คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อาจิต ไชยาคำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 422 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1278/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยร่วมไม่อาจต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายจากนิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 และ 2 โดยตรง ศาลมีดุลพินิจเรื่องค่าทนาย
โจทก์จ้างเหมาให้จำเลยที่ 2 สร้างคานเรือโดยมีจำเลยที่ 1 ทำสัญญาค้ำประกันจำเลยที่ 2 ต่อโจทก์ เมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ก่อสร้างให้เสร็จตามสัญญาจ้างเหมา โจทก์จึงฟ้องจำเลยที่ 1 ให้ใช้ค่าเสียหายตามสัญญาค้ำประกัน และศาลเรียกจำเลยที่ 2 เข้ามาในคดีด้วยตามคำขอของจำเลยที่ 1 มีผู้อื่นขอเข้ามาเป็นจำเลยร่วมด้วยโดยอ้างว่าเป็นผู้รับเหมางานช่วงจากจำเลยที่ 2 อาจถูกไล่เบี้ยได้ ศาลอนุญาต ดังนี้เมื่อฝ่ายจำเลยแพ้คดี ศาลจะพิพากษาให้จำเลยร่วมพลอยต้องร่วมใช้ค่าเสียหายอันเกิดแต่นิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 และที่ 2ด้วยหาได้ไม่ แต่จำเลยร่วมอาจต้องร่วมใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ด้วย
ค่าทนายความอันเป็นส่วนหนึ่งของค่าฤชาธรรมเนียมนั้น ศาลจะพิพากษาให้ฝ่ายที่แพ้คดีรับผิดชดใช้ให้แก่ฝ่ายที่ชนะหรือไม่เพียงใดย่อมเป็นเรื่องที่ศาลจะใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือการดำเนินคดีของคู่ความทั้งปวง คดีที่โจทก์เป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งมีพนักงานอัยการเป็นทนายให้ เมื่อชนะคดี ศาลจะพิพากษาให้ฝ่ายที่แพ้คดีใช้ค่าทนายให้ก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังสำเนาสัญญาเช่าซื้อและค้ำประกันเป็นหลักฐานได้เมื่อต้นฉบับสูญหาย และการที่ตัวแทนลงนามในสัญญา
ในคดีผิดสัญญาเช่าซื้อและค้ำประกัน ศาลสั่งให้โจทก์ส่งต้นฉบับสัญญาต่อศาลเพื่อให้จำเลยตรวจดูก่อนจำเลยให้การ โจทก์ยื่นคำแถลงว่ายังหาต้นฉบับไม่พบเพราะหลงไปปะปนอยู่กับเรื่องอื่น คงพบแต่สำเนา จะได้ขอนำเข้าสืบแทนต้นฉบับ จำเลยมิได้โต้แย้งอย่างใด ต่อมาศาลรับฟังสำเนาสัญญานั้นเมื่อโจทก์นำเข้าสืบก็เท่ากับศาลอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93(2)
สำเนาของเอกสารที่อ้างไว้ในคดีเรื่องหนึ่งแล้ว คู่ความอ้างมาเป็นพยานในคดีอีกเรื่องหนึ่งโดยชอบ ศาลย่อมรับฟังได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถไปจากโจทก์โดยจำเลยที่ 2เป็นผู้ค้ำประกันแล้วนำสืบว่าจำเลยทำสัญญากับ อ. ตัวแทนของโจทก์ดังนี้ ไม่เป็นการสืบแตกต่างกับฟ้องหรือนอกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังสำเนาสัญญาเช่าซื้อและค้ำประกันได้หากต้นฉบับสูญหายและมีพยานยืนยันความถูกต้อง
ในคดีผิดสัญญาเช่าซื้อและค้ำประกัน ศาลสั่งให้โจทก์ส่งต้นฉบับสัญญาต่อศาลเพื่อให้จำเลยตรวจดูก่อนจำเลยให้การ โจทก์ยื่นคำแถลงว่ายังหาต้นฉบับไม่พบ เพราะหลงไปปะปนอยู่กับเรื่องอื่น คงพบแต่สำเนา จะได้ขอนำเข้าสืบแทนต้นฉบับ จำเลยมิได้โต้แย้งอย่างใด ต่อมาศาลรับฟังสำเนาสัญญานั้นเมื่อโจทก์นำเข้าสืบก็เท่ากับศาลอนุญาตให้นำสำเนาเอกสารมาสืบได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 93 (2)
