พบผลลัพธ์ทั้งหมด 537 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การใช้กำลังเกินสมควรแม้ถูกทำร้ายก่อน
จำเลยกับผู้ตายเคยอยู่กินเป็นสามีภริยากันมาก่อนแล้วแยกกัน วันเกิดเหตุผู้ตายชักชวนจำเลยให้กลับไปอยู่กินเป็นสามีภริยากันตามเดิม จำเลยไม่ยอมไป ผู้ตายก็เข้าจับมือจะฉุดลากเอาตัวไป การที่ผู้ตายจะเข้าฉุดลากเอาตัวจำเลยไป ผู้ตายไม่มีอำนาจจะกระทำเช่นนั้นได้ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะกระทำป้องกันตนแต่การที่จำเลยใช้มีดง้าวตัวมีดยาว 1 ศอก ด้ามยาว 1 ศอก เหวี่ยงไปมาเพื่อกันมิให้ผู้ตายเข้าจับตัวจำเลย ถูกผู้ตายที่คอด้านหน้าข้างซ้ายลึกตัดกระดูกคอหลอดลม เส้นคอขาดถึงแก่ความตาย โดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ดังนี้ เป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป้องกันเกินกว่าเหตุ: การใช้กำลังป้องกันเมื่อถูกฉุดลาก แม้มีสิทธิป้องกัน แต่ต้องสมควรแก่เหตุ
จำเลยกับผู้ตายเคยอยู่กินเป็นสามีภริยากันมาก่อนแล้วแยกกันวันเกิดเหตุผู้ตายชักชวนจำเลยให้กลับไปอยู่กินเป็นสามีภริยากันตามเดิมจำเลยไม่ยอมไป ผู้ตายก็เข้าจับมือจะฉุดลากเอาตัวไป การที่ผู้ตายจะเข้าฉุดลากเอาตัวจำเลยไป ผู้ตายไม่มีอำนาจจะกระทำเช่นนั้นได้ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะกระทำป้องกันตน แต่การที่จำเลยใช้มีดง้าว ตัวมีดยาว1 ศอก ด้ามยาว 1 ศอกเหวี่ยงไปมาเพื่อกันมิให้ผู้ตายเข้าจับตัวจำเลยถูกผู้ตายที่คอด้านหน้าข้างซ้ายลึกตัดกระดูกคอหลอดลม เส้นคอขาดถึงแก่ความตาย โดยไม่ปรากฏว่าผู้ตายมีอาวุธอะไร ดังนี้ เป็นการกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าและการกระทำโดยบันดาลโทสะ: กรณีแทงผู้ตายหลังทำร้ายบุตรสาว
ผู้ตายเป็นพี่ชายจำเลยและอยู่บ้านเดียวกับจำเลย จำเลยเมาสุราและต่อยเตะบุตรสาวจำเลย ผู้ตายเข้าห้ามโดยกระชากตัวจำเลยออกมาจำเลยจะกระทืบบุตรสาวอีก ผู้ตายเอาขาขัดจำเลยล้มลง จำเลยจึงใช้มีดเฉพาะตัวมีดยาว 1 คืบแทงผู้ตายถูกที่ชายโครงซ้าย ต่อมาไม่นานผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะเลือดตกภายในจากการฉีกขาดของม้ามกระเพาะอาหารและเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้อง พฤติการณ์ดังนี้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย และการกระทำของจำเลยไม่ เป็นการกระทำขณะบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1788/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยเจตนา: การกระทำรุนแรงต่อเนื่องและการใช้มีดเป็นหลักฐานแสดงเจตนา
ผู้ตายเป็นพี่ชายจำเลยและอยู่บ้านเดียวกับจำเลย จำเลยเมาสุราและต่อยเตะบุตรสาวจำเลย ผู้ตายเข้าห้ามโดยกระชาก ตัวจำเลยออกมาจำเลยจะกระทืบบุตรสาวอีก ผู้ตายเอาขาขัดจำเลยล้มลง จำเลยจึงใช้มีดเฉพาะตัวมีดยาว 1 คืบแทงผู้ตายถูกที่ชายโครงซ้าย ต่อมาไม่นานผู้ตายถึงแก่ความตาย เพราะเลือดตกภายในจากการฉีกขาดของม้าม กระเพาะอาหารและเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้อง พฤติการณ์ดังนี้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย และการกระทำของจำเลยไม่เป็นการกระทำขณะบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดเล่นโบว์ลิ่งเก็บเงินจากผู้เล่น ถือเป็น 'มหรสพ' ตามประมวลรัษฎากร ต้องเสียอากร
