พบผลลัพธ์ทั้งหมด 641 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินจากการขอประทานบัตรทำเหมืองแร่: การรังวัดสอบสวนยังไม่ก่อให้เกิดสิทธิจนกว่าจะได้รับประทานบัตร
การที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรังวัด ไต่สวนสอบสวนที่ดินที่โจทก์ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่นั้น ไม่ได้ทำให้โจทก์เกิดสิทธิครอบครองหรือสิทธิอื่นในที่ดินแปลงนั้นแต่อย่างใด เมื่อฟ้องของโจทก์ไม่ได้แสดงว่าสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายของโจทก์ ถูกโต้แย้งจากจำเลยแล้วโจทก์ก็ไม่ชอบที่จะนำคดีมาสู่ศาล หรือฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินจากการยื่นขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ยังไม่สมบูรณ์ การฟ้องต้องแสดงเหตุถูกโต้แย้งสิทธิ
การที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการรังวัด ไต่สวนสอบสวนที่ดินที่โจทก์ยื่นคำร้องขอประทานบัตรทำเหมืองแร่นั้น ไม่ได้ทำให้โจทก์เกิดสิทธิครอบครองหรือสิทธิอื่นในที่ดินแปลงนั้นแต่อย่างใด เมื่อฟ้องของโจทก์ไม่ได้แสดงว่าสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายของโจทก์ ถูกโต้แย้งจากจำเลยแล้วโจทก์ก็ไม่ชอบที่จะนำคดีมาสู่ศาล หรือฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วม ฆ่าและพยายามฆ่า: เจตนาและความร่วมมือในการกระทำความผิด
ผู้ตายกับพวกผู้เสียหายนั่งรถยนต์มาด้วยกัน ผู้เสียหายคนหนึ่งขับรถยนต์นั้นแซงรถจักรยานยนต์ของจำเลยทั้งสองแล้วเฉี่ยวรถของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ไล่กวดรถยนต์ดังกล่าวโบกมือให้รถยนต์หยุด เมื่อรถยนต์หยุดแล้วจำเลยที่ 2 ยืนขวางหน้ารถยนต์ไว้ไม่ให้แล่นต่อไป จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์ตามไปทันและได้ใช้ปืนยิงผู้ตายกับพวกผู้เสียหายซึ่งอยู่ในรถยนต์เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายและพวกผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสองคน เมื่อยิงแล้วจำเลยทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์หนีไปทางเดียวกัน เมื่อตำรวจเรียกให้หยุดก็ไม่ยอมหยุด ดังนี้ จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1802/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวการร่วมฆ่า: เจตนาและความร่วมมือในการกระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่า
ผู้ตายกับพวกผู้เสียหายนั่งรถยนต์มาด้วยกัน ผู้เสียหายคนหนึ่งขับรถยนต์นั้นแซงรถจักรยานยนต์ของจำเลยทั้งสองแล้วเฉี่ยวรถของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์ไล่กวดรถยนต์ดังกล่าว โบกมือให้รถยนต์หยุด เมื่อรถยนต์หยุดแล้วจำเลยที่ 2 ยืนขวางหน้ารถยนต์ไว้ไม่ให้แล่นต่อไป จำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์ตามไปทันและได้ใช้ปืนยิงผู้ตายกับพวกผู้เสียหายซึ่งอยู่ในรถยนต์ เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายและพวกผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสองคน เมื่อยิงแล้วจำเลยทั้งสองได้ขับรถจักรยานยนต์หนีไปทางเดียวกัน เมื่อตำรวจเรียกให้หยุด ก็ไม่ยอมหยุด ดังนี้ จำเลยที่ 2 เป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินมือเปล่า สละเจตนาครอบครอง และการบังคับให้ทำนิติกรรมสัญญา
จำเลยขายที่ดินมือเปล่า ไม่มีโฉนดหรือหนังสือสำคัญสำหรับที่ให้ภริยาโจทก์ได้รับชำระราคาแล้วและได้อพยพไปอยู่ที่อื่นให้โจทก์เข้าครอบครองเป็นเจ้าของ แสดงว่าจำเลยได้สละเจตนาครอบครองไม่ยึดถือที่ดินนั้นต่อไป
แม้เป็นการซื้อขายที่ดินมือเปล่า และจำเลยสละเจตนาครอบครองแล้ว แต่เมื่อมีข้อตกลงกันว่าจำเลยจะไปทำนิติกรรมสัญญาซื้อขาย โอนที่ดินให้ภริยาโจทก์ที่อำเภอ และจำเลยได้ไปยื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดินประเภทขายเพื่อจะโอนให้ภริยาโจทก์แล้ว แต่จำเลยไม่ไปจัดการจดทะเบียนโอนที่ดินตามข้อตกลง โจทก์ย่อมฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้
