พบผลลัพธ์ทั้งหมด 428 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์จากคำให้การที่แสดงเจตนาเป็นเจ้าของ
คำให้การจำเลยที่ 1 สรุปความได้ว่า ที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินของจำเลยที่ 1ปลูกบ้านอยู่อาศัยถาวรได้ครอบครองทำกินปลูกต้นผลไม้มาจนปัจจุบันเป็นเวลา 30-40 ปี โจทก์ทั้งหกกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ได้ขอลงชื่อร่วมในโฉนดที่จะรังวัดแบ่งแยกใหม่ให้กับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงได้คัดค้านกับขอถอนถ้อยคำในบันทึก โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 5 ได้ยอมทำหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงพิพาทของจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 มีกรรมสิทธิ์อยู่ประมาณ11 ไร่เศษ ข้อความในคำให้การจำเลยที่ 1 ดังกล่าว แสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งหรือยืนยันว่ากรรมสิทธิ์ในที่พิพาทเป็นของตนโดยการครอบครองมา อันเป็นการครอบครองปรปักษ์นั่นเอง ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้การต่อสู้ว่าได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์จากคำให้การที่แสดงเจตนาเป็นเจ้าของ
คำให้การจำเลยที่ 1 สรุปความได้ว่า ที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินของจำเลยที่ 1 ปลูกบ้านอยู่อาศัยถาวรได้ครอบครองทำกินปลูกต้นผลไม้มาจนปัจจุบันเป็นเวลา 30-40 ปี โจทก์ทั้งหกกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ได้ขอลงชื่อร่วมในโฉนดที่จะรังวัดแบ่งแยกใหม่ให้กับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงได้คัดค้าน กับขอถอนถ้อยคำในบันทึกโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 5 ได้ยอมทำหนังสือรับรองกรรมสิทธิ์ในที่ดินแปลงพิพาทของจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 มีกรรมสิทธิ์อยู่ประมาณ 11 ไร่เศษ ข้อความในคำให้การจำเลยที่ 1 ดังกล่าว แสดงเจตนาอย่างชัดแจ้งหรือยืนยันว่ากรรมสิทธิ์ในที่พิพาทเป็นของตนโดยการครอบครองมา อันเป็นการครอบครองปรปักษ์นั่นเอง ดังนี้ ถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ให้การต่อสู้ว่า ได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและสิทธิอุทธรณ์: คำสั่งระหว่างพิจารณาที่มิได้โต้แย้งย่อมถึงที่สุด
ศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ ศาลไต่สวนแล้วสั่งไม่อนุญาต จำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งนี้ ทั้ง ๆ ที่จำเลยมีโอกาสจะโต้แย้งได้ จำเลยย่อมหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์ขอยื่นคำให้การอีก เพราะคำสั่งนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและการหมดสิทธิอุทธรณ์ กรณีจำเลยไม่โต้แย้งคำสั่งศาลระหว่างพิจารณา
ศาลได้มีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การแล้ว จำเลยยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การ ศาลไต่สวนแล้วสั่งไม่อนุญาต จำเลยมิได้โต้แย้งคัดค้านคำสั่งนี้ ทั้ง ๆ ที่จำเลยมีโอกาสจะโต้แย้งได้ จำเลยย่อมหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์ขอยื่นคำให้การอีก เพราะคำสั่งนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนคำสั่งปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้ปรับปรุงและเช่าช่วง รวมถึงสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าเมื่อผิดนัดชำระค่าเช่า
