คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 194

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 363 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3649/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ขายฝากที่ผิดสัญญาและรื้อถอนทรัพย์สิน - อายุความ 10 ปี
เมื่อบ้านที่ขายฝากตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แล้ว จำเลยไม่มีสิทธิจะยึดถือครอบครองและจะต้องส่งมอบบ้านแก่โจทก์ การที่จำเลยรื้อบ้านดังกล่าวจะเป็นการทำละเมิดด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่ที่โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชดใช้ราคาบ้านรวมทั้งค่าเสียหายจากการที่ไม่ได้ใช้บ้านซึ่งโจทก์รับซื้อฝากไว้มีลักษณะเป็นการใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์ของโจทก์คืนจากจำเลยผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความฟ้องร้องไว้โดยเฉพาะจึงต้องถือว่ามีอายุความฟ้องร้อง 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 หาใช่เป็นเรื่องละเมิดอย่างเดียวและมีอายุความเพียง 1 ปีไม่
การที่จำเลยเป็นผู้ขอให้เรียกกรมการศาสนาเข้ามาเป็นคู่ความเองและคำฟ้องของกรมการศาสนาก็เป็นเรื่องให้จำเลยออกไปจากที่ดินพิพาท ซึ่งโจทก์เช่าจากกรมการศาสนาจึงเป็นเรื่องเดียวกันและเกี่ยวกับฟ้องเดิมเพียงขอเรียกค่าเสียหายมาด้วยเท่านั้นและคดีนี้ก็ไม่มีประเด็นข้อพิพาทเรื่องค่าเสียหายซ้ำซ้อนเพราะจำเลยยอมรับมาเองว่า กรมการศาสนาได้รับความเสียหาย ซึ่งศาลชั้นต้นก็ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่กรมการศาสนาตามนั้น จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาโต้เถียงเป็นอย่างอื่นอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3649/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการติดตามเอาทรัพย์คืนเมื่อขายฝากไม่ไถ่ และอายุความฟ้องร้องที่แตกต่างกัน
เมื่อบ้านที่ขายฝากตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แล้ว จำเลยไม่มีสิทธิจะยึดถือครอบครองและจะต้องส่งมอบบ้านแก่โจทก์ การที่จำเลยรื้อบ้านดังกล่าวจะเป็นการทำละเมิดด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่ที่โจทก์ฟ้องจำเลยให้ชดใช้ราคาบ้านรวมทั้งค่าเสียหายจากการที่ไม่ได้ใช้บ้านซึ่งโจทก์รับซื้อฝากไว้มีลักษณะเป็นการใช้สิทธิติดตามเอาทรัพย์ของโจทก์คืนจากจำเลยผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1336 ซึ่งไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความฟ้องร้องไว้โดยเฉพาะจึงต้องถือว่ามีอายุความฟ้องร้อง 10 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 หาใช่เป็นเรื่องละเมิดอย่างเดียวและมีอายุความเพียง 1 ปีไม่
การที่จำเลยเป็นผู้ขอให้เรียกกรมการศาสนาเข้ามาเป็นคู่ความเองและคำฟ้องของกรมการศาสนาก็เป็นเรื่องให้จำเลยออกไปจากที่ดินพิพาท ซึ่งโจทก์เช่าจากกรมการศาสนาจึงเป็นเรื่องเดียวกันและเกี่ยวกับฟ้องเดิมเพียงขอเรียกค่าเสียหายมาด้วยเท่านั้นและคดีนี้ก็ไม่มีประเด็นข้อพิพาทเรื่องค่าเสียหายซ้ำซ้อนเพราะจำเลยยอมรับมาเองว่า กรมการศาสนาได้รับความเสียหาย ซึ่งศาลชั้นต้นก็ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่กรมการศาสนาตามนั้น จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาโต้เถียงเป็นอย่างอื่นอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3409/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิรับเงินรางวัลสลากแม้สลากสูญหายหรือถูกทำลาย สัญญาซื้อขายสลากมีผลผูกพันระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
