คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
วินัย ทองลงยา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 537 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อหาต่างกัน ศาลไม่ลงโทษตามฟ้องได้ แม้เป็นการพนันรูปแบบเดียวกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเล่นดวด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเล่นสกาพนัน การเล่นดวดเป็นผิดตามมาตรา 4 ส่วนการเล่นสกาพนันเป็นความผิดตามมาตรา 4 ทวิ ซึ่งเป็นคนละบทมาตรากัน จึงต้องถือว่าเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ ศาลจะลงโทษจำเลยในข้อเท็จจริงนั้น ๆ ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 3 และเมื่อเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้อุทธรณ์ให้มิต้องถูกรับโทษได้ด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 237/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงข้อหาจาก 'ดวด' เป็น 'สกา' ทำให้ศาลยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเล่นดวด แต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเล่นสกาพนัน การเล่นดวดเป็นผิดตามมาตรา 4 ส่วนการเล่นสกาพนันเป็นความผิดตามมาตรา 4 ทวิ ซึ่งเป็นคนละบทมาตรากัน จึงต้องถือว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณาไม่ใช่เป็นเรื่องที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ ศาลจะลงโทษจำเลยในข้อเท็จจริงนั้น ๆ ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม และเมื่อเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยอื่นที่มิได้อุทธรณ์ ให้มิต้องถูกรับโทษได้ด้วยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีปลอมแปลงพินัยกรรม การถอนฟ้องจำเลย และการพิพากษาคดีอาญา
การที่จำเลยสมคบกันปลอมพินัยกรรมขึ้น แล้วนำพินัยกรรมปลอมไปใช้ ย่อมทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับพินัยกรรมฉบับที่แท้จริงได้รับความเสียหาย โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
ในชั้นแรก แม้จะได้ฟ้องบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นจำเลยร่วมกับจำเลยอื่นไว้ แต่โจทก์ได้ถอนฟ้องคนเหล่านี้ไปก่อนที่จะลงมือสืบพยานโจทก์ ขณะที่เบิกความเป็นพยานโจทก์ บุคคลดังกล่าวไม่ได้อยู่ในฐานะเป็นจำเลย กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 232
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกันปลอมแปลงพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมือง แต่ทางพิจารณาปรากฏว่าพินัยกรรมฉบับแท้จริงไม่ได้กระทำโดยกรมการอำเภอ ตามกฎหมายพินัยกรรมนั้น จึงไม่ใช่เป็นเอกสารฝ่ายเมือง ก็เป็นข้อแตกต่างที่ไม่ใช่สารสำคัญ ศาลจะยกฟ้องของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรค 2 หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 227/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลอมแปลงพินัยกรรมและการฟ้องคดีอาญา ผู้เสียหายมีอำนาจฟ้อง แม้พินัยกรรมจะไม่ใช่เอกสารฝ่ายเมือง
การที่จำเลยสมคบกันปลอมพินัยกรรมขึ้นแล้วนำพินัยกรรมปลอมไปใช้ย่อมทำให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับพินัยกรรมฉบับที่แท้จริงได้รับความเสียหาย โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
ในชั้นแรก แม้จะได้ฟ้องบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นจำเลยร่วมกับจำเลยอื่นไว้ แต่โจทก์ได้ถอนฟ้องคนเหล่านี้ไปก่อนที่จะลงมือสืบพยานโจทก์ ขณะที่เบิกความเป็นพยานโจทก์บุคคลดังกล่าวไม่ได้อยู่ในฐานะเป็นจำเลย กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 232
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยร่วมกันปลอมแปลงพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองแต่ทางพิจารณาปรากฏว่าพินัยกรรมฉบับแท้จริงไม่ได้กระทำโดยกรมการอำเภอตามกฎหมายพินัยกรรมนั้น จึงไม่ใช่เป็นเอกสารฝ่ายเมืองก็เป็นข้อแตกต่างที่ไม่ใช่สารสำคัญ ศาลจะยกฟ้องของโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสอง หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะและเจตนา: ลดโทษฐานถูกข่มเหง