การแสดง การเล่น หรือการกีฬา การประกวดหรือการกระทำใด ๆถ้าเจ้าของจัดขึ้นเพื่อเก็บเงินจากผู้ดู ย่อมเป็นมหรสพตามประมวลรัษฎากรมาตรา 130 คำว่า 'ผู้ดู' ตามมาตรานี้ หมายความถึงบุคคลผู้เข้าดูหรือเข้าฟังหรือเข้ามีส่วนแสดงมหรสพนั้น ๆ เอง ประเภทใดประเภทหนึ่งก็ได้ แล้วแต่ประเภทของมหรสพ 'ค่าดู' มหรสพไม่ใช่หมายถึงเงินค่าตั๋วแต่อย่างเดียว เงินค่าอย่างอื่น เช่นเงินค่าเล่น หรือค่าเกม การเล่นโบว์ลิ่งก็เป็นค่าดูตามมาตรานี้ด้วย
การจัดให้มีการเล่นโบว์ลิ่ง โดยเก็บเงินผู้เข้าเล่น ซึ่งเป็นผู้เข้ามีส่วนแสดงในการเล่น เป็นการเก็บเงินจากผู้ดูตามกฎหมายแล้วแม้จะไม่เก็บเงินจากผู้เข้าชมหรือดูการเล่นเฉย ๆ ก็เป็น 'มหรสพ'ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 130 อันจะต้องเสียอากรตามกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 28/2513)
การจัดให้มีการเล่นโบว์ลิ่ง โดยเก็บเงินผู้เข้าเล่น ซึ่งเป็นผู้เข้ามีส่วนแสดงในการเล่น เป็นการเก็บเงินจากผู้ดูตามกฎหมายแล้วแม้จะไม่เก็บเงินจากผู้เข้าชมหรือดูการเล่นเฉย ๆ ก็เป็น 'มหรสพ'ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 130 อันจะต้องเสียอากรตามกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 28/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1724/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเล่นโบว์ลิ่งเก็บเงินจากผู้เล่น ถือเป็น 'มหรสพ' ตามประมวลรัษฎากร ต้องเสียอากร
การแสดง การเล่น หรือการกีฬา การประกวดหรือการกระทำใด ๆถ้าเจ้าของจัดขึ้นเพื่อเก็บเงินจากผู้ดู ย่อมเป็นมหรสพตามประมวลรัษฎากรมาตรา 130 คำว่า 'ผู้ดู' ตามมาตรานี้ หมายความถึงบุคคลผู้เข้าดูหรือเข้าฟังหรือเข้ามีส่วนแสดงมหรสพนั้น ๆ เอง ประเภทใดประเภทหนึ่งก็ได้แล้วแต่ประเภทของมหรสพ 'ค่าดู' มหรสพไม่ใช่หมายถึงเงินค่าตั๋วแต่อย่างเดียว เงินค่าอย่างอื่น เช่นเงินค่าเล่น หรือค่าเกมการเล่นโบว์ลิ่งก็เป็นค่าดูตามมาตรานี้ด้วย
การจัดให้มีการเล่นโบว์ลิ่ง โดยเก็บเงินผู้เข้าเล่น ซึ่งเป็นผู้เข้ามีส่วนแสดงในการเล่น เป็นการเก็บเงินจากผู้ดูตามกฎหมายแล้วแม้จะไม่เก็บเงินจากผู้เข้าชมหรือดูการเล่นเฉย ๆ ก็เป็น 'มหรสพ'ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 130 อันจะต้องเสียอากรตามกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 28/2513)
การจัดให้มีการเล่นโบว์ลิ่ง โดยเก็บเงินผู้เข้าเล่น ซึ่งเป็นผู้เข้ามีส่วนแสดงในการเล่น เป็นการเก็บเงินจากผู้ดูตามกฎหมายแล้วแม้จะไม่เก็บเงินจากผู้เข้าชมหรือดูการเล่นเฉย ๆ ก็เป็น 'มหรสพ'ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 130 อันจะต้องเสียอากรตามกฎหมาย
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 28/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการใช้สิทธิป้องกันตัวเมื่อถูกทำร้ายด้วยอาวุธ การกระทำพอสมควรแก่เหตุ
เมื่อผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุวิ่งไปเอาขวานมาฟันจำเลยถึงบ้านจำเลย2 ที ถูกพื้นกระดาน 1 ที ถูกศีรษะจำเลย 1 ที จำเลยย่อมมีสิทธิจะป้องกันชีวิตของตนได้ และจำเลยมิได้กระโดดลงมาจากบ้านเข้าต่อสู้กับผู้ตายที่พื้นดินหน้าบ้าน จึงไม่มีเหตุที่จะถือว่าจำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้ตาย การที่จำเลยแทงภายหลังที่ผู้ตายใช้ขวานฟันถึง 2 ครั้งในเวลามืดค่ำ มีแต่แสงตะเกียงในบ้านจำเลย และต่างคนมึนเมาสุราด้วยกัน โดยไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน พฤติการณ์เหล่านี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1690/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่สมควรแก่เหตุ: ผู้ถูกทำร้ายมีสิทธิป้องกันตนเองเมื่อถูกข่มขู่ด้วยอาวุธ
