พบผลลัพธ์ทั้งหมด 422 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1619/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับจ้างร่วม การรับผิดชอบต่อความเสียหายจากละเมิดของผู้รับจ้างร่วมอีกคนหนึ่ง
บุคคลสองคนทำสัญญาเป็นผู้รับจ้างร่วมกันในการวางท่อประปาตามถนนให้แก่กรมโยธาเทศบาล.และยอมรับผิดชอบร่วมกันและเป็นรายตัวสำหรับบรรดาข้อสัญญาทั้งมวล. แต่ผู้รับจ้างสองคนนั้นแบ่งงานกันทำ โดยคนหนึ่งเป็นผู้จัดหาวัสดุ และอีกคนหนึ่งเป็นผู้ดำเนินงานวางท่อประปา. ถึงแม้ผู้รับจ้างคนที่ดำเนินงานวางท่อประปาจะกระทำละเมิดขุดท่อระบายน้ำของเทศบาลเสียหาย. แต่ผู้รับจ้างทั้งสองก็มิใช่ลูกจ้างนายจ้าง หรือตัวแทนตัวการซึ่งกันและกัน. ผู้รับจ้างอีกคนหนึ่งซึ่งมิได้ร่วมกระทำละเมิด. จึงหาจำต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการละเมิดนั้นด้วยไม่. เพราะมิใช่ความรับผิดชอบตามสัญญาต่อผู้ว่าจ้าง.
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยหรือคนงานของจำเลยขุดถนน เป็นเหตุให้ท่อระบายน้ำของโจทก์เสียหาย. จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ขุดหรือให้คนงานของจำเลยขุดถนนเป็นเหตุให้ท่อระบายน้ำของโจทก์เสียหาย. ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบว่า.บุคคลอื่นเป็นผู้ทำให้โจทก์เสียหายได้. เพื่อแสดงให้เห็นว่า. จำเลยไม่จำต้องรับผิดตามฟ้อง.
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยหรือคนงานของจำเลยขุดถนน เป็นเหตุให้ท่อระบายน้ำของโจทก์เสียหาย. จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้ขุดหรือให้คนงานของจำเลยขุดถนนเป็นเหตุให้ท่อระบายน้ำของโจทก์เสียหาย. ดังนี้ จำเลยย่อมมีสิทธินำสืบว่า.บุคคลอื่นเป็นผู้ทำให้โจทก์เสียหายได้. เพื่อแสดงให้เห็นว่า. จำเลยไม่จำต้องรับผิดตามฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรบกวนการครอบครองหลังสละการครอบครองเป็นตีใช้หนี้ แม้กรรมสิทธิ์ไม่ชัดเจน ถือผิดฐานบุกรุก
ที่ดินและบ้านพิพาทจะเป็นของผู้ใดไม่สำคัญ. เมื่อจำเลยครอบครองอยู่เดิมแล้วสละการครอบครองให้ผู้เสียหายเป็นการตีใช้หนี้ไป. การยกที่ดินและบ้านตีใช้หนี้จะสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม. แต่ผู้เสียหายก็ได้ไปซึ่งการครอบครอง. จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าผู้เสียหายครอบครองอยู่โดยชอบ. หากจำเลยเห็นว่าผู้เสียหายไม่มีสิทธิในทรัพย์พิพาท. ก็ชอบที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิของตน. ไม่มีอำนาจเข้าไปรบกวนการครอบครองของเขา. เมื่อจำเลยยังขืนเข้าไปอยู่อาศัยก็เป็นการรบกวนการครอบครองของผู้เสียหายโดยปกติสุข. จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362.(อ้างฎีกาที่ 1/2512).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรบกวนการครอบครองของผู้อื่น แม้การโอนทรัพย์สินยังไม่สมบูรณ์ ก็ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
ที่ดินและบ้านพิพาทจะเป็นของผู้ใดไม่สำคัญ เมื่อจำเลยครอบครองอยู่เดิมแล้วสละการครอบครองให้ผู้เสียหายเป็นการตีใช้หนี้ไป การยกที่ดินและบ้านตีใช้หนี้จะสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้เสียหายก็ได้ไปซึ่งการครอบครอง จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าผู้เสียหายครอบครองอยู่โดยชอบ หากจำเลยเห็นว่าผู้เสียหายไม่มีสิทธิในทรัพย์พิพาท ก็ชอบที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิของตน ไม่มีอำนาจเข้าไปรบกวนการครอบครองของเขา เมื่อจำเลยยังขืนเข้าไปอยู่อาศัยก็เป็นการรบกวนการครอบครองของผู้เสียหายโดยปกติสุข จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 (อ้างฎีกาที่ 1/2512)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1402/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรบกวนการครอบครองโดยชอบธรรม แม้การตีใช้หนี้ไม่สมบูรณ์ ก็ถือเป็นการรบกวนการครอบครองได้
ที่ดินและบ้านพิพาทจะเป็นของผู้ใดไม่สำคัญ เมื่อจำเลยครอบครองอยู่เดิมแล้วสละการครอบครองให้ผู้เสียหายเป็นการตีใช้หนี้ไป การยกที่ดินและบ้านตีใช้หนี้จะสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม แต่ผู้เสียหายก็ได้ไปซึ่งการครอบครอง จำเลยทราบดีอยู่แล้วว่า ผู้เสียหายครอบครองอยู่โดยชอบธรรม หากจำเลยเห็นว่าผู้เสียหายไม่มีสิทธิในทรัพย์พิพาท ก็ชอบที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิของตน ไม่มีอำนาจเข้าไปรบกวนการครอบครองของเขา เมื่อจำเลยยังขืนเข้าไปอยู่อาศัยก็เป็นการรบกวนการครอบครองของผู้เสียหายโดยปกติสุข จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362
