พบผลลัพธ์ทั้งหมด 641 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คที่ไม่ใช่แบบพิมพ์ธนาคาร ไม่ถือเป็นเช็คปลอม แม้กรอกข้อมูลครบถ้วน หากผู้สั่งจ่ายลงชื่อเอง
ลำพังแต่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารใช้เป็นหนังสือตราสาร คำสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินแก่ผู้รับเงินที่ยังไม่ได้ลงชื่อผู้สั่งจ่ายและกรอกรายการอื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 ให้ครบถ้วนบริบูรณ์แบบพิมพ์นั้นก็ยังไม่เป็นเช็คหรือตั๋วเงินที่ใช้ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ถึงแม้แบบพิมพ์ที่จำเลยใช้กรอกข้อความรายการทำให้ใช้ได้เป็นเช็ค จะมิใช่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นไว้ให้ใช้เมื่อปรากฏว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเป็นลายมือชื่อของจำเลยเองมิได้ปลอมลายมือชื่อของบุคคลอื่นใด เช็คนั้นย่อมไม่ใช่เอกสารปลอมหรือตั๋วเงินปลอม
เมื่อเอกสารที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่เป็นตั๋วเงินปลอม แม้จำเลยจะนำไปใช้ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนจำเลยก็ยังไม่มีความผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอม
ถึงแม้แบบพิมพ์ที่จำเลยใช้กรอกข้อความรายการทำให้ใช้ได้เป็นเช็ค จะมิใช่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นไว้ให้ใช้เมื่อปรากฏว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเป็นลายมือชื่อของจำเลยเองมิได้ปลอมลายมือชื่อของบุคคลอื่นใด เช็คนั้นย่อมไม่ใช่เอกสารปลอมหรือตั๋วเงินปลอม
เมื่อเอกสารที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่เป็นตั๋วเงินปลอม แม้จำเลยจะนำไปใช้ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนจำเลยก็ยังไม่มีความผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คที่มิได้ออกโดยธนาคารแต่มีลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย มิใช่เช็คปลอม ไม่มีความผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอม
ลำพังแต่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อให้ลูกค้าของธนาคารใช้เป็นหนังสือตราสาร คำสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินแก่ผู้รับเงินที่ยังไม่ได้ลงชือผู้สั่งจ่ายและกรอกรายการอื่นดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 ให้ครบถ้วนบริบูรณ์ แบบพิมพ์นั้นก็ยังไม่เป็นเช็คหรือตั๋วเงินที่ใช้ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
ถึงแม้แบบพิมพ์ที่จำเลยใช้กรอกข้อความรายการทำให้ใช้ได้เป็นเช็ค จะมิใช่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นไว้ให้ใช้ เมื่อปรากฏว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเป็นลายมือชื่อของจำเลยเอง มิได้ปลอมลายมือชื่อของบุคคลอื่นใด เช็คนั้นย่อมไม่ใช่เอกสารปลอมหรือตั๋วเงินปลอม
เมื่อเอกสารที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่เป็นตั๋วเงินปลอม แม้จำเลยจะนำไปใช้ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จำเลยก็ยังไม่มีความผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอม
ถึงแม้แบบพิมพ์ที่จำเลยใช้กรอกข้อความรายการทำให้ใช้ได้เป็นเช็ค จะมิใช่แบบพิมพ์เช็คที่ธนาคารได้จัดพิมพ์ขึ้นไว้ให้ใช้ เมื่อปรากฏว่าลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเป็นลายมือชื่อของจำเลยเอง มิได้ปลอมลายมือชื่อของบุคคลอื่นใด เช็คนั้นย่อมไม่ใช่เอกสารปลอมหรือตั๋วเงินปลอม
เมื่อเอกสารที่จำเลยนำไปใช้ไม่ใช่เป็นตั๋วเงินปลอม แม้จำเลยจะนำไปใช้ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จำเลยก็ยังไม่มีความผิดฐานใช้ตั๋วเงินปลอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเติมวันเดือนปีในเช็คโดยผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หากไม่สุจริต
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย จดเติมเดือนและปีที่ถูกต้องแท้จริงลงในเช็คโดยพลการ ไม่ได้รับการรู้เห็นยินยอมจากผู้สั่งจ่ายหรือผู้สลักหลังก่อน เช่นนี้เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำโดยไม่สุจริตแล้ว การกระทำของจำเลยยังไม่มีมูลความผิดทางอาญาฐานปลอมเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1504/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเติมวันเดือนปีในเช็คโดยผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถือเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หากไม่สุจริต