การที่โจทก์ผู้ให้เช่ายินยอมให้จำเลยผู้เช่าดัดแปลงปรับปรุงซ่อมแซมตึกพิพาทแม้ตึกพิพาทจะเสียหายไปบ้าง โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย
จำเลยผู้เช่าซึ่งเป็นลูกหนี้ชอบที่จะชำระหนี้ค่าเช่าตึกพิพาทแก่ตัวเจ้าหนี้คือโจทก์เองโดยตรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 315
สัญญาเช่าตึกพิพาทระบุการผิดสัญญาเช่าไว้หลายประการ ทั้งกรณีที่ผิดสัญญาเช่าข้อหนึ่งข้อใดก็ยินยอมให้ผู้ให้เช่าบอกกล่าวเลิกสัญญาได้ ฉะนั้น การที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระค่าเช่า โจทก์ก็บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าได้ตามกฎหมายโดยไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 วรรคสอง
จำเลยผู้เช่าซึ่งเป็นลูกหนี้ชอบที่จะชำระหนี้ค่าเช่าตึกพิพาทแก่ตัวเจ้าหนี้คือโจทก์เองโดยตรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 315
สัญญาเช่าตึกพิพาทระบุการผิดสัญญาเช่าไว้หลายประการ ทั้งกรณีที่ผิดสัญญาเช่าข้อหนึ่งข้อใดก็ยินยอมให้ผู้ให้เช่าบอกกล่าวเลิกสัญญาได้ ฉะนั้น การที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระค่าเช่า โจทก์ก็บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าได้ตามกฎหมายโดยไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 506/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมให้ปรับปรุงและเช่าช่วงตึก, สิทธิบอกเลิกสัญญาเช่า, และการชำระหนี้ค่าเช่า
การที่โจทก์ผู้ให้เช่ายินยอมให้จำเลยผู้เช่าดัดแปลงปรับปรุงซ่อมแซมตึกพิพาท แม้ตึกพิพาทจะเสียหายไปบ้าง โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย
จำเลยผู้เช่าซึ่งเป็นลูกหนี้ ชอบที่จะชำระหนี้ค่าเช่าตึกพิพาทแก่ตัวเจ้าหนี้คือโจทก์เองโดยตรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 315
สัญญาเช่าตึกพิพาทระบุการผิดสัญญาเช่าไว้หลายประการทั้งกรณีที่ผิดสัญญาเช่าข้อหนึ่งข้อใดก็ยินยอมให้ผู้ให้เช่าบอกกล่าวเลิกสัญญาได้ ฉะนั้น การที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระค่าเช่า โจทก์ก็บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าได้ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 วรรค 2
จำเลยผู้เช่าซึ่งเป็นลูกหนี้ ชอบที่จะชำระหนี้ค่าเช่าตึกพิพาทแก่ตัวเจ้าหนี้คือโจทก์เองโดยตรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 315
สัญญาเช่าตึกพิพาทระบุการผิดสัญญาเช่าไว้หลายประการทั้งกรณีที่ผิดสัญญาเช่าข้อหนึ่งข้อใดก็ยินยอมให้ผู้ให้เช่าบอกกล่าวเลิกสัญญาได้ ฉะนั้น การที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระค่าเช่า โจทก์ก็บอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าได้ตามกฎหมาย โดยไม่ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 560 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนำทรัพย์เป็นประกันหนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์ทั่วไปหรือทรัพย์จำนำก็ได้
การจำนำเป็นการเอาทรัพย์เป็นประกันการชำระหนี้ อาจแบ่งแยกการจำนำกับหนี้ที่เอาทรัพย์เป็นประกันเป็นคนละส่วนได้ เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องอย่างหนี้สามัญ โดยบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทั่วไปของลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 214 หรือจะบังคับจำนำก็ได้ การจำนำมิได้ผูกพันผู้รับจำนำให้ต้องบังคับจำนำเฉพาะแต่ทางเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนำเป็นประกันหนี้ เจ้าหนี้มีสิทธิบังคับชำระหนี้ได้ทั้งจากทรัพย์สินทั่วไปและทรัพย์ที่จำนำ
