คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุธี โรจนธรรม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 428 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องรุกล้ำที่ดินไม่เป็นฟ้องซ้ำ หากการรุกล้ำเป็นคนละช่วงเวลาและเกินแนวเขตเดิมที่ตกลงกันไว้
โจทก์จำเลยเคยพิพาทกันเกี่ยวกับที่พิพาทชั้นศาล และทำสัญญายอมความกันให้กำนันไปปักหลักเขตแล้วครั้งหนึ่ง คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกที่พิพาทนั้นอีก โดยข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยทำคันนารุกล้ำจากหลักแนวเขตที่กำนันปักไว้ตามสัญญายอมเข้ามาในที่ดินของโจทก์มากขึ้นกว่าเดิม เป็นคนละประเด็นกับคดีก่อน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินส่วนได้ของจำเลยร่วมในคดีบังคับคดี ศาลฎีกาพิพากษายืนสิทธิจำเลยร่วมคัดค้านการอายัดได้หากเงินนั้นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของมรดกที่ต้องชำระหนี้
ในชั้นบังคับคดี ศาลได้สั่งอายัดเงินส่วนได้ของจำเลยร่วมซึ่งจะได้รับชำระจากเจ้าพนักงานบังคับคดีไว้ตามคำร้องของโจทก์และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งการอายัดให้จำเลยร่วมทราบแล้วในกรณีเช่นนี้มิได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายระบุไว้โดยตรงว่าให้จำเลยร่วมร้องคัดค้านภายในกำหนดระยะเวลาเท่าใด เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดียังมิได้จ่ายเงินที่อายัดนั้นให้แก่โจทก์ไป จำเลยย่อมใช้สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ถอนการอายัดและจ่ายเงินนั้นให้แก่ตนได้ (โดยไม่มีกำหนดเวลา)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 682/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดเงินส่วนได้ของจำเลยร่วมในคดีมรดก: สิทธิในการคัดค้านและการคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัว
ในชั้นบังคับคดี ศาลได้สั่งอายัดเงินส่วนได้ของจำเลยร่วมซึ่งจะได้รับชำระจากเจ้าพนักงานบังคับคดีไว้ตามคำร้องของโจทก์และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งการอายัดให้จำเลยร่วมทราบแล้วในกรณีเช่นนี้มิได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายระบุไว้โดยตรงว่าให้จำเลยร่วมร้องคัดค้านภายในกำหนดระยะเวลาเท่าใด เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดียังมิได้จ่ายเงินที่อายัดนั้นให้แก่โจทก์ไปจำเลยย่อมใช้สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ถอนการอายัดและจ่ายเงินนั้นให้แก่ตนได้ (โดยไม่มีกำหนดเวลา)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลคดีเด็กและเยาวชน: เมื่อศาลจำหน่ายคดีเดิมแล้ว การฟ้องใหม่ต้องเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยนี้ซึ่งให้การปฏิเสธโดยให้โจทก์แยกฟ้องเป็นคดีใหม่ เช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าคดีของจำเลยยังค้างพิจารณาอยู่ต่อมาเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ ปรากฏว่าศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา เพราะจำเลยอยู่ในอำนาจศาลคดีเด็กและเยาวชนซึ่งเปิดดำเนินการในจังหวัดนั้นแล้ว ศาลชั้นต้นจึงสั่งจำหน่ายคดีให้โจทก์ไปฟ้องจำเลยต่อศาลที่มีอำนาจ คำสั่งเช่นนี้ หาเป็นการแก้ไขคำสั่งเดิมซึ่งอ่านแล้วไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 670/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลคดีเด็กฯ หลังศาลจำหน่ายคดีเดิม – การฟ้องคดีใหม่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยนี้ซึ่งให้การปฏิเสธโดยให้โจทก์แยกฟ้องเป็นคดีใหม่ เช่นนี้ ถือไม่ได้ว่าคดีของจำเลยยังค้างพิจารณาอยู่ต่อมาเมื่อโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ ปรากฏว่าศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา เพราะจำเลยอยู่ในอำนาจศาลคดีเด็กและเยาวชนซึ่งเปิดดำเนินการในจังหวัดนั้นแล้ว ศาลชั้นต้นจึงสั่งจำหน่ายคดี ให้โจทก์ไปฟ้องจำเลยต่อศาลที่มีอำนาจ คำสั่งเช่นนี้ หาเป็นการแก้ไขคำสั่งเดิมซึ่งอ่านแล้วไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระสุนปืนใช้เฉพาะสงคราม: การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่ากระสุนปืนของกลางเป็นกระสุนปืนเล็กสั้นแบบ 87 ขนาด 7.62 มม. หรือ .30 นิ้ว ใช้ยิงได้ ราษฎรทั่วไปไม่ยอมให้มีได้ ไม่ยอมให้มีการซื้อขายในท้องตลาด เป็นกระสุนปืนที่ใช้ร่วมกับอาวุธปืนที่ระบุไว้ในข้อ 4 ข้อ 5 ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 7(พ.