แม้จำเลยจะได้กำหนดเงื่อนไขในสลากกินแบ่งทุกฉบับว่าเงินรางวัลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับก็ตามแต่เงื่อนไขดังกล่าวก็กำหนดขึ้นเพียงเพื่อให้จำเลยมีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัลเท่านั้นไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหายหรือถูกไฟไหม้การที่จำเลยจัดให้มีการออกสลากกินแบ่งถือได้ว่าเป็นสัญญาอันมีผลผูกพันระหว่างผู้จัดการออกสลากกินแบ่งกับผู้ถูกรางวัลเมื่อโจทก์ถูกรางวัลแต่สลากถูกไฟไหม้โจทก์จึงมีสิทธิที่จะได้รับเงินรางวัลจากจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2760/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คที่ไม่สุจริตขาดอำนาจฟ้องเรียกเงินตามเช็คได้
โจทก์รับสมอ้างเป็นผู้ทรงเช็คผู้ถือและนำเช็คมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลยโจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยสุจริตโจทก์ย่อมไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คนั้นแก่ตนได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2760/2529 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คที่ไม่สุจริตไม่มีอำนาจเรียกร้องเงินตามเช็คได้
โจทก์รับสมอ้างเป็นผู้ทรงเช็คผู้ถือและนำเช็คมาฟ้องเรียกเงินจากจำเลย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยสุจริต โจทก์ย่อมไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คนั้นแก่ตนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2760/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ทรงเช็คที่ไม่สุจริตไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินตามเช็ค
โจทก์รับสมอ้างเป็นผู้ทรงเช็คผู้ถือและนำเช็คมาฟ้องเรียก เงินจากจำเลย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คโดยสุจริต โจทก์ย่อมไม่มีมูลหนี้ที่จะเรียกร้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็คนั้นแก่ตนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2651/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาทสูญหายจากความประมาทของผู้รับเช็ค หนี้ระงับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสามซื้อพลอยจากโจทก์แล้วออกเช็คพิพาทลงวันที่ล่วงหน้าชำระหนี้ค่าพลอยให้โจทก์ต่อมาเช็คนั้นหายไปจากความครอบครองของโจทก์และมีผู้แก้ไขวันออกเช็คและนำเช็คดังกล่าวเบิกเงินไปในบัญชีของจำเลยที่ธนาคารไปดังนี้เมื่อพฤติการณ์ของโจทก์มีส่วนทำให้เกิดกรณีเช็คพิพาทถูกลักโจทก์มีส่วนผิดเป็นเหตุให้เช็คพิพาทหายไปและเช็คนั้นได้ใช้เงินแล้วหนี้ที่จำเลยต้องชำระราคาพลอยให้แก่โจทก์ย่อมจะระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา321วรรคสามจำเลยทั้งสามไม่ต้องรับผิดชำระค่าพลอยที่ซื้อไปจากโจทก์ให้แก่โจทก์อีกแม้เมื่อโจทก์ทราบว่าเช็คหายโจทก์ได้รีบบอกแก่จำเลยและธนาคารเพื่อไม่ให้ใช้เงินแล้วแต่ปรากฏว่าโจทก์บอกกล่าวแก่จำเลยหลังจากที่มีการใช้เงินตามเช็คแล้วการบอกกกล่าวจึงไม่เป็นประโยชน์แก่โจทก์ หมายเหตุมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่3/2529,5/2529.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2651/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับหนี้จากการใช้เช็คพิพาทโดยมีส่วนผิดของผู้รับเช็คทำให้เช็คสูญหาย