การจำนำเป็นการเอาทรัพย์เป็นประกันการชำระหนี้อาจแบ่งแยกการจำนำกับหนี้ที่เอาทรัพย์เป็นประกันเป็นคนละส่วนได้ เจ้าหนี้จะใช้สิทธิเรียกร้องอย่างหนี้สามัญโดยบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินทั่วไปของลูกหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 214 หรือจะบังคับจำนำก็ได้ การจำนำมิได้ผูกพันผู้รับจำนำให้ต้องบังคับจำนำเฉพาะแต่ทางเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474-475/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของนิติกรรมซื้อขาย, การรับมรดก, และผลของการบอกเลิกสัญญาเช่าที่ชอบด้วยกฎหมาย
ข้อบกพร่องในการที่เจ้าหน้าที่กรอกชื่อบริษัทโจทก์ร่วมไว้ในทะเบียนการให้และสัญญาซื้อขายขาดคำว่า "จำกัด" ท้ายชื่อไปไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงความสมบูรณ์ของนิติกรรมที่ทำขึ้น
ภริยาจำเลยแถลงต่อศาลชั้นต้นยอมรับเป็นผู้รับมรดกความแทนจำเลย และได้รับความยินยอมจากคู่ความ ทั้งไม่มีฝ่ายใดโต้แย้งในการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ภริยาจำเลยเข้ารับมรดกความ แม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้สั่งอย่างใด ถือได้ว่าอนุญาตให้เป็นไปตามที่ภริยาจำเลยยอมรับจึงไม่ชอบที่ภริยาจำเลยจะรื้อฟื้นขึ้นอ้างว่าศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำสั่งในเรื่องนี้อีก
เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่งหนังสือบอกเลิกการเช่าของทนายโจทก์ถึงจำเลย ไปยังที่อยู่ของจำเลยถึง 3 ครั้งก็ไม่มีผู้รับ ดังนี้ ถือได้ว่าคำบอกกล่าวเลิกสัญญาของโจทก์มีผลนับแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่งไปถึงสถานที่ของจำเลย และจำเลยได้ทราบคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าของโจทก์โดยชอบสัญญาเช่าได้ระงับเลิกไปแล้วจำเลยจึงต้องออกจากตึกพิพาทของโจทก์
ภริยาจำเลยแถลงต่อศาลชั้นต้นยอมรับเป็นผู้รับมรดกความแทนจำเลย และได้รับความยินยอมจากคู่ความ ทั้งไม่มีฝ่ายใดโต้แย้งในการที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ภริยาจำเลยเข้ารับมรดกความ แม้ศาลอุทธรณ์จะมิได้สั่งอย่างใด ถือได้ว่าอนุญาตให้เป็นไปตามที่ภริยาจำเลยยอมรับจึงไม่ชอบที่ภริยาจำเลยจะรื้อฟื้นขึ้นอ้างว่าศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำสั่งในเรื่องนี้อีก
เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่งหนังสือบอกเลิกการเช่าของทนายโจทก์ถึงจำเลย ไปยังที่อยู่ของจำเลยถึง 3 ครั้งก็ไม่มีผู้รับ ดังนี้ ถือได้ว่าคำบอกกล่าวเลิกสัญญาของโจทก์มีผลนับแต่เมื่อเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์นำส่งไปถึงสถานที่ของจำเลย และจำเลยได้ทราบคำบอกกล่าวเลิกสัญญาเช่าของโจทก์โดยชอบสัญญาเช่าได้ระงับเลิกไปแล้วจำเลยจึงต้องออกจากตึกพิพาทของโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาพยายามฆ่า: การเงื้อมีดขู่ ไม่ถึงขั้นลงมือทำร้าย
จำเลยเงื้อมีดในขณะที่ยังอยู่ห่างผู้เสียหายในระยะที่จำเลยไม่อาจทำร้ายผู้เสียหายได้ และมีคนขวางอยู่ถึงสองคนก่อนที่จะถึงตัวผู้เสียหายลักษณะที่จำเลยเงื้อมีดขึ้นโดยไม่มีโอกาสฟันทำร้ายผู้เสียหายได้ เช่นนี้น่าจะเพียงเพื่อขู่ผู้เสียหายเท่านั้น ยังฟังไม่ได้ว่าถึงขั้นเจตนาจะฆ่า อันจะมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น