แม้เป็นการซื้อขายที่ดินมือเปล่า และจำเลยสละเจตนาครอบครองแล้ว แต่เมื่อมีข้อตกลงกันว่าจำเลยจะไปทำนิติกรรมสัญญาซื้อขาย โอนที่ดินให้ภริยาโจทก์ที่อำเภอ และจำเลยได้ไปยื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดินประเภทขายเพื่อจะโอนให้ภริยาโจทก์แล้ว แต่จำเลยไม่ไปจัดการจดทะเบียนโอนที่ดินตามข้อตกลง โจทก์ย่อมฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1769/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายที่ดินมือเปล่า สละเจตนาครอบครอง และการบังคับให้ทำนิติกรรมสัญญาซื้อขาย
จำเลยขายที่ดินมือเปล่า ไม่มีโฉนดหรือหนังสือสำคัญสำหรับที่ให้ภริยาโจทก์ได้รับชำระราคาแล้วและได้อพยพไปอยู่ที่อื่นให้โจทก์เข้าครอบครองเป็นเจ้าของ แสดงว่าจำเลยได้สละเจตนาครอบครองไม่ยึดถือที่ดินนั้นต่อไป
แม้เป็นการซื้อขายที่ดินมือเปล่า และจำเลยสละเจตนาครอบครองแล้ว แต่เมื่อมีข้อตกลงกันว่าจำเลยจะไปทำนิติกรรมสัญญาซื้อขายโอนที่ดินให้ภริยาโจทก์ที่อำเภอ และจำเลยได้ไปยื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดินประเภทขายเพื่อจะโอนให้ภริยาโจทก์แล้ว แต่จำเลยไม่ไปจัดการจดทะเบียนโอนที่ดินตามข้อตกลง โจทก์ย่อมฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้
แม้เป็นการซื้อขายที่ดินมือเปล่า และจำเลยสละเจตนาครอบครองแล้ว แต่เมื่อมีข้อตกลงกันว่าจำเลยจะไปทำนิติกรรมสัญญาซื้อขายโอนที่ดินให้ภริยาโจทก์ที่อำเภอ และจำเลยได้ไปยื่นเรื่องราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและการสอบสวนสิทธิในที่ดินประเภทขายเพื่อจะโอนให้ภริยาโจทก์แล้ว แต่จำเลยไม่ไปจัดการจดทะเบียนโอนที่ดินตามข้อตกลง โจทก์ย่อมฟ้องขอให้บังคับจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องความผิดฐานทำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่จำเป็นต้องระบุดีกรีแอลกอฮอล์
ฟ้องคดีอาญาหาว่าจำเลยทำสุรา มีเครื่องต้มกลั่นสำหรับทำสุราและมีสุรากลั่นสุราแช่ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสุรามาตรา 5, 32 แม้จะไม่บรรยายมาด้วยในคำฟ้องว่าสุรานั้นมีแรงแอลกอฮอล์กี่ดีกรี ดื่มกินได้เช่นน้ำสุรารัฐบาลหรือไม่ ก็เป็นคำฟ้องที่ครบองค์เป็นความผิดลงโทษจำเลยตามคำขอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีสุรา: คำฟ้องครบองค์ความผิด แม้ไม่ได้ระบุดีกรีแอลกอฮอล์
ฟ้องคดีอาญาหาว่าจำเลยทำสุรา มีเครื่องต้มกลั่นสำหรับทำสุราและมีสุรากลั่นสุราแช่ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติสุรา มาตรา 5, 32 แม้จะไม่บรรยายมาด้วยในคำฟ้องว่าสุรานั้นมีแรงแอลกอฮอล์กี่ดีกรี ดื่มกินได้เช่นน้ำสุรารัฐบาลหรือไม่ ก็เป็นคำฟ้องที่ครบองค์เป็นความผิดลงโทษจำเลยตามคำขอได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีหลอกลวงผู้ซื้อ: โจทก์ต้องเป็นผู้เสียหายโดยตรง
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 บัญญัติให้เอาผิดแก่ผู้ขายของโดยหลอกลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือปริมาณอันเป็นเท็จ ผู้เสียหายในความผิดฐานนี้คือผู้ซื้อ เมื่อโจทก์มิใช่เป็นผู้ซื้อ จึงมิใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจฟ้องคดีขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญา มาตรา 271: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ซื้อโดยตรง
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 271 บัญญัติให้เอาผิดแก่ผู้ขายของโดยหลอกลวงให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณอันเป็นเท็จ ผู้เสียหายในความผิดฐานนี้คือผู้ซื้อเมื่อโจทก์มิใช่เป็นผู้ซื้อ จึงมิใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องคดีขอให้ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้