จำเลยทั้งสามซื้อพลอยจากโจทก์แล้วออกเช็คพิพาทลงวันที่ล่วงหน้าชำระหนี้ค่าพลอยให้โจทก์ ต่อมาเช็คนั้นหายไปจากความครอบครองของโจทก์และมีผู้แก้ไขวันออกเช็คและนำเช็คดังกล่าวเบิกเงินไปในบัญชีของจำเลยที่ธนาคารไป ดังนี้ เมื่อพฤติการณ์ของโจทก์มีส่วนทำให้เกิดกรณีเช็คพิพาทถูกลัก โจทก์มีส่วนผิดเป็นเหตุให้เช็คพิพาทหายไปและเช็คนั้นได้ใช้เงินแล้ว หนี้ที่จำเลยต้องชำระราคาพลอยให้แก่โจทก์ย่อมจะระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 321 วรรคสาม จำเลยทั้งสามไม่ต้องรับผิดชำระค่าพลอยที่ซื้อไปจากโจทก์ให้แก่โจทก์อีก แม้เมื่อโจทก์ทราบว่าเช็คหายโจทก์ได้รีบบอกแก่จำเลยและธนาคารเพื่อไม่ให้ใช้เงินแล้ว แต่ปรากฏว่าโจทก์บอกกล่าวแก่จำเลยหลังจากที่มีการใช้เงินตามเช็คแล้ว การบอกกกล่าวจึงไม่เป็นประโยชน์แก่โจทก์
หมายเหตุ มติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2529

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1826/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในหนี้แทนบุคคลอื่น: สัญญาไม่มีผลเมื่อเจ้าหนี้ไม่ใช่เจ้าหนี้เดิม
การที่ ท.และ ส.ยืมเงินจากโจทก์ไปชำระให้แก่บุตรจำเลยเป็นค่าสมัครไปทำงานต่างประเทศ เมื่อ ท.และ ส.ไม่ได้ไปทำงานบุตรจำเลยจึงเป็นลูกหนี้ที่ต้องชำระเงินให้แก่ ท.และ ส.โจทก์เป็นเพียงเจ้าหนี้ของ ท.และ ส.เมื่อ ท.และ ส.มิได้โอนสิทธิเรียกร้องให้โจทก์ บุตรจำเลยจึงไม่เป็นลูกหนี้โจทก์และไม่มีหนี้ที่จำเลยจะต้องรับผิดใช้แทนแต่อย่างใด การแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากบุตรจำเลยเป็นจำเลยจึงเกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้นการที่จำเลยทำสัญญากู้ให้โจทก์เพื่อชำระหนี้แทนบุตร จึงไม่มีมูลหนี้ที่จำเลยต้องรับผิด โจทก์จะฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้รายนี้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คเพื่อประกันหนี้: แม้ตกลงไม่ขึ้นเงิน ก็ผูกพันตามกฎหมายเช็ค
โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คซึ่งจำเลยเป็นผู้สั่งจ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่า ได้ออกเช็คให้โจทก์ถือไว้เป็นประกันในการที่จำเลยกู้เงินโจทก์ไปมิใช่ออกให้เพื่อชำระหนี้ ดังนี้แม้จำเลยจะนำสืบพังได้ตามข้อต่อสู้ จำเลยก็หาพ้นความ รับผิดไม่ เพราะการที่จำเลยกู้เงินโจทก์ไปและสั่งจ่ายเช็ครายพิพาทให้โจทก์ไว้เป็นประกันดังที่จำเลยต่อสู้นั้น ย่อมเป็นการออกเช็คโดยมีมูลหนี้มาจากการกู้เงินและมีเจตนาที่จะผูกพันบังคับชำระหนี้กันได้ตามกฎหมาย เช็ครายพิพาทเป็นเช็คที่ลงวันที่ อันเป็นการกำหนดเวลาไว้แน่นอนแล้วว่า ให้ผู้ทรงเช็คนำไปยื่นแก่ธนาคารเพื่อให้ใช้เงินได้ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป ที่จำเลยอ้างว่าได้ตกลงกับโจทก์ไว้ว่า ไม่ให้นำเช็คไปขึ้นเช็คนั้น จึงขัดกับข้อความในเช็ค ทั้งจำเลยก็มิได้ต่อสู้หนี้ระหว่างโจทก์กับจำเลยซึ่งได้ออกเช็คไว้เป็นประกันนั้น ได้ระงับไปแล้วทั้งหมดหรือบางส่วนแต่อย่างใด จำเลยผู้สั่งจ่ายจึงต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้นให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 914, 989 กรณีหาใช่เป็นเรื่องการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่ คดีไม่มีประเด็นที่คู่ความจะต้องสืบพยานกันอีกต่อไป ศาลชอบที่จะมีคำสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์
of 37