เมื่อผู้ตายเป็นฝ่ายก่อเหตุวิ่งไปเอาขวานมาฟันจำเลยถึงบ้านจำเลย2 ที ถูกพื้นกระดาน 1 ที ถูกศีรษะจำเลย 1 ที จำเลยย่อมมีสิทธิจะป้องกันชีวิตของตนได้ และจำเลยมิได้กระโดดลงมาจากบ้านเข้าต่อสู้กับผู้ตายที่พื้นดินหน้าบ้าน จึงไม่มีเหตุที่จะถือว่าจำเลยสมัครใจวิวาทกับผู้ตาย การที่จำเลยแทงภายหลังที่ผู้ตายใช้ขวานฟันถึง 2 ครั้งในเวลามืดค่ำ มีแต่แสงตะเกียงในบ้านจำเลย และต่างคนมึนเมาสุราด้วยกัน โดยไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน พฤติการณ์เหล่านี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1658/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อไม่สมบูรณ์เมื่อกรรมการลงลายมือชื่อคนเดียว ขาดการประทับตราบริษัท สัญญาจึงไม่มีผลผูกพัน
จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ฟ้องเป็นเอกสารที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทโจทก์ ลงลายมือชื่อแต่ผู้เดียวเป็นการไม่ถูกต้องตามหนังสือรับรองของหอทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางถือได้ว่าจำเลยตั้งประเด็นต่อสู้เรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์แล้ว
กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำแทนบริษัทโจทก์ได้มี 3 คน สองในสามคนมีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำแทนบริษัทได้แต่ต้องประทับตราสำคัญของบริษัทด้วย ดังนี้ การลงลายมือชื่อในเอกสารที่ทำขึ้นในนามของโจทก์ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด จะมีผลเป็นการลงลายมือชื่อของโจทก์โดยสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อกรรมการที่ระบุชื่อไว้ลงลายมือชื่อแทนโจทก์ไม่น้อยกว่าสองคนและประทับตราด้วยแต่ตามสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำไว้กับจำเลย ปรากฏว่ากรรมการผู้เดียวลงลายมือชื่อเป็นคู่สัญญาในฐานะผู้ให้เช่าซื้อ จึงไม่มีผลสมบูรณ์เป็นการลงลายมือชื่อของโจทก์ ถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นคู่สัญญาเช่าซื้อกับจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อฟ้องโจทก์ต้องยกเสียโดยไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาว่า เป็นการกระทำของตัวแทนซึ่งกระทำไปโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจ และโจทก์ซึ่งเป็นตัวการได้ให้สัตยาบันแล้วหรือไม่เพราะเป็นการนอกประเด็นจากคำฟ้องและคำให้การ
(วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2513)
กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำแทนบริษัทโจทก์ได้มี 3 คน สองในสามคนมีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำแทนบริษัทได้แต่ต้องประทับตราสำคัญของบริษัทด้วย ดังนี้ การลงลายมือชื่อในเอกสารที่ทำขึ้นในนามของโจทก์ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด จะมีผลเป็นการลงลายมือชื่อของโจทก์โดยสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อกรรมการที่ระบุชื่อไว้ลงลายมือชื่อแทนโจทก์ไม่น้อยกว่าสองคนและประทับตราด้วยแต่ตามสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำไว้กับจำเลย ปรากฏว่ากรรมการผู้เดียวลงลายมือชื่อเป็นคู่สัญญาในฐานะผู้ให้เช่าซื้อ จึงไม่มีผลสมบูรณ์เป็นการลงลายมือชื่อของโจทก์ ถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นคู่สัญญาเช่าซื้อกับจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อฟ้องโจทก์ต้องยกเสียโดยไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาว่า เป็นการกระทำของตัวแทนซึ่งกระทำไปโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจ และโจทก์ซึ่งเป็นตัวการได้ให้สัตยาบันแล้วหรือไม่เพราะเป็นการนอกประเด็นจากคำฟ้องและคำให้การ
(วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1658/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อที่ไม่สมบูรณ์: การลงลายมือชื่อกรรมการคนเดียวไม่ผูกพันบริษัท
จำเลยต่อสู้ว่าสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ฟ้องเป็นเอกสารที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทโจทก์ ลงลายมือชื่อแต่ผู้เดียวเป็นการไม่ถูกต้องตามหนังสือรับรองของหอทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางถือได้ว่าจำเลยตั้งประเด็นต่อสู้เรื่องอำนาจฟ้องของโจทก์แล้ว
กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำแทนบริษัทโจทก์ได้มี 3 คนสองในสามคนมีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำแทนบริษัทได้แต่ต้องประทับตราสำคัญของบริษัทด้วย ดังนี้ การลงลายมือชื่อในเอกสารที่ทำขึ้นในนามของโจทก์ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด จะมีผลเป็นการลงลายมือชื่อของโจทก์โดยสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อกรรมการที่ระบุชื่อไว้ลงลายมือชื่อแทนโจทก์ไม่น้อยกว่าสองคนและประทับตราด้วยแต่ตามสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำไว้กับจำเลย ปรากฏว่ากรรมการผู้เดียวลงลายมือชื่อเป็นคู่สัญญาในฐานะผู้ให้เช่าซื้อ จึงไม่มีผลสมบูรณ์เป็นการลงลายมือชื่อของโจทก์ ถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นคู่สัญญาเช่าซื้อกับจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อฟ้องโจทก์ต้องยกเสีย โดยไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาว่า เป็นการกระทำของตัวแทนซึ่งกระทำไปโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจ และโจทก์ซึ่งเป็นตัวการได้ให้สัตยาบันแล้วหรือไม่เพราะเป็นการนอกประเด็นจากคำฟ้องและคำให้การ
(วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2513)
กรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำแทนบริษัทโจทก์ได้มี 3 คนสองในสามคนมีอำนาจลงลายมือชื่อกระทำแทนบริษัทได้แต่ต้องประทับตราสำคัญของบริษัทด้วย ดังนี้ การลงลายมือชื่อในเอกสารที่ทำขึ้นในนามของโจทก์ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด จะมีผลเป็นการลงลายมือชื่อของโจทก์โดยสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อกรรมการที่ระบุชื่อไว้ลงลายมือชื่อแทนโจทก์ไม่น้อยกว่าสองคนและประทับตราด้วยแต่ตามสัญญาเช่าซื้อที่โจทก์ทำไว้กับจำเลย ปรากฏว่ากรรมการผู้เดียวลงลายมือชื่อเป็นคู่สัญญาในฐานะผู้ให้เช่าซื้อ จึงไม่มีผลสมบูรณ์เป็นการลงลายมือชื่อของโจทก์ ถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นคู่สัญญาเช่าซื้อกับจำเลย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อฟ้องโจทก์ต้องยกเสีย โดยไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาว่า เป็นการกระทำของตัวแทนซึ่งกระทำไปโดยปราศจากอำนาจ หรือทำนอกทำเหนือขอบอำนาจ และโจทก์ซึ่งเป็นตัวการได้ให้สัตยาบันแล้วหรือไม่เพราะเป็นการนอกประเด็นจากคำฟ้องและคำให้การ
(วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 24/2513)