ผู้ตายด่าและตบตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดทำครัวซึ่งยาวทั้งตัวและด้าม 1 คืบแทงผู้ตายไป 1 ทีแล้ววิ่งหนี ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่พอฟังว่า จำเลยได้เล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยว่าผู้ถูกแทงจะถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยเจตนา และพฤติการณ์เช่นนี้ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
จำเลยต่อสู้ในคำให้การว่า ทำโดยป้องกัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลก็ยกข้อบันดาลโทสะขึ้นอ้างเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายโดยบันดาลโทสะและเหตุป้องกันตัว ศาลพิจารณาเจตนาและเหตุแห่งการกระทำ
ผู้ตายด่าและตบตีจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้มีดทำครัวซึ่งยาวทั้งตัวและด้าม 1 คืบแทงผู้ตายไป 1 ทีแล้ววิ่งหนี ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า เพราะข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่พอฟังว่าจำเลยได้เล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยว่าผู้ถูกแทงจะถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีผิดเพียงฐานฆ่าคนโดยไม่เจตนา และพฤติการณ์เช่นนี้ถือว่าจำเลยทำร้ายผู้ตายเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
จำเลยต่อสู้ในคำให้การว่า ทำโดยป้องกัน แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ ศาลก็ยกข้อบันดาลโทสะขึ้นอ้างเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 215/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขาดไร้อุปการะจากบุตรเสียชีวิต: สิทธิบิดาแม้ฐานะดี ไม่ต้องพิสูจน์ความยากไร้
ในกรณีบุตรถูกทำละเมิดถึงตาย บิดาย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าขาดไร้อุปการะได้ ทั้งนี้มิพักต้องคำนึงถึงฐานะทางการเงินว่าเป็นอยู่อย่างไรและได้รับอุปการะอยู่ขณะบุตรตายหรือไม่ เพราะค่าสินไหมทดแทนส่วนนี้หมายรวมถึงการสูญสิ้นซึ่งความคาดหวังในอุปการะจากบุตรหากตนมีอันต้องยากไร้ลงในเวลาภายหน้าด้วย ฉะนั้นจะนำหลักเกณฑ์การเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูระหว่างผู้มีความสัมพันธ์ทางครอบครัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 มาใช้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 215/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าขาดไร้อุปการะจากบุตรเสียชีวิต: สิทธิบิดาแม้มีฐานะดี ไม่จำกัดเฉพาะผู้ยากไร้
ในกรณีบุตรถูกทำละเมิดถึงตาย บิดาย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่าขาดไร้อุปการะได้ ทั้งนี้มิพักต้องคำนึงถึงฐานะทางการเงินว่าเป็นอยู่อย่างไรและได้รับอุปการะอยู่ขณะบุตรตายหรือไม่ เพราะค่าสินไหมทดแทนส่วนนี้หมายรวมถึงการสูญสิ้นซึ่งความคาดหวังในอุปการะจากบุตรหากตนมีอันต้องยากไร้ลงในเวลาภายหน้าด้วย ฉะนั้นจะนำหลักเกณฑ์การเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูระหว่างผู้มีความสัมพันธ์ทางครอบครัวตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 5 มาใช้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวเกิน 200 กิโลกรัมโดยไม่ได้รับอนุญาตภายในเขตควบคุมการค้าข้าว ถือเป็นความผิดตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด
ประกาศกำหนดการควบคุมการค้าข้าวมีข้อความว่า 'ห้ามมิให้ยักย้ายหรือขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไปออกไปจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุม เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่จังหวัดสตูลหรือผู้รักษาการแทนฯ.....' นั้น กินความถึงการขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป ออกจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนย้ายข้าวเกิน 200 กก. โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในเขตควบคุมการค้าข้าว ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การค้าข้าว
ประกาศกำหนดการควบคุมการค้าข้าวมีข้อความว่า "ห้ามมิให้ยักย้ายหรือขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป ออกไปจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุม เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่จังหวัดสตูลหรือผู้รักษาการแทน....ฯ" นั้น กินความถึงการขนย้ายข้าวทุกชนิดตั้งแต่ 200 กิโลกรัมขึ้นไป ออกจากสถานที่เก็บภายในเขตควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ฯ
of 54