สำเนาของเอกสารที่อ้างไว้ในคดีเรื่องหนึ่งแล้ว คู่ความอ้างมาเป็นพยานในคดีอีกเรื่องหนึ่งโดยชอบ ศาลย่อมรับฟังได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถไปจากโจทก์โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน แล้วนำสืบว่าจำเลยทำสัญญากับ อ. ตัวแทนของโจทก์ ดังนี้ ไม่เป็นการสืบแตกต่างกับฟ้องหรือนอกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง: เอกชนไม่มีอำนาจฟ้องหากความเสียหายเกิดต่อแผ่นดิน
พระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 60 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเจ้าพนักงานผู้ใดมีหน้าที่จัดการอย่างใด ๆ ในการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัตินี้ จงใจไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่หรือกระทำการอันใดโดยเจตนาขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย กฎข้อบังคับหรือคำสั่งของศาล อันเกี่ยวแก่การเลือกตั้งตามพระราชบัญญัตินี้มีความผิด ฯลฯ นั้นมุ่งประสงค์จะเอาโทษแก่ผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการในการเลือกตั้ง ซึ่งจงใจไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่หรือเจตนาขัดขวางมิให้เป็นไปตามกฎหมาย อันเป็นความเสียหายต่อแผ่นดินและบ้านเมือง เอกชนจึงไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องบุคคลผู้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามบทบัญญัตินี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเลือกตั้ง: เอกชนไม่มีอำนาจฟ้องเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งเทศบาล
พระราชบัญญัติเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 มาตรา 60ซึ่งบัญญัติว่า ผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเจ้าพนักงานผู้ใดมีหน้าที่จัดการอย่างใด ๆ ในการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัตินี้จงใจไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่ หรือกระทำการอันใดโดยเจตนาขัดขวางมิให้การเป็นไปตามกฎหมาย กฎข้อบังคับหรือคำสั่งของศาลอันเกี่ยวแก่การเลือกตั้งตามพระราชบัญญัตินี้มีความผิด ฯลฯ นั้นมุ่งประสงค์จะเอาโทษแก่ผู้มีหน้าที่ในการเลือกตั้งหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการในการเลือกตั้งซึ่งจงใจไม่ปฏิบัติการตามหน้าที่หรือเจตนาขัดขวางมิให้เป็นไปตามกฎหมายอันเป็นความเสียหายต่อแผ่นดินและบ้านเมือง เอกชนจึงไม่ถือว่าเป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องบุคคลผู้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามบทบัญญัตินี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาโทษจำเลยในสำนวนคดีที่อัยการเป็นโจทก์ และจำเลยอุทธรณ์เฉพาะสำนวนของตนเอง ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจเพิ่มโทษ
อัยการฟ้อง ร. กับ ส. เป็นจำเลย หาว่าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันและ ส. ฟ้อง ร. เป็นอีกสำนวนหนึ่งว่าทำร้ายร่างกายตน ศาลชั้นต้นสั่งรวมการพิจารณาพิพากษา แล้วพิพากษาลงโทษจำคุกและปรับ ร. แต่โทษจำคุกให้รอไว้ ส่วน ส. นั้นก็ให้ลงโทษปรับ กับยกฟ้องคดีที่ ส. เป็นโจทก์ส. แต่ผู้เดียวอุทธรณ์ทั้ง 2 สำนวนศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคดีที่ ส. เป็นโจทก์เหมือนกัน แต่ให้แก้โทษของ ร. เป็นไม่รอการลงโทษจำคุก ดังนี้ หาชอบไม่ เพราะคดีเฉพาะตัว ร. จำเลยในสำนวนที่อัยการเป็นโจทก์นั้นถึงที่สุดแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีรวม และการเพิ่มโทษจำเลยหลังศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว
อัยการฟ้อง ร. กับ ส. เป็นจำเลย หาว่าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน และ ส. ฟ้อง ร. เป็นอีกสำนวนหนึ่งว่าทำร้ายร่างกายตน ศาลชั้นต้นสั่งรวมการพิจารณาพิพากษา แล้วพิพากษาลงโทษจำคุกและปรับ ร. แต่โทษจำคุกให้รอไว้ ส่วน ส. นั้นก็ให้ลงโทษปรับ กับยกฟ้องคดีที่ ส. เป็นโจทก์ ส.แต่ผู้เดียวอุทธรณ์ทั้ง 2 สำนวน ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคดีที่ ส. เป็นโจทก์เหมือนกัน แต่ให้แก้โทษของ ร. เป็นไม่รอการลงโทษจำคุก ดังนี้ หาชอบไม่ เพราะคดีเฉพาะตัว ร. จำเลยในสำนวนที่อัยการเป็นโจทก์นั้นถึงที่สุดแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความรับผิดทางละเมิดจากความประมาทเลินเล่อ จำเป็นต้องระบุสภาพแห่งข้อหาที่ชัดเจน
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า 'จ. กับจำเลยที่ 1 ได้ตกลงจ้างและรับจ้างทำการขนปอฟอกจากโกดังไปยังเรือเดินสมุทร โดยความประมาทเลินเล่อของลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ในเรือฉลอมได้ทำให้เกิดเพลิงไหม้ปอฟอก จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นนายจ้างและลูกจ้างผู้ควบคุมเรือต้องร่วมกันรับผิดในความเสียหายของปอ' ดังนี้ เป็นฟ้องที่มีข้ออ้างให้จำเลยต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 เท่านั้น ไม่มีข้ออ้างให้จำเลยต้องรับผิดตามมาตรา 616 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความรับผิดทางละเมิด นายจ้าง-ลูกจ้าง ต้องระบุสภาพแห่งข้อหาให้ชัดเจน
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า "จ. กับจำเลยที่ 1 ได้ตกลงจ้างและ รับจ้างทำการขนปอฟอกจากโกดังไปยังเรือเดินสมุทร โดยความประมาทเลินเล่อของลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ในเรือฉลอมได้ทำให้เกิดเพลิงไหม้ปอฟอก จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นนายจ้างและลูกจ้างผู้ควบคุมเรือต้องร่วมกันรับผิดในความเสียหายของปอ" ดังนี้ เป็นฟ้องที่มีข้ออ้างให้จำเลยต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 เท่านั้น ไม่มีข้ออ้างให้จำเลยต้องรับผิดตามมาตรา 616 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่เป็นหนังสือขัดมาตรา 538, ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องพิพาทที่โจทก์ให้จำเลยอยู่อาศัยและเรียกค่าเสียหายจำเลยฟ้องแย้งว่าโจทก์ตกลงให้จำเลยเช่าห้องพิพาทมีกำหนด 15 ปี ค่าเช่าเดือนละ 60 บาท เพราะจำเลยยอมหักหนี้ให้โจทก์ 20,000 บาท ดังนี้ เงินจำนวนดังที่กล่าวที่จำเลยยอมหักหนี้ให้โจทก์เป็นเงินค่าแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่าที่จำเลยยอมให้โจทก์ในการเช่าห้องพิพาท เท่ากับเป็นการเช่าโดยมีเงินแป๊ะเจี๊ยะหรือเงินกินเปล่าจึงเป็นการเช่าธรรมดาไม่ใช่สัญญาต่างตอบแทนชนิดพิเศษ เมื่อการเช่าไม่ได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ย่อมขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 ไม่รับฟ้องแย้ง
จำเลยฟ้องแย้งคดีนี้ที่ว่าโจทก์จำเลยเข้าหุ้นส่วนกัน เมื่อคิดบัญชีแล้วโจทก์เป็นหนี้จำเลยอยู่ ขอให้บังคับโจทก์ชำระหนี้ที่ค้างเช่นนี้เป็นฟ้องอีกเรื่องหนึ่งคนละอย่างไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมพอที่จะรวมการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินเข้าด้วยกันได้ เป็นฟ้องที่ไม่รับเป็นฟ้องแย้ง
of 43