(อ้างฎีกาที่ 1/2512)
(อ้างฎีกาที่ 1/2512)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของหญิงมีสามีในฐานะผู้จัดการห้างหุ้นส่วน: ความรู้เห็นของสามี
การที่หญิงมีสามีได้กระทำกิจการค้าด้วยความรู้เห็นของสามีนั้น. ย่อมถือได้ว่าสามีได้อนุญาตแล้วโดยปริยาย. ฉะนั้นหญิงมีสามี. จึงฟ้องคดีในฐานะเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนได้. หาจำต้องได้รับอนุญาตจากสามีอีกไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของหญิงมีสามีในฐานะผู้จัดการห้างหุ้นส่วน: ความรู้เห็นของสามีถือเป็นอนุญาตโดยปริยาย
การที่หญิงมีสามีได้กระทำกิจการค้าด้วยความรู้เห็นของสามีนั้น ย่อมถือได้ว่าสามีได้อนุญาตแล้วโดยปริยาย ฉะนั้นหญิงมีสามี จึงฟ้องคดีในฐานะเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนได้ หาจำต้องได้รับอนุญาตจากสามีอีกไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของภรรยาผู้จัดการห้างหุ้นส่วน: ความยินยอมโดยปริยายของสามี
การที่หญิงมีสามีได้กระทำกิจการค้าด้วยความรู้เห็นของสามีนั้น ย่อมถือได้ว่าสามีได้อนุญาตแล้วโดยปริยาย ฉะนั้นหญิงมีสามี จึงฟ้องคดีในฐานะเป็นผู้จัดการห้างหุ้นส่วนได้ หาจำต้องได้รับอนุญาตจากสามีอีกไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับประเมินภาษีต้องชำระค่าภาษีก่อนฟ้องคดี หากไม่พอใจการประเมินตามมาตรา 39
เมื่อเจ้าพนักงานแจ้งรายการประเมินภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 24 ไปยังผู้ใด บุคคลผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้รับประเมินโดยเป็นบุคคลผู้ถึงชำระค่าภาษีตามที่ประเมินมานั้น ถ้าไม่พอใจการประเมินจะโดยอ้างว่าเพราะเจ้าพนักงานประเมินผิดให้เสียภาษีในกรณีไม่ต้องเสียหรือประเมินให้เสียมากกว่าที่ควรต้องเสีย บุคคลนั้นต้องฟ้องคดีต่อศาลว่าการประเมินไม่ถูก จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 39 ซึ่งบัญญัติให้ชำระค่าภาษีทั้งสิ้นก่อนศาลประทับฟ้อง หากมิได้ชำระค่าภาษีเสียก่อนศาลย่อมจะรับฟังไว้พิจารณามิได้
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12-13/2512)
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12-13/2512)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับประเมินภาษีมีหน้าที่ชำระภาษีก่อนฟ้องคดี หากไม่พอใจการประเมินตาม พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
เมื่อเจ้าพนักงานแจ้งรายการประเมินภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 24 ไปยังผู้ใด บุคคลผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้รับประเมินโดยเป็นบุคคลผู้พึงชำระค่าภาษีตามที่ประเมินมานั้น ถ้าไม่พอใจการประเมินจะโดยอ้างว่า เพราะเจ้าพนักงานประเมินผิดให้เสียภาษี ในกรณีไม่ต้องเสียหรือประเมินให้เสียมากกว่าที่ควรต้องเสีย บุคคลนั้นต้องฟ้องคดีต่อศาลว่าการประเมินไม่ถูก จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 39ซึ่งบัญญัติให้ชำระค่าภาษีทั้งสิ้นก่อนศาลประทับฟ้อง หากมิได้ชำระค่าภาษีเสียก่อน ศาลย่อมจะรับฟ้องไว้พิจารณามิได้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12-13/2512)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1125/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับประเมินภาษีต้องชำระภาษีตามประเมินก่อนฟ้องคดี หากไม่พอใจการประเมิน
เมื่อเจ้าพนักงานแจ้งรายการประเมินภาษีตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 24 ไปยังผู้ใด.บุคคลผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้รับประเมินโดยเป็นบุคคลผู้พึงชำระค่าภาษีตามที่ประเมินมานั้น. ถ้าไม่พอใจการประเมินจะโดยอ้างว่า.เพราะเจ้าพนักงานประเมินผิดให้เสียภาษี.ในกรณีไม่ต้องเสียหรือประเมินให้เสียมากกว่าที่ควรต้องเสีย. บุคคลนั้นต้องฟ้องคดีต่อศาลว่าว่าการประเมินไม่ถูก. จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับมาตรา 39ซึ่งบัญญัติให้ชำระค่าภาษีทั้งสิ้นก่อนศาลประทับฟ้อง. หากมิได้ชำระค่าภาษีเสียก่อน.ศาลย่อมจะรับฟ้องไว้พิจารณามิได้. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12-13/2512).