผู้เอาประกันภัยเอาเรื่องอุบัติเหตุเท็จไปแจ้งเพื่อขอรับเงินซึ่งเอาประกันภัย. ผู้รับประกันภัยไม่จ่าย. แต่จ้างผู้มีชื่อสืบหาความจริง เสียค่าจ้าง7,771.10 บาท. การที่ผู้เอาประกันภัยแสดงข้อความเท็จอันเป็นเหตุให้ผู้รับประกันภัยทำสัญญาประกันภัยด้วย. ไม่ใช่การกระทำละเมิดเป็นแต่เรื่องกลฉ้อฉลเท่านั้น. ส่วนเงิน7,771.10 บาทนั้น ก็ไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงของการกระทำของผู้เอาประกันภัย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 525/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงข้อความเท็จเพื่อเอาประกันภัยและการเรียกร้องค่าเสียหายจากการสืบหาความจริง ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นการกลฉ้อฉล ไม่ใช่ละเมิด
ผู้เอาประกันภัยมาแสดงข้อความเท็จเพื่อให้ผู้รับประกันภัยทำสัญญาประกันภัยด้วย แล้วผู้เอาประกันภัยเอาเรื่องอุบัติเหตุเท็จไปแจ้งเพื่อขอรับเงินซึ่งเอาประกันภัย ผู้รับประกันภัยไม่จ่าย แต่จ้างผู้มีชื่อสืบหาความจริง เสียค่าจ้าง 7,771.10 บาท การที่ผู้เอาประกันภัยแสดงข้อความเท็จอันเป็นเหตุให้ผู้รับประกันภัยทำสัญญาประกันภัยด้วย ไม่ใช่การกระทำละเมิดเป็นแต่เรื่องกลฉ้อฉลเท่านั้น ส่วนเงิน 7,771.10 บาทนั้น ก็ไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงของการกระทำของผู้เอาประกันภัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนต่างด้าวรับมรดก/พินัยกรรม: สัญญาประนีประนอมมีผลผูกพันหากมีสิทธิขออนุญาตถือครองที่ดินได้
ถ้าคนต่างด้าวผู้รับพินัยกรรมมีสิทธิหรือมีทางที่จะขออนุญาตถือที่ดินได้ พินัยกรรมก็ไม่เป็นโมฆะ
โจทก์จำเลยต่างเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้ามรดก และได้ทำสัญญาประนีประนอมกันว่าจำเลยจะโอนที่ดินให้โจทก์ตามส่วนในพินัยกรรมเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยผู้รับผิด จึงบังคับตามสัญญาได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1750 ส่วนโจทก์ที่เป็นคนต่างด้าวก็ให้ไปจัดการตามประมวลกฎหมายที่ดินก่อน (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2511)
of 65