การที่จำเลยซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย จดเติมเดือนและปีที่ถูกต้องแท้จริงลงในเช็คโดยพลการ ไม่ได้รับการรู้เห็นยินยอมจากผู้สั่งจ่ายหรือสลักหลังก่อน เช่นนี้เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยกระทำโดยไม่สุจริตแล้วการกระทำของจำเลยยังไม่มีมูลความผิดทางอาญาฐานปลอมเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากการขุดแร่ในที่ดินประทานบัตร แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ค่าเสียหายเป็นยอดรวม แต่ยังคงต้องชดใช้ค่าเสียหายรายเดือนหากยังขุดแร่ต่อไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามมิให้จำเลยทั้งสองดำเนินการขุดหาแร่ในที่ดินประทานบัตรที่พิพาท ถ้าจำเลยยังขุดหาแร่ต่อไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 374,850 บาท นับแต่วันพิพากษาจนกว่าจะหยุดดำเนินการ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 1,202,000 บาท และห้ามจำเลยขุดแร่ในที่ดินประทานบัตรพิพาททั้ง 5 แปลงต่อไป นอกจากที่ดำเนินการอยู่แล้วใน 4 รางดังกล่าว และศาลฎีกาพิพากษายืนนั้น ย่อมอนุมานได้ว่าศาลอุทธรณ์มิได้ประสงค์จะพิพากษาให้จำเลยขุดแร่ใน 4 รางนั้น โดยไม่ต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ เมื่อจำเลยยังดำเนินการขุดแร่ต่อไปเพราะโจทก์ได้รับความเสียหายจำเลยจำต้องชดใช้ค่าทดแทน ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนในผลของคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 374,850 บาทด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากการขุดแร่ในที่ดินประทานบัตร ศาลยืนตามผลคำพิพากษาเดิมที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายรายเดือน
ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามมิให้จำเลยทั้งสองดำเนินการขุดหาแร่ในที่ดินประทานบัตรที่พิพาทถ้าจำเลยยังขุดหาแร่ต่อไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 374,850 บาท นับแต่วันพิพาทจนกว่าจะหยุดดำเนินการ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 1,202,000 บาท และห้ามจำเลยขุดแร่ในที่ดินประทานบัตรพิพาททั้ง 5 แปลงต่อไป นอกจากที่ดำเนินการอยู่แล้วใน 4 รางดังกล่าว และศาลฎีกาพิพากษายืนนั้น ย่อมอนุมานได้ว่าศาลอุทธรณ์มิได้ประสงค์จะพิพากษาให้จำเลยขุดแร่ใน 4 รางนั้นโดยไม่ต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เมื่อจำเลยยังดำเนินการขุดแร่ต่อไปเพราะโจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยจำต้องชดใช้ค่าทดแทน ถือได้ว่าศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนในผลของคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 374,850 บาทด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คที่ไม่มีวันออกเช็คแต่มีการลงวันออกเช็คภายหลังโดยสุจริต ถือเป็นเช็คที่สมบูรณ์และใช้ได้ตามกฎหมาย
แม้จำเลยออกเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือโดยมิได้ลงวันออกเช็คไว้ก็ตาม แต่เมื่อปรากฏในขณะที่เช็คอยู่ในความครอบครองของโจทก์ร่วม ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คนั้นได้มีการลงวันออกเช็คไว้แล้ว จะโดยผู้ใดเป็นผู้ลงไว้ไม่ใช่ข้อสำคัญ เมื่อไม่ได้ความว่าวันออกเช็คที่ลงไว้เป็นวันที่ไม่ถูกต้องแท้จริงและลงไว้โดยไม่สุจริต ก็ถือได้ว่าเป็นเช็คที่มีรายการครบถ้วนและออกเช็คไว้แล้วจะโดยผู้ใดเป็นผู้ลงไว้ก็ไม่ใช่ข้อสำคัญ เมื่อไม่ได้ความว่าวันออกเช็คที่ลงไว้เป็นวันที่ไม่ถูกต้องแท้จริงและลงไว้โดยไม่สุจริต ก็ถือได้ว่าเป็นเช็คที่มีรายการครบถ้วนและเป็นเช็คที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 และ 989
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้โดยมิชอบและจับกุมผู้อื่น จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
จำเลยเป็นพนักงานตีตราไม้ ไม่ใช่พนักงานป่าไม้ผู้มีอำนาจจับกุมผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ จำเลยได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ผู้มีอำนาจจับกุม แล้วได้ทำการจับกุมผู้เสียหายในเรื่องไม้ที่ผู้เสียหายมีไว้ในครอบครองและยังเรียกเงินจากผู้เสียหายด้วยการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงตัวเท็จเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
จำเลยเป็นพนักงานตีตราไม้ ไม่ใช่พนักงานป่าไม้ผู้มีอำนาจจับกุมผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ จำเลยได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ผู้มีอำนาจจับกุม แล้วได้ทำการจับกุมผู้เสียหายในเรื่องไม้ที่ผู้เสียหายมีไว้ในครอบครองและยังเรียกเงินจากผู้เสียหายด้วยการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จและการขอรับมรดก หากไม่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ไม่ถือเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ
ความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 นั้น แม้ข้อความที่แจ้งจะเป็นเท็จแต่มิได้เกี่ยวข้องพาดพิงถึงโจทก์ ก็ไม่อาจทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)
การที่จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยื่นคำร้องขอรับมรดกโดยอ้างว่าเป็นภริยาของผู้ตายนั้น แม้โดยนิตินัยจำเลยจะไม่ใช่ แต่โดยพฤตินัยจำเลยเป็นภริยาของผู้ตายยังถือไม่ได้ว่าจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จทำให้โจทก์ผู้เป็นทายาทเสียหาย
การที่จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยื่นคำร้องขอรับมรดกโดยอ้างว่าเป็นภริยาของผู้ตายนั้น แม้โดยนิตินัยจำเลยจะไม่ใช่ แต่โดยพฤตินัยจำเลยเป็นภริยาของผู้ตายยังถือไม่ได้ว่าจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จทำให้โจทก์ผู้เป็นทายาทเสียหาย