ศ. 2501) ซึ่งข้อ 16 บัญญัติให้เครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้กับสิ่งซึ่งระบุไว้ตั้งแต่ (1) ถึง (9) เว้นแต่เครื่องกระสุนปืนชนิดและขนาดที่ใช้ได้แก่อาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาตเป็นเครื่องกระสุนปืนใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ดังนี้ กระสุนปืนของกลางย่อมเข้าลักษณะเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามมาตรา 55แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 558/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระสุนปืนสงคราม: การครอบครองกระสุนปืนขนาด 7.62 มม. ที่ใช้กับอาวุธปืนสงครามโดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่ากระสุนปืนของกลางเป็นกระสุนปืนเล็กสั้นแบบ 87 ขนาด 7.62 มม. หรือ .30 นิ้ว ใช้ยิงได้ ราษฎรทั่วไปไม่ยอมให้มีได้ ไม่ยอมให้มีการซื้อขายในท้องตลาด เป็นกระสุนปืนที่ใช้ร่วมกับอาวุธปืนที่ระบุไว้ในข้อ 4 ข้อ 5 ตามกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2501) ซึ่งข้อ 16 บัญญัติให้เครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้กับสิ่งซึ่งระบุไว้ตั้งแต่ (1) ถึง (9) เว้นแต่เครื่องกระสุนปืนชนิดและขนาดที่ใช้ได้แก่อาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาตเป็นเครื่องกระสุนปืนใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ดังนี้ กระสุนปืนของกลางย่อมเข้าลักษณะเป็นเครื่องกระสุนปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2514

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกที่ดินและกรรมสิทธิ์เฉพาะส่วน ทุนทรัพย์พิพาทแต่ละโจทก์มีผลต่อการฎีกา
แม้เดิมที่พิพาทจะเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่โจทก์ฟ้องว่าได้มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด และโจทก์แต่ละคนต่างครอบครองมากว่าสิบปีแล้ว คำขอท้ายฟ้องโจทก์ขอให้พิพากษาให้โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนที่ครอบครองกันมา ส่วนคำขอที่ขอให้เพิกถอนนิติกรรมยกให้ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ก็ต้องถือว่าโจทก์แต่ละคนขอให้เพิกถอนนิติกรรมในส่วนที่ดินของตนซึ่งตามรูปคดีโจทก์แต่ละคนอาจฟ้องตามส่วนของตนโดยลำพังได้ แม้จะฟ้องรวมกันมาก็ต้องถือทุนทรัพย์พิพาทของโจทก์แต่ละคน เมื่อปรากฏว่าทุนทรัพย์พิพาทของโจทก์แต่ละคนไม่เกิน 5,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คู่ความจึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งแยกที่ดินและครอบครองเพื่ออ้างสิทธิในที่ดินส่วนตน ทุนทรัพย์พิพาทจำกัดผลต่อการฎีกา
แม้เดิมที่พิพาทจะเป็นที่ดินแปลงเดียวกัน แต่โจทก์ฟ้องว่าได้มีการแบ่งแยกกันเป็นส่วนสัด และโจทก์แต่ละคนต่างครอบครองมากว่าสิบปีแล้ว คำขอท้ายฟ้องโจทก์ขอให้พิพากษาให้โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนที่ครอบครองกันมา ส่วนคำขอที่ขอให้เพิกถอนนิติกรรมยกให้ระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ก็ต้องถือว่าโจทก์แต่ละคนขอให้เพิกถอนนิติกรรมในส่วนที่ดินของตนซึ่งตามรูปคดีโจทก์แต่ละคนอาจฟ้องตามส่วนของตนโดยลำพังได้ แม้จะฟ้องรวมกันมาก็ต้องถือทุนทรัพย์พิพาทของโจทก์แต่ละคนเมื่อปรากฏว่าทุนทรัพย์พิพาทของโจทก์แต่ละคนไม่เกิน 5,000 บาท และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คู่ความจึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องละเมิดจากการยึดทรัพย์: การสะดุดหยุดของอายุความเฉพาะคดีร้องขัดทรัพย์เท่านั้น
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดทรัพย์ของโจทก์โดยอ้างว่าเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ถือว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์เพราะโจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์นั้น และฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน ดังนี้โจทก์จะต้องฟ้องภายในกำหนด 1 ปีนับแต่รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน แม้โจทก์จะได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดีปล่อยทรัพย์ การยื่นคำร้องขัดทรัพย์นั้นก็ไม่เป็นเหตุให้อายุความในเรื่องละเมิดสะดุดหยุดลง
of 43